By : C. Methas – Managing Editor
Horch ประสบปัญหาทางด้านการเงินตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทได้เพียงไม่กี่ปี จนในที่สุดต้องขายกิจการออกไป และแล้วในที่สุดเขาได้กลับมาก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1909 โดยใช้ชื่อว่า Audi ซึ่งเป็นภาษาละตินมีความหมายว่า “ฟัง” มีความหมายคล้ายกับคำว่า Horch ในภาษาเยอรมนีที่หมายถึง “ได้ยิน”
การเปลี่ยนชื่อเป็น Audi เนื่องจากไม่สามารถนำชื่อเดิมของบริษัท Horch กลับมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากได้ขายกิจการไปแล้ว การผลิตรถยนต์ Audi ของเขาดำเนินไปด้วยดีโดยใช้ชื้อบริษัท Audi Automobilwerke GmbH ผลิตรถยนต์รุ่น Type A 10/22hp
รถยนต์ของออดี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากความสามารถทางด้านวิศวกรรมของเขาที่ออกแบบให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีกว่า การใช้วัสดุน้ำหนักเบาส่งผลให้สมรรถนะที่ดีขึ้นและการควบคุมการขับขี่ที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังได้ส่งรถลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ได้ในหลายรายการ
จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1932 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจจนต้องควบรวมกิจการเข้ากับบริษัทผลิตรถยนต์ในเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1932 ประกอบด้วยบริษัท Audiwerke, Horchwerke และ Zschopauer Motorenwerke/DKW และได้ทำการตกลงกับค่าย Wanderer Werke เพื่อเป็นพันธมิตรร่วมกัน
อันเป็นที่มาของสัญลักษณ์ “4 ห่วง” ซึ่งเป็นรูปวงแหวน 4 วงคล้องกันอันมีความหมายถึงการแต่งงานโดยใช้ชื่อบริษัทใหม่นี้ว่า Auto Union AG หรือออโต้ ยูเนี่ยน เอจี. ผลิตรถยนต์ของแต่ละบริษัทออกมา แต่ใช้ยี่ห้อเดียวกันและสัญลักษณ์ “4 ห่วง” เหมือนกัน จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติการผลิตรถยนต์ในปี ค.ศ. 1940
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานผลิตรถยนต์ของออโต้ ยูเนี่ยนที่ตั้งอยู่ในเยอรมนีตะวันออกภายหลังจากที่มีการแบ่งแยกประเทศเยอรมนีออกเป็นสองฝ่าย โรงงานดังกล่าวถูกยึดเป็นของรัฐเนื่องจากเยอรมนีตะวันออกใช้ระบบการปกครองแบบสังคมนิยมและยังคงผลิตรถยนต์โดยใช้ชื่อยี่ห้อ Trabant รถยนต์ดังแห่งยุโรปตะวันออก
ส่วนทางเยอรมนีตะวันตกได้ก่อตั้งออโต้ ยูเนี่ยนขึ้นมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1949 โดยใช้ชื่อว่า Auto Union GmbH เพื่อผลิตรถยนต์ยี่ห้อ DKW เพียงยี่ห้อเดียวโดยโรงงานตั้งอยู่ที่เมือง Ingostadt ในแคว้นบาวาเรียผลิตอะไหล่ก่อนที่จะมาผลิตรถคันแรกแบบรถแวนรุ่น DKW F89L และผลิตมอเตอร์ไซค์ รุ่น DKW RT 125W
ส่วนยี่ห้ออื่นในเครือมีอันต้องยุติการผลิตลงไป จนกระทั่งทางโฟล์คสวาเก้นได้เข้าไปซื้อกิจการของออโต้ ยูเนี่ยนเมื่อปี ค.ศ. 1964 และได้ฟื้นคืนชีพยี่ห้อออดี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรุ่น Audi 100 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1968 ซึ่งประสบความสำเร็จจากยอดขายได้สูงจนกระทั่งทำให้ชื่อของ “ออดี้” กลับมาโด่งดังอีกครั้ง
รถยนต์ของออดี้ได้พัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยี่ระดับสูงเน้นสมรรถนะและความหรูหราจนติดอันดับรถยนต์ระดับหรูในอันดับต้น ๆ ของโลก
นอกจากนี้ยังผลิตรถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี่จากสนามแข่งในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงที่ทีมออดี้สามารถกวาดแชมป์ได้ติดต่อกันหลายสมัยและยังคว้าแชมป์ครั้งแรกของโลกด้วยรถแข่งที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลในรายการดังกล่าว
By : C. Methas - Managing Editor
Horch ประสบปัญหาทางด้านการเงินตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทได้เพียงไม่กี่ปี จนในที่สุดต้องขายกิจการออกไป และแล้วในที่สุดเขาได้กลับมาก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1909 โดยใช้ชื่อว่า Audi ซึ่งเป็นภาษาละตินมีความหมายว่า “ฟัง” มีความหมายคล้ายกับคำว่า Horch ในภาษาเยอรมนีที่หมายถึง “ได้ยิน”
การเปลี่ยนชื่อเป็น Audi เนื่องจากไม่สามารถนำชื่อเดิมของบริษัท Horch กลับมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากได้ขายกิจการไปแล้ว การผลิตรถยนต์ Audi ของเขาดำเนินไปด้วยดีโดยใช้ชื้อบริษัท Audi Automobilwerke GmbH ผลิตรถยนต์รุ่น Type A 10/22hp
รถยนต์ของออดี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากความสามารถทางด้านวิศวกรรมของเขาที่ออกแบบให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีกว่า การใช้วัสดุน้ำหนักเบาส่งผลให้สมรรถนะที่ดีขึ้นและการควบคุมการขับขี่ที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังได้ส่งรถลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ได้ในหลายรายการ
จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1932 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจจนต้องควบรวมกิจการเข้ากับบริษัทผลิตรถยนต์ในเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1932 ประกอบด้วยบริษัท Audiwerke, Horchwerke และ Zschopauer Motorenwerke/DKW และได้ทำการตกลงกับค่าย Wanderer Werke เพื่อเป็นพันธมิตรร่วมกัน
อันเป็นที่มาของสัญลักษณ์ “4 ห่วง” ซึ่งเป็นรูปวงแหวน 4 วงคล้องกันอันมีความหมายถึงการแต่งงานโดยใช้ชื่อบริษัทใหม่นี้ว่า Auto Union AG หรือออโต้ ยูเนี่ยน เอจี. ผลิตรถยนต์ของแต่ละบริษัทออกมา แต่ใช้ยี่ห้อเดียวกันและสัญลักษณ์ “4 ห่วง” เหมือนกัน จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติการผลิตรถยนต์ในปี ค.ศ. 1940
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานผลิตรถยนต์ของออโต้ ยูเนี่ยนที่ตั้งอยู่ในเยอรมนีตะวันออกภายหลังจากที่มีการแบ่งแยกประเทศเยอรมนีออกเป็นสองฝ่าย โรงงานดังกล่าวถูกยึดเป็นของรัฐเนื่องจากเยอรมนีตะวันออกใช้ระบบการปกครองแบบสังคมนิยมและยังคงผลิตรถยนต์โดยใช้ชื่อยี่ห้อ Trabant รถยนต์ดังแห่งยุโรปตะวันออก
ส่วนทางเยอรมนีตะวันตกได้ก่อตั้งออโต้ ยูเนี่ยนขึ้นมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1949 โดยใช้ชื่อว่า Auto Union GmbH เพื่อผลิตรถยนต์ยี่ห้อ DKW เพียงยี่ห้อเดียวโดยโรงงานตั้งอยู่ที่เมือง Ingostadt ในแคว้นบาวาเรียผลิตอะไหล่ก่อนที่จะมาผลิตรถคันแรกแบบรถแวนรุ่น DKW F89L และผลิตมอเตอร์ไซค์ รุ่น DKW RT 125W
ส่วนยี่ห้ออื่นในเครือมีอันต้องยุติการผลิตลงไป จนกระทั่งทางโฟล์คสวาเก้นได้เข้าไปซื้อกิจการของออโต้ ยูเนี่ยนเมื่อปี ค.ศ. 1964 และได้ฟื้นคืนชีพยี่ห้อออดี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรุ่น Audi 100 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1968 ซึ่งประสบความสำเร็จจากยอดขายได้สูงจนกระทั่งทำให้ชื่อของ “ออดี้” กลับมาโด่งดังอีกครั้ง
รถยนต์ของออดี้ได้พัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยี่ระดับสูงเน้นสมรรถนะและความหรูหราจนติดอันดับรถยนต์ระดับหรูในอันดับต้น ๆ ของโลก
นอกจากนี้ยังผลิตรถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี่จากสนามแข่งในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงที่ทีมออดี้สามารถกวาดแชมป์ได้ติดต่อกันหลายสมัยและยังคว้าแชมป์ครั้งแรกของโลกด้วยรถแข่งที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลในรายการดังกล่าว
