Lockheed U-2 : เครื่องบินจารกรรมเพดานบินสูง สายลับเวหาของสหรัฐอเมริกายุคสงครามเย็น


By : C. Methas – Managing Editor

U2 เครื่องบินสอดแนมเพดานบินสูงของกองทัพสหรัฐฯ ออกแบบมาให้บินในระดับสูงกว่า 21,000 เมตร ขึ้นไป มีลักษณะเหมือนเครื่องร่อนติดเครื่องยนต์ ปีกยาวลำตัวเล็กบางเพื่อลดน้ำหนัก และ เครื่องยนต์สามารถทำงานในทีมีอากาศเบาบางได้

ออกแบบโดยคลาเรนซ์ เคลลี่ จอห์นสัน เริ่มทำการบินครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1955 ได้รับการผลิตและพัฒนาโดยล๊อคฮีด มาร์ตินที่ Skunk Works site ออกแบบให้สามารถบินต่อเนื่องได้ทั้งกลางวันและกลางคืนในทุกสภาพอากาศ ส่งสัญญาณข้อมูลให้รายละเอียดสูงและสามารถเก็บข้อมูลทุกสถานที่ทั่วโลก ประจำการทั้งหมด 35 ลำโดยสร้างขึ้นมาทั้งหมด 86 ลำ

เครื่องบินรุ่นนี้มีชื่อเรียกขานว่า Dragon Lady มีเพดานบินสูง 70,000 ฟุต ในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการในลักษณะเดียวกับเครื่องร่อน บินต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ได้รับการยกระดับอุปกรณ์การบินและระบบสื่อสารทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเข้ารับการยกระดับเมื่อปี ค.ศ. 1989 และรุ่น 32U-2S ยังเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ

เคยเข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามอ่าวระหว่างปี ค.ศ. 1990-1991 ใน Operations Desert Storm และ Desert Shield และในศึกบอสเนียและโคโซโว เพื่อสนับสนุนกองกำลังนาโต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1990 ในอาฟริกานิสถาน ปี ค.ศ. 2001 และ Operation Iraq Freedom ปี ค.ศ. 2003

ห้องนักบินแบบที่นั่งเดียว อุปกรณ์ Avionics แบบดิจิตอลรุ่นล่าสุด Reconnaissance Avionics Maintainability Program ติดตั้งในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2002 และจะยกระดับอุปกรณ์อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 ควบคุมการปฏิบัติการร่วมกับภาคพื้นดิน โดยนักบินสวมชุดปรับแรงดันที่ติดตั้งระบบออกซิเจนเหลว เพื่อการหายใจในขณะบินที่เพดานบินสูง

ติดตั้งออฟติค เซ็นเซอร์ ประกอบด้วย กล้องถ่ายภาพ CCD เรดาร์ ASARS-2 SAR ระบบส่งสัญญาณ Senior Glass และระบบอัพลิ้งค์ข้อมูล Senior Span และ Senior Spur

เครื่องยนต์ของเจเนอรัล อิเล็กทริค รุ่น F118-GE-101 มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ เครื่องแบบเทอร์โบแฟน ไม่มี Afterburn สามารถทำการบินได้ 6 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทางเกินกว่า 3000 ไมล์ มรรถนะการบิน สามารถทำความเร็วสูงได้ 475 ไมล์ต่อชั่วโมง

ทางองค์การนาซ่า ได้นำไปพัฒนาเพื่อใช้งานทางด้านเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เป็นรุ่น ER-2 พัฒนาโดยล็อคฮีด มาร์ติน สามารถรองรับน้ำหนักเครื่องมือวิทยาศาสตร์ได้ 2,600 ปอนด์

เครื่องบินลาดตระเวณสอดแนม (Reconnaissance Aircraft) หรือเครื่องบินสายลับ Lockheed U-2 เป็นเครื่องบินจารกรรมออกแบบให้มีเพดานบินสูงเป็นพิเศษเพื่อทำการถ่ายภาพตำแหน่งที่ตั้งทางการทหารของรัสเซียในช่วงสงครามเย็น ทศวรรษที่ 50 โดยสามารถบินสูงกว่า 21,000 เมตร

การออกแบบเพื่อให้สามารถบินได้เป็นระยะเวลานานโดยบินข้ามทวีปให้เข้าไปในพื้นที่ของรัสเซียให้มากที่สุดและเครื่องยนต์ทำงานได้ในอากาศบางเบา ซึ่งได้ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและปีกกว้างคล้ายเครื่องร่อนติดเครื่องยนต์

ถ่ายภาพในกรุงมอสโคว์จากเครื่อง U2

เครื่องบินจารกรรมของสหรัฐอเมริกานำไปปฏิบัติการอย่างเป็นความลับ จนกระทั่งมาถูกเปิดเผยเมื่อรัสเซียยิงเครื่องบินรุ่นนี้ร่วง หลังจากตรวจพบมาก่อนหน้านี้ว่ามีเครื่องบินล่วงล้ำน่านฟ้าเข้ามาในรัสเซียแต่ไม่สามารถยิงร่วงลงมาได้โดยเครื่องบินขับไล่

U2 เป็นเครื่องบินความลับสุดยอดแบบหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ถูกเปิดเผยต่อชาวโลกเป็นครั้งแรกเมื่อถูกยิงตกในสหภาพโซเวียต ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งกองทัพอากาศสหรัฐและซีไอเอใช้บินเข้าไปในอีกหลายประเทศ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน คิวบา เวียดนาม และ ประเทศคอมมิวนิสต์อื่นๆ ด้วยเพดานบินที่สูงเป็นพิเศษซึ่งสูงกว่าเครื่องบินขับไล่ทั่วไปในช่วงสมัยสงครามเย็น

ในที่สุด U-2 ถูกยิงร่วงด้วยขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่รัสเซียพัฒนาขึ้นใหม่ SAM SA-2 นั่นเองและสามารถจับตัวนักบินซึ่งเป็นสายลับของซีไอเอ. ได้

กล้องขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้บนเครื่อง

 

By : C. Methas - Managing Editor

U2 เครื่องบินสอดแนมเพดานบินสูงของกองทัพสหรัฐฯ ออกแบบมาให้บินในระดับสูงกว่า 21,000 เมตร ขึ้นไป มีลักษณะเหมือนเครื่องร่อนติดเครื่องยนต์ ปีกยาวลำตัวเล็กบางเพื่อลดน้ำหนัก และ เครื่องยนต์สามารถทำงานในทีมีอากาศเบาบางได้

ออกแบบโดยคลาเรนซ์ เคลลี่ จอห์นสัน เริ่มทำการบินครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1955 ได้รับการผลิตและพัฒนาโดยล๊อคฮีด มาร์ตินที่ Skunk Works site ออกแบบให้สามารถบินต่อเนื่องได้ทั้งกลางวันและกลางคืนในทุกสภาพอากาศ ส่งสัญญาณข้อมูลให้รายละเอียดสูงและสามารถเก็บข้อมูลทุกสถานที่ทั่วโลก ประจำการทั้งหมด 35 ลำโดยสร้างขึ้นมาทั้งหมด 86 ลำ

เครื่องบินรุ่นนี้มีชื่อเรียกขานว่า Dragon Lady มีเพดานบินสูง 70,000 ฟุต ในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการในลักษณะเดียวกับเครื่องร่อน บินต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ได้รับการยกระดับอุปกรณ์การบินและระบบสื่อสารทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเข้ารับการยกระดับเมื่อปี ค.ศ. 1989 และรุ่น 32U-2S ยังเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ

เคยเข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามอ่าวระหว่างปี ค.ศ. 1990-1991 ใน Operations Desert Storm และ Desert Shield และในศึกบอสเนียและโคโซโว เพื่อสนับสนุนกองกำลังนาโต้ ระหว่างปี ค.ศ. 1990 ในอาฟริกานิสถาน ปี ค.ศ. 2001 และ Operation Iraq Freedom ปี ค.ศ. 2003

ห้องนักบินแบบที่นั่งเดียว อุปกรณ์ Avionics แบบดิจิตอลรุ่นล่าสุด Reconnaissance Avionics Maintainability Program ติดตั้งในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2002 และจะยกระดับอุปกรณ์อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 ควบคุมการปฏิบัติการร่วมกับภาคพื้นดิน โดยนักบินสวมชุดปรับแรงดันที่ติดตั้งระบบออกซิเจนเหลว เพื่อการหายใจในขณะบินที่เพดานบินสูง

ติดตั้งออฟติค เซ็นเซอร์ ประกอบด้วย กล้องถ่ายภาพ CCD เรดาร์ ASARS-2 SAR ระบบส่งสัญญาณ Senior Glass และระบบอัพลิ้งค์ข้อมูล Senior Span และ Senior Spur

เครื่องยนต์ของเจเนอรัล อิเล็กทริค รุ่น F118-GE-101 มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ เครื่องแบบเทอร์โบแฟน ไม่มี Afterburn สามารถทำการบินได้ 6 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทางเกินกว่า 3000 ไมล์ มรรถนะการบิน สามารถทำความเร็วสูงได้ 475 ไมล์ต่อชั่วโมง

ทางองค์การนาซ่า ได้นำไปพัฒนาเพื่อใช้งานทางด้านเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เป็นรุ่น ER-2 พัฒนาโดยล็อคฮีด มาร์ติน สามารถรองรับน้ำหนักเครื่องมือวิทยาศาสตร์ได้ 2,600 ปอนด์

เครื่องบินลาดตระเวณสอดแนม (Reconnaissance Aircraft) หรือเครื่องบินสายลับ Lockheed U-2 เป็นเครื่องบินจารกรรมออกแบบให้มีเพดานบินสูงเป็นพิเศษเพื่อทำการถ่ายภาพตำแหน่งที่ตั้งทางการทหารของรัสเซียในช่วงสงครามเย็น ทศวรรษที่ 50 โดยสามารถบินสูงกว่า 21,000 เมตร

การออกแบบเพื่อให้สามารถบินได้เป็นระยะเวลานานโดยบินข้ามทวีปให้เข้าไปในพื้นที่ของรัสเซียให้มากที่สุดและเครื่องยนต์ทำงานได้ในอากาศบางเบา ซึ่งได้ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและปีกกว้างคล้ายเครื่องร่อนติดเครื่องยนต์

ถ่ายภาพในกรุงมอสโคว์จากเครื่อง U2

เครื่องบินจารกรรมของสหรัฐอเมริกานำไปปฏิบัติการอย่างเป็นความลับ จนกระทั่งมาถูกเปิดเผยเมื่อรัสเซียยิงเครื่องบินรุ่นนี้ร่วง หลังจากตรวจพบมาก่อนหน้านี้ว่ามีเครื่องบินล่วงล้ำน่านฟ้าเข้ามาในรัสเซียแต่ไม่สามารถยิงร่วงลงมาได้โดยเครื่องบินขับไล่

U2 เป็นเครื่องบินความลับสุดยอดแบบหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ถูกเปิดเผยต่อชาวโลกเป็นครั้งแรกเมื่อถูกยิงตกในสหภาพโซเวียต ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งกองทัพอากาศสหรัฐและซีไอเอใช้บินเข้าไปในอีกหลายประเทศ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน คิวบา เวียดนาม และ ประเทศคอมมิวนิสต์อื่นๆ ด้วยเพดานบินที่สูงเป็นพิเศษซึ่งสูงกว่าเครื่องบินขับไล่ทั่วไปในช่วงสมัยสงครามเย็น

ในที่สุด U-2 ถูกยิงร่วงด้วยขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่รัสเซียพัฒนาขึ้นใหม่ SAM SA-2 นั่นเองและสามารถจับตัวนักบินซึ่งเป็นสายลับของซีไอเอ. ได้

กล้องขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้บนเครื่อง

 

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!