2010 JAPAN RALLY (Round 10) – อีกหนึ่งสมรภูมิทางฝุ่นที่พลิกผัน เซบาสเตียง โอกิเยร์ดาวรุ่งพุ่งแรงส่อแววแชมป์โลก


By : C. Methas – Executive Editor

ศึกแรลลี่โลกสนามที่ 10 ประจำฤดูกาล 2010 รายการเจแปน แรลลี่ที่ประเทศญี่ปุ่น ปิดฉากลงด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของเซบาสเตียง โอกิเยร์ ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสสังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์ เป็นการคว้าแชมป์สนามที่สองของฤดูกาล หลังจากขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดเข้มข้นอย่างหนักกับเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์ก อดีตแชมป์แรลลี่โลกคนแรกจากนอร์เวย์

ศึกเจแปน แรลลี่ปีนั้นเปรียบเสมือนสมรภูมิรบย่อย ๆ ที่นักขับระดับหัวแถวไม่สามารถติดอันดับต้น ๆ โดยมีนักแข่งที่ลงแข่งเป็นการส่วนตัวในรุ่น N4 เก็บแต้มออกไปได้หลังจากเข้าเส้นชัยในอันดับ 9-10

การคว้าแชมป์สนามนี้ของเซบาสเตียง โอกิเยร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความผิดพลาดของเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่ลงแข่งขันเป็นการส่วนตัว ถูกทำโทษปรับเวลาไป 10 วินาทีและเป็นความผิดพลาดของมิคโค ไฮร์โวเนน รองแชมป์โลกปีที่แล้วจากทีมฟอร์ด อันดับร่วงไปจบการแข่งขันในอันดับ 6

ส่วนเพื่อนร่วมทีม จาริ ลัทวาลา สนามนี้ได้ขึ้นโพเดี้ยมในอันดับ 3 หลังจากสามารถทำเวลาเร่งแซง ดาเนียล ซอร์โดจากทีมซีตรองขึ้นมาได้สำเร็จ

ศึกเจแปน แรลลี่ปีนั้นมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันหลายเส้นทางด้วยกัน ขณะที่ Sapporo Dome ได้จัดเป็นสเตจจับเวลาพิเศษสำหรับการแข่งขันโชว์ โดยปีนี้เส้นทางการแข่งขันทั้งหมดรวม 1220.43 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสเตจจับเวลาพิเศษ 26 สเตจ ระยะทางรวม 303.54 กิโลเมตร

เพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กเป็นนักขับที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดในแต่ละสเตจได้มากที่สุดรวม 7 สเตจ ตามมาด้วยเซบาสเตียง โอกิเยร์ทำได้ 5 สเตจ จาริ ลัทวาลาทำได้รวม 4 สเตจเท่ากับเซบาสเตียง โล๊ป นักขับที่มีโอกาสคว้าแชมป์แรลลี่โลกในปีนี้มากที่สุด มิคโค ไฮร์โวเนนทำได้ 3 สเตจ ดาเนียล ซอร์โดทำได้ 2 สเตจและเฮนนิ่ง โซลเบิร์กทำได้ 1 สเตจ

เซบาสเตียง โอกิเยร์ นักขับน้องใหม่ที่ลงแข่งขันในปีนั้นเป็นสมัยแรก สามารถคว้าแชมป์ประจำรายการไปได้ 2 สนาม สามารถทำผลงานได้ดีตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาลนี้ด้วยการเก็บแต้มออกไปได้ทุกสนามของการแข่งขันที่ผ่านมารวม 10 สนามด้วยกัน โดยเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 รวม 2 สนามและอันดับ 3 รวม 2 สนามเช่นกัน

หลังการคว้าแชมป์สนามนี้คะแนนสะสมของเซบาสเตียง โอกิเยร์ ยังคงอยู่อันดับ 2 ตามมาด้วยจาริ ลัทวาลา จากทีมฟอร์ด โดยมีแต้มตามหลังเซบาสเตียง โล๊ปอยู่ 43 แต้ม และทำคะแนนทิ้งห่างจาริ ลัทวาลาอยู่ 26 แต้ม ส่วนคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต ทีมซีตรองที่นำอยู่หัวแถวทำคะแนนทิ้งห่างทีมฟอร์ดถึง 95 แต้ม

สำหรับสนามนี้เซบาสเตียง โล๊ปเป็นรายการแรกที่ทำผลงานได้ไม่ดีที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาล โดยเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 ซึ่งในปีนี้สามารถคว้าแชมป์ประจำรายการไปได้ทั้งหมดรวม 5 สนามและคว้ารองแชมป์ได้ 2 สนาม ส่วนทางด้านเซบาสเตียง โอกิเยร์ที่มีความชำนาญบนเส้นทางแบบลูกรัง ปีนี้ลงแข่งขันในสังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์ มีโอกาสสูงที่จะขยับขึ้นไปขับให้กับทีมใหญ่ของซีตรองในฤดูกาลหน้า โดยสร้างผลงานได้ดีด้วยการคว้าแชมป์แรกให้กับทีมซีตรองในศึกเจแปน แรลลี่ และคว้าที่ 2 ได้ในศึกฟินแลนด์ แรลลี่และศึกนิวซีแลนด์ แรลลี่

“แน่นอน ผมรู้สึกดีใจมากที่มาเก็บคะแนนไปจากรายการนี้ด้วยการคว้าแชมป์ไปได้ สำหรับการลงแข่งขันกับทีมซีตรองเป็นสมัยแรก ต้องขอขอบคุณทีมงานที่ให้การสนับสนุน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งจะใส่สะอาดไปทั้งหมด ผมต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับให้เข้ากับจังหวะที่ถูกต้อง ผมคิดว่าผมได้ทำอะไรที่เป็นการก้าวครั้งใหญ่สำหรับสัปดาห์นี้” เซบาสเตียง โอกิเยร์กล่าวหลังคว้าแชมป์

เพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่คว้ารองแชมป์สนามนี้มีโอกาสคว้าแชมป์เช่นกัน แต่รถไปเจอปัญหาระบบบังคับเลี้ยวเสียหายหลังจากไปชนข้างทางอย่างรุนแรง

“ผมออกสตาร์ทในแรลลี่ครั้งนี้พร้อมกับความตื่นเต้นและสภาพอากาศที่แย่มาก แต่ในวันที่สองรู้สึกว่าดีขึ้นมาก ผมรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ไปจากสนามนี้ได้ แต่ได้อันดับ 2 ก็ถือว่าดีพอแล้วสำหรับวันนี้” เพ็ตเตอร์ โซลเบิร์ก กล่าว

ส่วนทางด้านมิคโค ไฮร์โวเนน ออกสตาร์ทในวันสุดท้ายได้ไม่ดี เนื่องจากรถไปเจอปัญหาระบบไฮดรอลิค ทำให้ต้องขับประคองรถด้วยสองมือไปโดยตลอด ซึ่งระบบเปลี่ยนเกียร์และดิฟเฟอร์เรนเชียลช่วงกลางมีปัญหา

By : C. Methas - Executive Editor

ศึกแรลลี่โลกสนามที่ 10 ประจำฤดูกาล 2010 รายการเจแปน แรลลี่ที่ประเทศญี่ปุ่น ปิดฉากลงด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของเซบาสเตียง โอกิเยร์ ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสสังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์ เป็นการคว้าแชมป์สนามที่สองของฤดูกาล หลังจากขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดเข้มข้นอย่างหนักกับเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์ก อดีตแชมป์แรลลี่โลกคนแรกจากนอร์เวย์

ศึกเจแปน แรลลี่ปีนั้นเปรียบเสมือนสมรภูมิรบย่อย ๆ ที่นักขับระดับหัวแถวไม่สามารถติดอันดับต้น ๆ โดยมีนักแข่งที่ลงแข่งเป็นการส่วนตัวในรุ่น N4 เก็บแต้มออกไปได้หลังจากเข้าเส้นชัยในอันดับ 9-10

การคว้าแชมป์สนามนี้ของเซบาสเตียง โอกิเยร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความผิดพลาดของเพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่ลงแข่งขันเป็นการส่วนตัว ถูกทำโทษปรับเวลาไป 10 วินาทีและเป็นความผิดพลาดของมิคโค ไฮร์โวเนน รองแชมป์โลกปีที่แล้วจากทีมฟอร์ด อันดับร่วงไปจบการแข่งขันในอันดับ 6

ส่วนเพื่อนร่วมทีม จาริ ลัทวาลา สนามนี้ได้ขึ้นโพเดี้ยมในอันดับ 3 หลังจากสามารถทำเวลาเร่งแซง ดาเนียล ซอร์โดจากทีมซีตรองขึ้นมาได้สำเร็จ

ศึกเจแปน แรลลี่ปีนั้นมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันหลายเส้นทางด้วยกัน ขณะที่ Sapporo Dome ได้จัดเป็นสเตจจับเวลาพิเศษสำหรับการแข่งขันโชว์ โดยปีนี้เส้นทางการแข่งขันทั้งหมดรวม 1220.43 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสเตจจับเวลาพิเศษ 26 สเตจ ระยะทางรวม 303.54 กิโลเมตร

เพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กเป็นนักขับที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดในแต่ละสเตจได้มากที่สุดรวม 7 สเตจ ตามมาด้วยเซบาสเตียง โอกิเยร์ทำได้ 5 สเตจ จาริ ลัทวาลาทำได้รวม 4 สเตจเท่ากับเซบาสเตียง โล๊ป นักขับที่มีโอกาสคว้าแชมป์แรลลี่โลกในปีนี้มากที่สุด มิคโค ไฮร์โวเนนทำได้ 3 สเตจ ดาเนียล ซอร์โดทำได้ 2 สเตจและเฮนนิ่ง โซลเบิร์กทำได้ 1 สเตจ

เซบาสเตียง โอกิเยร์ นักขับน้องใหม่ที่ลงแข่งขันในปีนั้นเป็นสมัยแรก สามารถคว้าแชมป์ประจำรายการไปได้ 2 สนาม สามารถทำผลงานได้ดีตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาลนี้ด้วยการเก็บแต้มออกไปได้ทุกสนามของการแข่งขันที่ผ่านมารวม 10 สนามด้วยกัน โดยเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 รวม 2 สนามและอันดับ 3 รวม 2 สนามเช่นกัน

หลังการคว้าแชมป์สนามนี้คะแนนสะสมของเซบาสเตียง โอกิเยร์ ยังคงอยู่อันดับ 2 ตามมาด้วยจาริ ลัทวาลา จากทีมฟอร์ด โดยมีแต้มตามหลังเซบาสเตียง โล๊ปอยู่ 43 แต้ม และทำคะแนนทิ้งห่างจาริ ลัทวาลาอยู่ 26 แต้ม ส่วนคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต ทีมซีตรองที่นำอยู่หัวแถวทำคะแนนทิ้งห่างทีมฟอร์ดถึง 95 แต้ม

สำหรับสนามนี้เซบาสเตียง โล๊ปเป็นรายการแรกที่ทำผลงานได้ไม่ดีที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาล โดยเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 ซึ่งในปีนี้สามารถคว้าแชมป์ประจำรายการไปได้ทั้งหมดรวม 5 สนามและคว้ารองแชมป์ได้ 2 สนาม ส่วนทางด้านเซบาสเตียง โอกิเยร์ที่มีความชำนาญบนเส้นทางแบบลูกรัง ปีนี้ลงแข่งขันในสังกัดทีมซีตรอง จูเนียร์ มีโอกาสสูงที่จะขยับขึ้นไปขับให้กับทีมใหญ่ของซีตรองในฤดูกาลหน้า โดยสร้างผลงานได้ดีด้วยการคว้าแชมป์แรกให้กับทีมซีตรองในศึกเจแปน แรลลี่ และคว้าที่ 2 ได้ในศึกฟินแลนด์ แรลลี่และศึกนิวซีแลนด์ แรลลี่

“แน่นอน ผมรู้สึกดีใจมากที่มาเก็บคะแนนไปจากรายการนี้ด้วยการคว้าแชมป์ไปได้ สำหรับการลงแข่งขันกับทีมซีตรองเป็นสมัยแรก ต้องขอขอบคุณทีมงานที่ให้การสนับสนุน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งจะใส่สะอาดไปทั้งหมด ผมต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับให้เข้ากับจังหวะที่ถูกต้อง ผมคิดว่าผมได้ทำอะไรที่เป็นการก้าวครั้งใหญ่สำหรับสัปดาห์นี้” เซบาสเตียง โอกิเยร์กล่าวหลังคว้าแชมป์

เพ็ตเตอร์ โซลเบิร์กที่คว้ารองแชมป์สนามนี้มีโอกาสคว้าแชมป์เช่นกัน แต่รถไปเจอปัญหาระบบบังคับเลี้ยวเสียหายหลังจากไปชนข้างทางอย่างรุนแรง

“ผมออกสตาร์ทในแรลลี่ครั้งนี้พร้อมกับความตื่นเต้นและสภาพอากาศที่แย่มาก แต่ในวันที่สองรู้สึกว่าดีขึ้นมาก ผมรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ไปจากสนามนี้ได้ แต่ได้อันดับ 2 ก็ถือว่าดีพอแล้วสำหรับวันนี้” เพ็ตเตอร์ โซลเบิร์ก กล่าว

ส่วนทางด้านมิคโค ไฮร์โวเนน ออกสตาร์ทในวันสุดท้ายได้ไม่ดี เนื่องจากรถไปเจอปัญหาระบบไฮดรอลิค ทำให้ต้องขับประคองรถด้วยสองมือไปโดยตลอด ซึ่งระบบเปลี่ยนเกียร์และดิฟเฟอร์เรนเชียลช่วงกลางมีปัญหา

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!