2010 TURKEY RALLY-อีกหนึ่งสนามในตำนานของศึกแรลลี่โลก “รถบินสูงสุดแห่งยุโรป” เมื่อเซบาสเตียง โล๊ปกวาดแชมป์ 3 สนามรวด


By : C. Methas – Executive Editor

อีกหนึ่งสนามในตำนานของเซบาสเตียง โล๊ปซึ่งสร้างปรากฏการณ์คร้้งสำคัญในศึกแรลลี่ชิงแชมป์โลก สนามที่ 4 ประจำฤดูกาล 2010 รายการตุรกี แรลลี่ สนามทางลูกรังต่อเนื่อง 3 สนาม เซบาสเตียง โล๊ป เจ้าของแชมป์แรลลี่โลก 5 สมัยติดต่อกันเมื่อครั้งนั้นคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จในแบบไร้คู่แข่ง เป็นการกวาดแชมป์สนามทางฝุ่นติดต่อกันถึง 3 สนามซ้อนต่อจากศึกเม็กซิโก แรลลี่, จอร์แดน แรลลี่และตุรกี แรลลี่

ส่งผลให้แต้มสะสมทั้งประเภททีมผู้ผลิตและประเภทผู้ขับทิ้งห่างคู่แข่งไปไกล นอกจากนี้การเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ของเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่สนามนี้ ส่งผลให้แต้มสะสมขึ้นมาอยู่อันดับ 2 โดยนำหน้ามิคโค ไฮร์โวเนนคู่แข่งจากทีมฟอร์ด ที่คว้าแชมป์ประเดิมที่สนามเปิดฤดูกาลได้ในรายการสวีดิช แรลลี่เพียงสนามเดียวเท่านั้น

ศึกตุรกี แรลลี่ปีนั้นได้รับการสมญานามว่าเป็นสนาม “รถบินสูงสุดแห่งยุโรป” เนื่องจากมีเนินกระโดดอยู่หลายเส้นทางและเป็นเนินที่รถแข่งเหิรได้สูงสุดที่สุดของสนามในยุโรป

การแข่งขันในปี 2010 นั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันบางเส้นทางแตกต่างจากปีก่อนหน้านี้ โดยมีฐานบัญชาการอยู่ที่เมือง Pendik ทางตะวันออกของกรุงอิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งอยู่ติดกับชายทะเลมาร์มาร่า การแข่งขันแบ่งออกเป็น 23 สเตจ ระยะทางจับเวลาพิเศษ 358.84 กิโลเมตร ระยะทางรวม 1108.57 กิโลเมตร

เซบาสเตียง โล๊ปมาคว้าแชมป์ที่สนามนี้ได้โดยมาเร่งทำเวลาได้ในช่วงวันสุดท้ายของการแข่งขัน ด้วยการทำเวลาเร็วที่สุดในแต่ละสเตจได้ติดต่อกันถึง 5 สเตจในช่วงสเตจที่ 16-22 และทำเวลาเร็วที่สุดได้รวม 7 สเตจ เซบาสเตียง โอกิเยร์ทำเวลาเร็วที่สุดได้รวม 5 สเตจ ตามมาด้วยเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กทำได้ 3 สเตจเท่ากับมิคโค ไฮร์โวเนน โดยเซบาสเตียง โอกิเยร์ทำเวลาเร็วที่สุดในสเตจสุดท้าย

หลังจากที่เซบาสเตียง โล๊ปได้ชะลอความเร็วลง ประคองเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปครอง หลังทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่ง ด้วยเวลารวม 3 ชั่วโมง 1 นาที 38.7 วินาที ทิ้งห่างเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่ตามมาในอันดับ 2 ถึง 54.5 วินาทีและทิ้งห่างมิคโค ไฮร์โวเนนที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ถึง 1 นาที 43.4 วินาที

ศึกตุรกี แรลลี่ปีนี้นับว่าเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด เนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนเพิ่มความท้าทายสำหรับศึกครั้งนี้ในวันสุดท้ายของการแข่งขันที่เวลายังไม่ทิ้งห่างกันมาก

เส้นทางหลายสายเต็มไปด้วยโคลนมากกว่าทางลูกรังในช่วงเช้า แต่ไม่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของเซบาสเตียง โล๊ปในช่วงของการแข่งขันในวันสุดท้ายได้ ด้วยการทำเวลาได้เร็วที่สุดต่อเนื่องถึง 5 สเตจด้วยกัน

การมาคว้าแชมป์สนามนี้ของเซบาสเตียง โล๊ปไม่ใช่เรื่องที่ได้มาง่ายนัก โดยในช่วงสองสเตจแรกของวันสุดท้ายในช่วงเช้าได้มีการยกเลิกไป เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก

“แชมป์สนามนี้ได้ให้อะไรมากมายสำหรับผมและผมดีใจมาก แต่การคว้าแชมป์สนามนี้ยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้ เนื่องจากยังเหลือการแข่งขันอีกยาวไกล เส้นทางที่นี่ท้าทายมากจริง ๆ บางช่วงเป็นช่วงที่เร็วมาก แต่รถแข่งสมบูรณ์พร้อมมาก ต้องขอกอดซีตรอง C4 WRC ที่ช่วยเราได้มาก” เซบาสเตียง โล๊ปกล่าวหลังคว้าแชมป์

ทางด้านเซบาสเตียง โอกิเยร์ที่ขึ้นนำโอเวอร์ออลในช่วงสองวันแรก นักขับวัยรุ่นจากฝรั่งเศสที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงรายนี้เกือบมาคว้าแชมป์แรกในชีวิตแรลลี่โลกได้ที่สนามนี้ แต่ไปจบการแข่งขันในอันดับ 4 เนื่องจากวันสุดท้ายไปเจอปัญหายางแตก ทำให้นักขับที่เข้าสังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์รายนี้ต้องปล่อยให้นักขับระดับหัวแถวทั้ง 3 รายแซงขึ้นไปรับแชมป์ได้ขึ้นโพเดี้ยมกันทั้งหมด

สำหรับเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์ก เจ้าของแชมป์แรลลี่โลกคนแรกในประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ สนามนี้เข้าเส้นชัยในอันดับ 2 กล่าวว่า

“ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าเส้นชัยในอันดับรองแชมป์ แต่เราก็ตั้งใจจะคว้าอันดับสองที่สนามนี้ มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากที่เราได้รู้ว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ และสามารถขับเคี่ยวมาถึงอันดับนี้ได้ แต่ก็ขับแบบเซฟมาก ๆ ตอนนี้ผมมองไปถึงสนามหน้าที่นิวซีแลนด์แล้ว”

มิคโค ไฮร์โวเนน เจ้าของรองแชมป์แรลลี่โลกติดต่อกัน 3 สมัยจากทีมฟอร์ด กล่าวหลังคว้าอันดับ 3 ว่า

“ผมตัดสินใจที่จะรุกอย่างหนักเพื่อคว้าแชมป์สนามนี้ให้ได้ในช่วงตอนเช้าของวันสุดท้าย แต่การยกเลิกการแข่งขันไปสองสเตจไม่ได้ช่วยอะไรผมได้ รถแข่งของผมไถลออกไปกว้างมากในช่วงที่เร่งทำความเร็วสูงและไปชนเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่ ทำให้ยางแตก ผมต้องขับต่อไปเป็นระยะทางถึง 10 กิโลเมตร ทำให้เวลาช้าลงไปมาก เสียเวลาไปถึง 45 วินาทีและแผงซุ้มล้อแตกทำให้ฝุ่นเข้ามาในรถ ผมค่อนข้างจะโชคไม่ดีสำหรับสนามนี้”

“เราทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ในที่สุดเราก็สามารถเข้าเส้นชัยในแบบได้ขึ้นโพเดี้ยมได้ ก็ไม่ใช่เลวร้ายมาก หลังจากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เราตั้งเป้าที่จะคว้าอันดับ 3 เป็นอันดับที่ดีที่สุด และเราก็ทำได้สำเร็จ” มิคโค ไฮร์โวเนนกล่าวเสริม

ส่วนทางด้านคิมี่ ไรค์โคเนน เจ้าของแชมป์ฟอร์มูล่า-วันได้ย้ายขับแรลลี่โลก สังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์ สามารถทำผลงานได้ดีด้วยการเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 เป็นอันดับที่ดีที่สุดตั้งแต่ลงแข่งขันแรลลี่โลก

By : C. Methas - Executive Editor

อีกหนึ่งสนามในตำนานของเซบาสเตียง โล๊ปซึ่งสร้างปรากฏการณ์คร้้งสำคัญในศึกแรลลี่ชิงแชมป์โลก สนามที่ 4 ประจำฤดูกาล 2010 รายการตุรกี แรลลี่ สนามทางลูกรังต่อเนื่อง 3 สนาม เซบาสเตียง โล๊ป เจ้าของแชมป์แรลลี่โลก 5 สมัยติดต่อกันเมื่อครั้งนั้นคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จในแบบไร้คู่แข่ง เป็นการกวาดแชมป์สนามทางฝุ่นติดต่อกันถึง 3 สนามซ้อนต่อจากศึกเม็กซิโก แรลลี่, จอร์แดน แรลลี่และตุรกี แรลลี่

ส่งผลให้แต้มสะสมทั้งประเภททีมผู้ผลิตและประเภทผู้ขับทิ้งห่างคู่แข่งไปไกล นอกจากนี้การเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ของเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่สนามนี้ ส่งผลให้แต้มสะสมขึ้นมาอยู่อันดับ 2 โดยนำหน้ามิคโค ไฮร์โวเนนคู่แข่งจากทีมฟอร์ด ที่คว้าแชมป์ประเดิมที่สนามเปิดฤดูกาลได้ในรายการสวีดิช แรลลี่เพียงสนามเดียวเท่านั้น

ศึกตุรกี แรลลี่ปีนั้นได้รับการสมญานามว่าเป็นสนาม "รถบินสูงสุดแห่งยุโรป" เนื่องจากมีเนินกระโดดอยู่หลายเส้นทางและเป็นเนินที่รถแข่งเหิรได้สูงสุดที่สุดของสนามในยุโรป

การแข่งขันในปี 2010 นั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันบางเส้นทางแตกต่างจากปีก่อนหน้านี้ โดยมีฐานบัญชาการอยู่ที่เมือง Pendik ทางตะวันออกของกรุงอิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งอยู่ติดกับชายทะเลมาร์มาร่า การแข่งขันแบ่งออกเป็น 23 สเตจ ระยะทางจับเวลาพิเศษ 358.84 กิโลเมตร ระยะทางรวม 1108.57 กิโลเมตร

เซบาสเตียง โล๊ปมาคว้าแชมป์ที่สนามนี้ได้โดยมาเร่งทำเวลาได้ในช่วงวันสุดท้ายของการแข่งขัน ด้วยการทำเวลาเร็วที่สุดในแต่ละสเตจได้ติดต่อกันถึง 5 สเตจในช่วงสเตจที่ 16-22 และทำเวลาเร็วที่สุดได้รวม 7 สเตจ เซบาสเตียง โอกิเยร์ทำเวลาเร็วที่สุดได้รวม 5 สเตจ ตามมาด้วยเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กทำได้ 3 สเตจเท่ากับมิคโค ไฮร์โวเนน โดยเซบาสเตียง โอกิเยร์ทำเวลาเร็วที่สุดในสเตจสุดท้าย

หลังจากที่เซบาสเตียง โล๊ปได้ชะลอความเร็วลง ประคองเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปครอง หลังทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่ง ด้วยเวลารวม 3 ชั่วโมง 1 นาที 38.7 วินาที ทิ้งห่างเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่ตามมาในอันดับ 2 ถึง 54.5 วินาทีและทิ้งห่างมิคโค ไฮร์โวเนนที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ถึง 1 นาที 43.4 วินาที

ศึกตุรกี แรลลี่ปีนี้นับว่าเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด เนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนเพิ่มความท้าทายสำหรับศึกครั้งนี้ในวันสุดท้ายของการแข่งขันที่เวลายังไม่ทิ้งห่างกันมาก

เส้นทางหลายสายเต็มไปด้วยโคลนมากกว่าทางลูกรังในช่วงเช้า แต่ไม่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของเซบาสเตียง โล๊ปในช่วงของการแข่งขันในวันสุดท้ายได้ ด้วยการทำเวลาได้เร็วที่สุดต่อเนื่องถึง 5 สเตจด้วยกัน

การมาคว้าแชมป์สนามนี้ของเซบาสเตียง โล๊ปไม่ใช่เรื่องที่ได้มาง่ายนัก โดยในช่วงสองสเตจแรกของวันสุดท้ายในช่วงเช้าได้มีการยกเลิกไป เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก

“แชมป์สนามนี้ได้ให้อะไรมากมายสำหรับผมและผมดีใจมาก แต่การคว้าแชมป์สนามนี้ยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้ เนื่องจากยังเหลือการแข่งขันอีกยาวไกล เส้นทางที่นี่ท้าทายมากจริง ๆ บางช่วงเป็นช่วงที่เร็วมาก แต่รถแข่งสมบูรณ์พร้อมมาก ต้องขอกอดซีตรอง C4 WRC ที่ช่วยเราได้มาก” เซบาสเตียง โล๊ปกล่าวหลังคว้าแชมป์

ทางด้านเซบาสเตียง โอกิเยร์ที่ขึ้นนำโอเวอร์ออลในช่วงสองวันแรก นักขับวัยรุ่นจากฝรั่งเศสที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงรายนี้เกือบมาคว้าแชมป์แรกในชีวิตแรลลี่โลกได้ที่สนามนี้ แต่ไปจบการแข่งขันในอันดับ 4 เนื่องจากวันสุดท้ายไปเจอปัญหายางแตก ทำให้นักขับที่เข้าสังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์รายนี้ต้องปล่อยให้นักขับระดับหัวแถวทั้ง 3 รายแซงขึ้นไปรับแชมป์ได้ขึ้นโพเดี้ยมกันทั้งหมด

สำหรับเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์ก เจ้าของแชมป์แรลลี่โลกคนแรกในประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ สนามนี้เข้าเส้นชัยในอันดับ 2 กล่าวว่า

“ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าเส้นชัยในอันดับรองแชมป์ แต่เราก็ตั้งใจจะคว้าอันดับสองที่สนามนี้ มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากที่เราได้รู้ว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ และสามารถขับเคี่ยวมาถึงอันดับนี้ได้ แต่ก็ขับแบบเซฟมาก ๆ ตอนนี้ผมมองไปถึงสนามหน้าที่นิวซีแลนด์แล้ว”

มิคโค ไฮร์โวเนน เจ้าของรองแชมป์แรลลี่โลกติดต่อกัน 3 สมัยจากทีมฟอร์ด กล่าวหลังคว้าอันดับ 3 ว่า

“ผมตัดสินใจที่จะรุกอย่างหนักเพื่อคว้าแชมป์สนามนี้ให้ได้ในช่วงตอนเช้าของวันสุดท้าย แต่การยกเลิกการแข่งขันไปสองสเตจไม่ได้ช่วยอะไรผมได้ รถแข่งของผมไถลออกไปกว้างมากในช่วงที่เร่งทำความเร็วสูงและไปชนเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่ ทำให้ยางแตก ผมต้องขับต่อไปเป็นระยะทางถึง 10 กิโลเมตร ทำให้เวลาช้าลงไปมาก เสียเวลาไปถึง 45 วินาทีและแผงซุ้มล้อแตกทำให้ฝุ่นเข้ามาในรถ ผมค่อนข้างจะโชคไม่ดีสำหรับสนามนี้”

“เราทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ในที่สุดเราก็สามารถเข้าเส้นชัยในแบบได้ขึ้นโพเดี้ยมได้ ก็ไม่ใช่เลวร้ายมาก หลังจากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เราตั้งเป้าที่จะคว้าอันดับ 3 เป็นอันดับที่ดีที่สุด และเราก็ทำได้สำเร็จ” มิคโค ไฮร์โวเนนกล่าวเสริม

ส่วนทางด้านคิมี่ ไรค์โคเนน เจ้าของแชมป์ฟอร์มูล่า-วันได้ย้ายขับแรลลี่โลก สังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์ สามารถทำผลงานได้ดีด้วยการเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 เป็นอันดับที่ดีที่สุดตั้งแต่ลงแข่งขันแรลลี่โลก

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!