ขับรถพึงสดับ-เคล็ด(ไม่)ลับ…ขับรถตะลุยน้ำท่วม พึงระวังรถจะพังเอาง่ายๆ


By : Preecha Bowornsatidya – Article Editor

ช่วงนี้แม้ฝนฟ้าแปรเปลี่ยนอย่างเฉียบพลันจนแล้งกันถ้วนหนา ฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล ท่านที่พกรถพกราตระเวณไปทั่วทุกหัวระแหงพึงสดับรับฟังไว้เป็นดีแน่แท้ ก่อนที่รถจะพังพาบดีไม่ดีตกคูคลองเอาง่าย ๆ ขับรถขับราต้องระมัดระวังกันหน่อยในเรื่องของน้ำท่วมขังทั่วไทยด้วยเหตุผลเดิมๆ จากทุกรัฐบาลแบบไทยๆ ทุกยุคทุกสมัย “น้ำเหนือหลาก น้ำทะเลหนุน”

แม้ว่าจะมีอุโมงค์ยักษ์ใหญ่ที่ใหญ่กว่ายักษ์เล็กยักษ์น้อยก็ตาม ขับรถลุยฝ่าน้ำท่วมไม่ว่าจะเป็นรถสุดหรูหราเลิศราคาจะกี่ร้อยล้านปานใดก็ตามหรือรถเก่าแก่ปุโรทั่งยิ่งกว่าภรรยาที่บ้านราคาถูกสุดๆ ในโลก มีอันเป็นไปเหมือนกันหมด หากขับรถตะลุยน้ำท่วมหนักรถพังกันมานักต่อนักแล้ว

นอกเหนือจากรถราติดยิ่งกว่าตังเมจนแกะไม่ออก เสียเวล่ำเวลาจอดค้างเติ่งอยู่บนท้องถนนหลายชั่วโมง ล่าสุดหลายรายต้องนอนค้างบนรถบนทางยกระดับเพราะด้านล่างน้ำท่วมหนักรถจอดตายขวางคลอง..เอ๊ยยยขวางถนนกันเป็นทิวแถว จากหลากปัญหา ทั้งจากความร้อนสูงเครื่องดับ ไหนจะรถจมน้ำกันเกลื่อนเมือง

ถ้าจำเป็นต้องผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมสูงหรือไม่จำเป็น แต่บังเอิญขับรถเข้าไปในจุดที่มีน้ำท่วมสูง ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดหากรู้ล่วงหน้าว่าคืนไหนฝนกระหน่ำหนัก เตรียมการล่วงหน้าไว้ได้เลยว่าถนนที่ท่วมประจำต้องท่วมแน่ ๆ ทุกวันนี้ไม่เพียงแค่กทม. เท่านั้น ปัญหานี้ลุกลามไปทั่วหัวเมืองหลักของประเทศไทยที่ความเจริญเติบโตของเมืองขยายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าดอกเห็ด

แต่ผู้บริหารจัดการตกยุคตกสมัยก้าวตามไม่ทันโลกที่ก้าวกระโดดเกินกว่ายุคโลกาภิวัฒน์ หากขับลุยน้ำไปความเสียหายจะตามมาอีกมากมาย

เบื้องแรกหากเครื่องยนต์ดับกลางคัน ถ้าเป็นถนนแคบ ๆ ทำให้รถหลังติดยาวแน่ ๆ นอกจากนี้รถที่ขับสวนทางมาสร้างคลื่นกระเพื่อมสาดเข้ามาปะทะรถอย่างต่อเนื่องมีโอกาสน้ำเข้ามาภายในห้องโดยสารมีความเป็นไปได้สูง แล้วต้องเปิดประตูลงไปเดินลุยน้ำฝ่าสายฝนไปเขนรถเข้าข้างทางก่อนโทรเรียกรถยกมาเคลื่อนรถออกไปจากจุดน้ำท่วม สนนราคาก็อยุติธรรมแน่นอนเพราะเป็น “นาทีทอง” ของบรรดาสำนักรถยกรถลากทั้งหลาย

เมื่อเร็ว ๆ นี้พรรคพวกเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัยของผมคนหนึ่งตกระกำลำบากยากเข็ญลำเค็ญยิ่งนัก มีอันต้องระเห็ดระหกระเหิรไปขับ Grab เพื่อหาข้าวรับประทานประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวัน ๆ จากปัญหาเศรษฐกิจตกสะเก็ด

ชีวิตผันแปรจากผู้มีอันจะกินท่องตระเวณย่ำราตรีไปทั่วทุกหัวระแหงแหล่งบันเทิงระยับระดับไฮโซไฮซ้อ จะกินข้าวกินปลาตามร้านข้าวแกงข้างถนน…ลืมไปได้เลย ห้องอาหารในโรงแรมโอเรียลเตลอีกแหล่งอาหารรองท้องกลายเป็นขาประจำของเจ้าเพื่อนผู้นี้

วกกลับเข้าเรื่องราวของการตระเวณขับ Grab วันดีคืนดีมีผดส. เรียกให้ไปรับในซอยสามัคคีที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำท่วมอันดับต้น ๆ ของกทม. ในช่วงเช้า พวกพ้องรายนี้รีบตะบึงไปทันควัน…เกือบถึงจุดหมายแล้วครับท่าน แต่เจ้ามือถือดันส่งเสียงดังฟังชัดตบท้ายด้วยข้อความ Cancel โอ่…พระเจ้าจอร์จจบเห่

ฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่คืนวานยังไม่หยุดหย่อนน้ำเอ่อล้นขึ้นทุกขณะ และแล้วหาที่พักพิงบน “เนินที่มองไม่เห็น” เป้าหมายน้ำท่วมต่ำสุด !!! และแล้วก็ไปไม่รอด…หลังรอน้ำลดอยู่นับชั่วโมง ในที่สุดตัดสินใจขับรถลุยน้ำออกมาปากซอยเนื่องด้วย 2 เหตุหลัก

ประการแรก…หิวโซ ประกอบกับต้องการปลดปล่อยคลายทุกข์ ตามแบบฉบับแผ่นป้ายที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ “สรีรสราญ” (ไม่ทราบว่าแผ่นป้ายข้อความนี้เปลี่ยนแปลงไปหรือยัง เนื่องจากผ่านกาลเวลามานานกว่า 40 ปีที่กระผมย่องเข้าไปด้านหลังเพื่อเข้าห้องน้ำ)

ย้อนกลับมาเข้าเรื่อง…ในที่สุดเครื่องดับกลางทางรถจอดแช่น้ำ ๆ เข้า หลังจากนั้นนำรถเข้าศูนย์รื้อพรม รื้อเบาะ รื้อแผงหน้าปัด ยาวววววววว่าง้านเถอะ… ไม่แค่นั้นเรื่องไม่จบง่าย ต้องกลับไปรื้อใหม่รอบสอง นี่ละคร๊าบบบไม่ใช่เพราะความประมาทเลิ่นเล่อ แต่เป็นความหวังล้วน ๆ ผสมผสานกับคาดไม่ถึง สาธยายมาซะยาวยืดเข้าเรื่องเทคนิคการขับรถลุยน้ำเลยแล้วกันแบบสรุปรวบรวมสั้น ๆ ง่าย ๆ สบาย ๆ ได้ใจความ

1. ต้องปิดแอร์ปัจจุบันทันด่วน-เครื่องยนต์ดับแน่ ๆ นอน ๆ (ถ้าเครื่อง 3 วันดี 4 วันไข้) หากเปิดแอร์ พัดลมทำงานพัดน้ำเข้าห้องเครื่อง

2. ไม่เร่งเครื่อง-ที่เร่งเครื่องเนื่องจากกลัวเครื่องดับหรือกลัวน้ำเข้าท่อไอเสีย การเร่งเครื่องทำให้ความร้อนสูงขึ้น ใบพัดทำงานเหตุผลตามข้อแรก

3. ใช้เกียร์ต่ำ- สำหรับเกียร์ธรรมดาใช้เกียร์ 2 ส่วนออโต้ใช้เกียร์ L ขับประคองความเร็วช้าที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดและอย่าเร่ง

4. ลดความเร็วเมื่อมีรถสวนมา – ถ้าเร่งทำให้เกิดคลื่นชนคลื่นน้ำกระเด็นเข้าอุปกรณ์ภายใน

5. ย้ำเบรกย้ำคลัทช์-เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก รถเกียร์ธรรมดาต้องย้ำคลัชด้วยนะ แก้ปัญหาคลัชลื่นหลังจากขับรถฝ่าน้ำลึกรอดปลอดภัย ปิดท้ายด้วยการไม่ดับเครื่องทันทีหลังจากรอดพ้นจุดวิกฤตมาได้ ติดเครื่องไว้สักพักเพื่อไล่ความชื้นต่าง ๆ แถมด้วยข้อคิด หากขับรถลุยน้ำท่วมจนรถเสียหายประกันไม่รับเคลมซะด้วยซิ พับผ่า!!!!

By : Preecha Bowornsatidya - Article Editor

ช่วงนี้แม้ฝนฟ้าแปรเปลี่ยนอย่างเฉียบพลันจนแล้งกันถ้วนหนา ฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล ท่านที่พกรถพกราตระเวณไปทั่วทุกหัวระแหงพึงสดับรับฟังไว้เป็นดีแน่แท้ ก่อนที่รถจะพังพาบดีไม่ดีตกคูคลองเอาง่าย ๆ ขับรถขับราต้องระมัดระวังกันหน่อยในเรื่องของน้ำท่วมขังทั่วไทยด้วยเหตุผลเดิมๆ จากทุกรัฐบาลแบบไทยๆ ทุกยุคทุกสมัย "น้ำเหนือหลาก น้ำทะเลหนุน"

แม้ว่าจะมีอุโมงค์ยักษ์ใหญ่ที่ใหญ่กว่ายักษ์เล็กยักษ์น้อยก็ตาม ขับรถลุยฝ่าน้ำท่วมไม่ว่าจะเป็นรถสุดหรูหราเลิศราคาจะกี่ร้อยล้านปานใดก็ตามหรือรถเก่าแก่ปุโรทั่งยิ่งกว่าภรรยาที่บ้านราคาถูกสุดๆ ในโลก มีอันเป็นไปเหมือนกันหมด หากขับรถตะลุยน้ำท่วมหนักรถพังกันมานักต่อนักแล้ว

นอกเหนือจากรถราติดยิ่งกว่าตังเมจนแกะไม่ออก เสียเวล่ำเวลาจอดค้างเติ่งอยู่บนท้องถนนหลายชั่วโมง ล่าสุดหลายรายต้องนอนค้างบนรถบนทางยกระดับเพราะด้านล่างน้ำท่วมหนักรถจอดตายขวางคลอง..เอ๊ยยยขวางถนนกันเป็นทิวแถว จากหลากปัญหา ทั้งจากความร้อนสูงเครื่องดับ ไหนจะรถจมน้ำกันเกลื่อนเมือง

ถ้าจำเป็นต้องผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมสูงหรือไม่จำเป็น แต่บังเอิญขับรถเข้าไปในจุดที่มีน้ำท่วมสูง ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดหากรู้ล่วงหน้าว่าคืนไหนฝนกระหน่ำหนัก เตรียมการล่วงหน้าไว้ได้เลยว่าถนนที่ท่วมประจำต้องท่วมแน่ ๆ ทุกวันนี้ไม่เพียงแค่กทม. เท่านั้น ปัญหานี้ลุกลามไปทั่วหัวเมืองหลักของประเทศไทยที่ความเจริญเติบโตของเมืองขยายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าดอกเห็ด

แต่ผู้บริหารจัดการตกยุคตกสมัยก้าวตามไม่ทันโลกที่ก้าวกระโดดเกินกว่ายุคโลกาภิวัฒน์ หากขับลุยน้ำไปความเสียหายจะตามมาอีกมากมาย

เบื้องแรกหากเครื่องยนต์ดับกลางคัน ถ้าเป็นถนนแคบ ๆ ทำให้รถหลังติดยาวแน่ ๆ นอกจากนี้รถที่ขับสวนทางมาสร้างคลื่นกระเพื่อมสาดเข้ามาปะทะรถอย่างต่อเนื่องมีโอกาสน้ำเข้ามาภายในห้องโดยสารมีความเป็นไปได้สูง แล้วต้องเปิดประตูลงไปเดินลุยน้ำฝ่าสายฝนไปเขนรถเข้าข้างทางก่อนโทรเรียกรถยกมาเคลื่อนรถออกไปจากจุดน้ำท่วม สนนราคาก็อยุติธรรมแน่นอนเพราะเป็น “นาทีทอง” ของบรรดาสำนักรถยกรถลากทั้งหลาย

เมื่อเร็ว ๆ นี้พรรคพวกเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเรียนมหา'ลัยของผมคนหนึ่งตกระกำลำบากยากเข็ญลำเค็ญยิ่งนัก มีอันต้องระเห็ดระหกระเหิรไปขับ Grab เพื่อหาข้าวรับประทานประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวัน ๆ จากปัญหาเศรษฐกิจตกสะเก็ด

ชีวิตผันแปรจากผู้มีอันจะกินท่องตระเวณย่ำราตรีไปทั่วทุกหัวระแหงแหล่งบันเทิงระยับระดับไฮโซไฮซ้อ จะกินข้าวกินปลาตามร้านข้าวแกงข้างถนน...ลืมไปได้เลย ห้องอาหารในโรงแรมโอเรียลเตลอีกแหล่งอาหารรองท้องกลายเป็นขาประจำของเจ้าเพื่อนผู้นี้

วกกลับเข้าเรื่องราวของการตระเวณขับ Grab วันดีคืนดีมีผดส. เรียกให้ไปรับในซอยสามัคคีที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำท่วมอันดับต้น ๆ ของกทม. ในช่วงเช้า พวกพ้องรายนี้รีบตะบึงไปทันควัน...เกือบถึงจุดหมายแล้วครับท่าน แต่เจ้ามือถือดันส่งเสียงดังฟังชัดตบท้ายด้วยข้อความ Cancel โอ่...พระเจ้าจอร์จจบเห่

ฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่คืนวานยังไม่หยุดหย่อนน้ำเอ่อล้นขึ้นทุกขณะ และแล้วหาที่พักพิงบน "เนินที่มองไม่เห็น" เป้าหมายน้ำท่วมต่ำสุด !!! และแล้วก็ไปไม่รอด...หลังรอน้ำลดอยู่นับชั่วโมง ในที่สุดตัดสินใจขับรถลุยน้ำออกมาปากซอยเนื่องด้วย 2 เหตุหลัก

ประการแรก...หิวโซ ประกอบกับต้องการปลดปล่อยคลายทุกข์ ตามแบบฉบับแผ่นป้ายที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ “สรีรสราญ” (ไม่ทราบว่าแผ่นป้ายข้อความนี้เปลี่ยนแปลงไปหรือยัง เนื่องจากผ่านกาลเวลามานานกว่า 40 ปีที่กระผมย่องเข้าไปด้านหลังเพื่อเข้าห้องน้ำ)

ย้อนกลับมาเข้าเรื่อง...ในที่สุดเครื่องดับกลางทางรถจอดแช่น้ำ ๆ เข้า หลังจากนั้นนำรถเข้าศูนย์รื้อพรม รื้อเบาะ รื้อแผงหน้าปัด ยาวววววววว่าง้านเถอะ... ไม่แค่นั้นเรื่องไม่จบง่าย ต้องกลับไปรื้อใหม่รอบสอง นี่ละคร๊าบบบไม่ใช่เพราะความประมาทเลิ่นเล่อ แต่เป็นความหวังล้วน ๆ ผสมผสานกับคาดไม่ถึง สาธยายมาซะยาวยืดเข้าเรื่องเทคนิคการขับรถลุยน้ำเลยแล้วกันแบบสรุปรวบรวมสั้น ๆ ง่าย ๆ สบาย ๆ ได้ใจความ

1. ต้องปิดแอร์ปัจจุบันทันด่วน-เครื่องยนต์ดับแน่ ๆ นอน ๆ (ถ้าเครื่อง 3 วันดี 4 วันไข้) หากเปิดแอร์ พัดลมทำงานพัดน้ำเข้าห้องเครื่อง

2. ไม่เร่งเครื่อง-ที่เร่งเครื่องเนื่องจากกลัวเครื่องดับหรือกลัวน้ำเข้าท่อไอเสีย การเร่งเครื่องทำให้ความร้อนสูงขึ้น ใบพัดทำงานเหตุผลตามข้อแรก

3. ใช้เกียร์ต่ำ- สำหรับเกียร์ธรรมดาใช้เกียร์ 2 ส่วนออโต้ใช้เกียร์ L ขับประคองความเร็วช้าที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดและอย่าเร่ง

4. ลดความเร็วเมื่อมีรถสวนมา - ถ้าเร่งทำให้เกิดคลื่นชนคลื่นน้ำกระเด็นเข้าอุปกรณ์ภายใน

5. ย้ำเบรกย้ำคลัทช์-เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก รถเกียร์ธรรมดาต้องย้ำคลัชด้วยนะ แก้ปัญหาคลัชลื่นหลังจากขับรถฝ่าน้ำลึกรอดปลอดภัย ปิดท้ายด้วยการไม่ดับเครื่องทันทีหลังจากรอดพ้นจุดวิกฤตมาได้ ติดเครื่องไว้สักพักเพื่อไล่ความชื้นต่าง ๆ แถมด้วยข้อคิด หากขับรถลุยน้ำท่วมจนรถเสียหายประกันไม่รับเคลมซะด้วยซิ พับผ่า!!!!

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!