1909 FORD MODEL T-รถรุ่นบุกเบิกทำยอดขายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์สร้างชนชั้นกลางในสหรัฐฯ


By : C. Methas – Managing Editor

ฟอร์ด มอเตอร์เปิดตัวรุ่น Model T เมื่อปี ค.ศ. 1908 รถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ผลิตในแบบสายพานการผลิต โดยตั้งราคาไว้ที่ 825 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และในปี ค.ศ. 1925 ราคาลดลงเหลือ 260 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีการพัฒนาการผลิตแบบโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งสามารถสร้างได้เป็นจำนวนมาก

รถยนต์รุ่น Model T ของฟอร์ด ได้รับการนำไปปรับเปลี่ยนเพื่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เป็นรถยนต์รุ่นที่สามารถผลิตได้จำนวนมากถึง 57 % ของรถยนต์ทั้งหมดทั่วโลก เป็นรถรุ่นแรกที่ผลิตสำหรับตลาดโลกเป็นครั้งแรก สามารถทำรายได้ถึง 38 ร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี โดยมีตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 ทวีป

นอกจากนี้ยังสร้างให้เกิดความมั่งคั่งในอเมริกาและก่อให้เกิดชนชั้นกลางขึ้นเป็นครั้งแรกในอเมริกาจากการรถรุ่นนี้มีส่วนในการสร้างเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

Model T ได้รับการออกแบบพวงมาลัยทั้งที่อยู่ด้านซ้าย, ด้านขวาและตรงกลาง เพื่อส่งจำหน่ายในตลาดทั่วโลก โดยรุ่นพื้นฐานเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย โดยรุ่นแรกสีสันตัวถังเป็นสีดำผลิตออกไปจำนวนกว่า 12 ล้านคัน และต่อมามีสีตัวถังให้เลือกมากขึ้น ประกอบด้วยสี น้ำเงิน, สีแดง, สีเขียวและสีเทา

ในปี ค.ศ. 1925 ฟอร์ดได้ดัดแปลงรถยนต์รุ่นนี้เป็นแบบกระบะบรรทุก เป็นรุ่น Model TT ขนาด 1 ตัน ซึ่งปัจจุบันได้กลายพันธ์มาเป็นรถรุ่น F-Series กระบะปิคอัพที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในตลาดสหรัฐฯ โดยได้ปรับแปลงเป็นหลายรูปแบบให้เลือกทั้งแบบสปอร์ตคูเป้, เปิดประทุน, ซีดาน, รถโดยสารขนาดเล็กและรถปรับเป็นรถไถนา

Model T รุ่นแรกได้รับการวางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.9 ลิตร สามารถขับแรงม้าสูงสุด 20 แรงม้า เครื่องยนต์วางด้านหน้า สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 40-45 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นเครื่องยนต์ที่เป็นต้นแบบที่พัฒนามาถึงปัจจุบัน โดยฝาสูบสามารถถอดออกได้ และผลิตสร้างบนโครงฐานแชสซีส์เดียวกัน มีให้เลือกทั้งแบบทัวริ่ง, โรดสเตอร์, ซีดานและสปอร์ตคูเป้

ฟอร์ด Model T สามารถครองตำแหน่งรถยนต์ที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในโลกเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งมาถูกโฟล์คสวาเก้นทำลายสถิติได้เมื่อปี ค.ศ. 1972

Model T รถยนต์รุ่นแรกของฟอร์ดที่ผลิตในแบบอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกของโลก อีกหนึ่งตำนานยานยนต์โลก ที่ได้ถ่ายทอดนวัตกรรมยานยนต์สืบทอดมาถึงปัจจุบัน

By : C. Methas - Managing Editor

ฟอร์ด มอเตอร์เปิดตัวรุ่น Model T เมื่อปี ค.ศ. 1908 รถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ผลิตในแบบสายพานการผลิต โดยตั้งราคาไว้ที่ 825 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และในปี ค.ศ. 1925 ราคาลดลงเหลือ 260 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีการพัฒนาการผลิตแบบโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งสามารถสร้างได้เป็นจำนวนมาก

รถยนต์รุ่น Model T ของฟอร์ด ได้รับการนำไปปรับเปลี่ยนเพื่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เป็นรถยนต์รุ่นที่สามารถผลิตได้จำนวนมากถึง 57 % ของรถยนต์ทั้งหมดทั่วโลก เป็นรถรุ่นแรกที่ผลิตสำหรับตลาดโลกเป็นครั้งแรก สามารถทำรายได้ถึง 38 ร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี โดยมีตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 ทวีป

นอกจากนี้ยังสร้างให้เกิดความมั่งคั่งในอเมริกาและก่อให้เกิดชนชั้นกลางขึ้นเป็นครั้งแรกในอเมริกาจากการรถรุ่นนี้มีส่วนในการสร้างเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

Model T ได้รับการออกแบบพวงมาลัยทั้งที่อยู่ด้านซ้าย, ด้านขวาและตรงกลาง เพื่อส่งจำหน่ายในตลาดทั่วโลก โดยรุ่นพื้นฐานเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย โดยรุ่นแรกสีสันตัวถังเป็นสีดำผลิตออกไปจำนวนกว่า 12 ล้านคัน และต่อมามีสีตัวถังให้เลือกมากขึ้น ประกอบด้วยสี น้ำเงิน, สีแดง, สีเขียวและสีเทา

ในปี ค.ศ. 1925 ฟอร์ดได้ดัดแปลงรถยนต์รุ่นนี้เป็นแบบกระบะบรรทุก เป็นรุ่น Model TT ขนาด 1 ตัน ซึ่งปัจจุบันได้กลายพันธ์มาเป็นรถรุ่น F-Series กระบะปิคอัพที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในตลาดสหรัฐฯ โดยได้ปรับแปลงเป็นหลายรูปแบบให้เลือกทั้งแบบสปอร์ตคูเป้, เปิดประทุน, ซีดาน, รถโดยสารขนาดเล็กและรถปรับเป็นรถไถนา

Model T รุ่นแรกได้รับการวางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.9 ลิตร สามารถขับแรงม้าสูงสุด 20 แรงม้า เครื่องยนต์วางด้านหน้า สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 40-45 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นเครื่องยนต์ที่เป็นต้นแบบที่พัฒนามาถึงปัจจุบัน โดยฝาสูบสามารถถอดออกได้ และผลิตสร้างบนโครงฐานแชสซีส์เดียวกัน มีให้เลือกทั้งแบบทัวริ่ง, โรดสเตอร์, ซีดานและสปอร์ตคูเป้

ฟอร์ด Model T สามารถครองตำแหน่งรถยนต์ที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในโลกเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งมาถูกโฟล์คสวาเก้นทำลายสถิติได้เมื่อปี ค.ศ. 1972

Model T รถยนต์รุ่นแรกของฟอร์ดที่ผลิตในแบบอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกของโลก อีกหนึ่งตำนานยานยนต์โลก ที่ได้ถ่ายทอดนวัตกรรมยานยนต์สืบทอดมาถึงปัจจุบัน

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!