KC-767-ปั๊มน้ำมันกลางอากาศและขนส่งทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ออกแบบโดยโบอิ้ง


By : C. Methas – Managing Editor

KC-767 เครื่องบินขนาดใหญ่ที่พัฒนามาจาก Boeing 767-200ER เพื่อให้เป็นเครื่องบินสนับสนุนสำหรับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศให้กับเครื่องบินได้หลากหลายประเภทและการขนส่งทางยุทธศาสตร์ มีจุดเติมเชื้อเพลิงทั้งที่บริเวณกลางลำตัวและบริเวณปีกทั้งสองด้าน โดยมาแทนรุ่น KC-135Es.

เครื่องบินรุ่นนี้พัฒนาสำหรับกองทัพอากาศอิตาลีและญี่ปุ่นซึ่งได้สั่งซื้อจำนวน 4 เครื่องเป็นเครื่องบินสมรรถนะสูง พัฒนาและออกแบบให้มีช่องกลางลำตัวแบบคู่ ติดตั้งอุปกรณ์การเติมเชื้อเพลิงที่มีความรวดเร็ว

สร้างโดย Boeing Integrated Defense Systems ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2005 ปัจจุบันยังคงประจำการ หลังจากนั้นได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศโคลัมเบียและบราซิล จำนวนผลิตทั้งหมดรวม 11 ลำ ราคาอยู่ที่ราว 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับรุ่น 767 ที่เป็นเครื่องแบบเครื่องบินพาณิชย์ได้ให้การบริการครั้งแรกเมื่อปี 1982 โดยมีจำนวนมากกว่า 880 ลำที่ยังคงทำการบินถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้เครื่องบินรุ่น 767 ยังได้พัฒนาให้เป็นเครื่องบินแบบตรวจการณ์ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์ล้ำสมัยมากที่สุด โดยได้เข้าประจำการตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1991

ก่อนหน้านี้ใช้โครงสร้างจากรุ่น 707 ซึ่งได้นำเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1977 เป็นรุ่น E3 AWACS โดยรุ่นล่าสุดเนื้อที่ภายในได้รับการขยายกว้างกว่ารุ่น 767 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เกือบสองเท่าของรุ่น 707 นำไปติดตั้งระบบเรดาร์มัลติฟังก์ชั่นตรวจการณ์ rotodome ที่ Boeing Seattle ขนาด 9.1 เมตร รุ่น AN/APY-2 พัฒนาขึ้นโดย Northrop Grumman เป้าหมายการตรวจจับได้ระยะไกล 320 กิโลเมตร รัศมี 360 องศา และได้ยกระดับคุณภาพครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2006

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งของเจเนอรัล อิเล็กทริค รุ่น CF6-80C2B6Fa จำนวน 2 เครื่อง กำลังขับ 61,500 ปอนด์ เครื่องแบบเทอร์โบแฟน

สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดเกินกว่า 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระดับเพดานบิน 11,550 เมตร สามารถปฏิบัติการบินได้ในรัศมี 12,325 กิโลเมตร โดยมีน้ำหนัก Take-Off สูงสุด 179,170 กิโลกรัม

KC-767 เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ มีความยาวปีก 47.57 เมตร ความยาวตัวเครื่อง 48.51 เมตรและความสูงตัวเครื่อง 15.85 เมตร บริเวณปีกออกแบบให้สามารถบรรจุเชื้อเพลิงได้ 23,980 แกลลอน และที่ถังเชื้อเพลิง 4,800 แกลลอน

By : C. Methas - Managing Editor

KC-767 เครื่องบินขนาดใหญ่ที่พัฒนามาจาก Boeing 767-200ER เพื่อให้เป็นเครื่องบินสนับสนุนสำหรับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศให้กับเครื่องบินได้หลากหลายประเภทและการขนส่งทางยุทธศาสตร์ มีจุดเติมเชื้อเพลิงทั้งที่บริเวณกลางลำตัวและบริเวณปีกทั้งสองด้าน โดยมาแทนรุ่น KC-135Es.

เครื่องบินรุ่นนี้พัฒนาสำหรับกองทัพอากาศอิตาลีและญี่ปุ่นซึ่งได้สั่งซื้อจำนวน 4 เครื่องเป็นเครื่องบินสมรรถนะสูง พัฒนาและออกแบบให้มีช่องกลางลำตัวแบบคู่ ติดตั้งอุปกรณ์การเติมเชื้อเพลิงที่มีความรวดเร็ว

สร้างโดย Boeing Integrated Defense Systems ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2005 ปัจจุบันยังคงประจำการ หลังจากนั้นได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศโคลัมเบียและบราซิล จำนวนผลิตทั้งหมดรวม 11 ลำ ราคาอยู่ที่ราว 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับรุ่น 767 ที่เป็นเครื่องแบบเครื่องบินพาณิชย์ได้ให้การบริการครั้งแรกเมื่อปี 1982 โดยมีจำนวนมากกว่า 880 ลำที่ยังคงทำการบินถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้เครื่องบินรุ่น 767 ยังได้พัฒนาให้เป็นเครื่องบินแบบตรวจการณ์ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์ล้ำสมัยมากที่สุด โดยได้เข้าประจำการตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1991

ก่อนหน้านี้ใช้โครงสร้างจากรุ่น 707 ซึ่งได้นำเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1977 เป็นรุ่น E3 AWACS โดยรุ่นล่าสุดเนื้อที่ภายในได้รับการขยายกว้างกว่ารุ่น 767 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เกือบสองเท่าของรุ่น 707 นำไปติดตั้งระบบเรดาร์มัลติฟังก์ชั่นตรวจการณ์ rotodome ที่ Boeing Seattle ขนาด 9.1 เมตร รุ่น AN/APY-2 พัฒนาขึ้นโดย Northrop Grumman เป้าหมายการตรวจจับได้ระยะไกล 320 กิโลเมตร รัศมี 360 องศา และได้ยกระดับคุณภาพครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2006

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งของเจเนอรัล อิเล็กทริค รุ่น CF6-80C2B6Fa จำนวน 2 เครื่อง กำลังขับ 61,500 ปอนด์ เครื่องแบบเทอร์โบแฟน

สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดเกินกว่า 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระดับเพดานบิน 11,550 เมตร สามารถปฏิบัติการบินได้ในรัศมี 12,325 กิโลเมตร โดยมีน้ำหนัก Take-Off สูงสุด 179,170 กิโลกรัม

KC-767 เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ มีความยาวปีก 47.57 เมตร ความยาวตัวเครื่อง 48.51 เมตรและความสูงตัวเครื่อง 15.85 เมตร บริเวณปีกออกแบบให้สามารถบรรจุเชื้อเพลิงได้ 23,980 แกลลอน และที่ถังเชื้อเพลิง 4,800 แกลลอน

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!