USS ENTERPRISE (CVN-65)-เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของโลก


By : C. Methas – Managing Editor

USS ENTERPRISE (CVN-65) เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินประจำกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาลำแรกของโลกที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ เข้าประจำการเมื่อปี 1961 กัปตัน Vincent P. DePoix เป็นผู้บัญชาการ ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ปฏิบัติภารกิจหลายภารกิจด้วยกันในช่วงของสงครามต่าง ๆ ปลดประจำการในปี 2013 ซึ่งจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ล่าสุด CVN-78 เข้ามาประจำการแทน เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินระดับ Supercarrier

Enterprise ได้รับการออกแบบต้นแบบมาจากรุ่น CVA-65 รหัส N มีความหมายถึง นิวเคลียร์ ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางการทหารในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความยาวที่สุดในโลก เท่ากับ 1123 ฟุตหรือ 342 เมตร ขนาด 89600 ตัน เป็นเรือระดับชั้นนิมิตซ์ อาวุธประจำการได้รับการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยโดยได้ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น

20 กุมภาพันธ์ ปี 1962 ได้เข้าร่วมปฏิบัติการร่วมในโครงการเมอคิวรี่ จัดเก็บแค๊บซูลอวกาศที่มีนักบินอวกาศ John H. Glenn เป็นผู้บังคับการกลับสู่โลก ปี 1962 ร่วมปฏิบัติการส่งเครื่องบิน U-2 ขึ้นบินเหนือน่านฟ้าคิวบา เพื่อถ่ายภาพ หลังจากโซเวียตได้ตั้งฐานยิงขีปนาวุธที่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นเกาะที่ห่างจากฟลอริด้าเพียง 90 ไมล์เท่านั้น และประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้สั่งถอนฐานดังกล่าว พร้อมกับสั่งเตรียมพร้อมทั้งกองกำลังทางเรือและอากาศเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปี 1962

Enterprise พร้อมปฏิบัติภารกิจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ 28 ตุลาคม 1962 นิกิต้า ครุสช์ชอฟ สั่งถอนฐานยิงขีปนาวุธ ปี 1965 เข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามเวียตนาม ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดลงใกล้เมืองเบียน หัว วันแรก 125 เที่ยวบิน ปี 1968 เข้าร่วมในสงครามเกาหลี 14 มกราคม ปี 1969

จรวด MK-32 Zuni ที่ติดตั้งในเครื่องบินรุ่น F-4 Phantom ร้อนจัดเกิดระเบิดขึ้น แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทัน ลูกเรือเสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บ 314 ราย เครื่องบินถูกไฟไหม้ไป 15 ลำ เรือถูกนำเข้าซ่อมที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ฮาวาย เสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 1969

Enterprise ปฏิบัติการในสงครามเวียตนามจนกระทั่งกรุงไซง่อนแตก และได้ร่วมอพยพผู้คนออกจากกรุงไซง่อนเป็นลำสุดท้าย ต่อมาได้เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียทั้งสองครั้ง จนกระทั่งปลดปล่อยอิรัก

ต่อมาได้เดินทางไปยังเกาหลีใต้ หลังจากเกาหลีเหนือได้ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ ปานกลางและไกลเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมซึ่งตรงกับวันชาติของสหรัฐอเมริกา

USS ENTERPRISE (CVN-65) ขนาด 89,600 ตัน ความยาวตัวเรือ 1,123 ฟุต ระวางขับน้ำ 133 ฟุต เครื่องยนต์นิวเคลียร์ 8 ชุดป้อนพลังงานให้กับเครื่องเทอร์ไบ 4 เครื่อง กำลังขับ 280,000 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 33.6 น๊อต เจ้าหน้าที่ประจำเรือ 5,000 นาย

อาวุธประจำเรือ ประกอบด้วย ขีปนาวุธ Sea Sparrow 2 ลูก, ขีปนาวุธ RAM 2 ลูก, ปืนใหญ่ Phalanx CIWS ขนาด 20 มม. 3 กระบอก, ขีปนาวุธนำวิถี RIM-116 Rolling Airframe Missile เครื่องบินประจำการ 85 ลำ F-14 Tomcats, F/A-18 Hornets, EA-6B Prowlers, E-2C Hawkeyes, S-3 Vikings และ SH-3 Sea Kings, SH-60 Seahawks

By : C. Methas - Managing Editor

USS ENTERPRISE (CVN-65) เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินประจำกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาลำแรกของโลกที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ เข้าประจำการเมื่อปี 1961 กัปตัน Vincent P. DePoix เป็นผู้บัญชาการ ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ปฏิบัติภารกิจหลายภารกิจด้วยกันในช่วงของสงครามต่าง ๆ ปลดประจำการในปี 2013 ซึ่งจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ล่าสุด CVN-78 เข้ามาประจำการแทน เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินระดับ Supercarrier

Enterprise ได้รับการออกแบบต้นแบบมาจากรุ่น CVA-65 รหัส N มีความหมายถึง นิวเคลียร์ ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางการทหารในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความยาวที่สุดในโลก เท่ากับ 1123 ฟุตหรือ 342 เมตร ขนาด 89600 ตัน เป็นเรือระดับชั้นนิมิตซ์ อาวุธประจำการได้รับการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยโดยได้ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น

20 กุมภาพันธ์ ปี 1962 ได้เข้าร่วมปฏิบัติการร่วมในโครงการเมอคิวรี่ จัดเก็บแค๊บซูลอวกาศที่มีนักบินอวกาศ John H. Glenn เป็นผู้บังคับการกลับสู่โลก ปี 1962 ร่วมปฏิบัติการส่งเครื่องบิน U-2 ขึ้นบินเหนือน่านฟ้าคิวบา เพื่อถ่ายภาพ หลังจากโซเวียตได้ตั้งฐานยิงขีปนาวุธที่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นเกาะที่ห่างจากฟลอริด้าเพียง 90 ไมล์เท่านั้น และประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้สั่งถอนฐานดังกล่าว พร้อมกับสั่งเตรียมพร้อมทั้งกองกำลังทางเรือและอากาศเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปี 1962

Enterprise พร้อมปฏิบัติภารกิจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ 28 ตุลาคม 1962 นิกิต้า ครุสช์ชอฟ สั่งถอนฐานยิงขีปนาวุธ ปี 1965 เข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามเวียตนาม ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดลงใกล้เมืองเบียน หัว วันแรก 125 เที่ยวบิน ปี 1968 เข้าร่วมในสงครามเกาหลี 14 มกราคม ปี 1969

จรวด MK-32 Zuni ที่ติดตั้งในเครื่องบินรุ่น F-4 Phantom ร้อนจัดเกิดระเบิดขึ้น แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทัน ลูกเรือเสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บ 314 ราย เครื่องบินถูกไฟไหม้ไป 15 ลำ เรือถูกนำเข้าซ่อมที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ฮาวาย เสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 1969

Enterprise ปฏิบัติการในสงครามเวียตนามจนกระทั่งกรุงไซง่อนแตก และได้ร่วมอพยพผู้คนออกจากกรุงไซง่อนเป็นลำสุดท้าย ต่อมาได้เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียทั้งสองครั้ง จนกระทั่งปลดปล่อยอิรัก

ต่อมาได้เดินทางไปยังเกาหลีใต้ หลังจากเกาหลีเหนือได้ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ ปานกลางและไกลเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมซึ่งตรงกับวันชาติของสหรัฐอเมริกา

USS ENTERPRISE (CVN-65) ขนาด 89,600 ตัน ความยาวตัวเรือ 1,123 ฟุต ระวางขับน้ำ 133 ฟุต เครื่องยนต์นิวเคลียร์ 8 ชุดป้อนพลังงานให้กับเครื่องเทอร์ไบ 4 เครื่อง กำลังขับ 280,000 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 33.6 น๊อต เจ้าหน้าที่ประจำเรือ 5,000 นาย

อาวุธประจำเรือ ประกอบด้วย ขีปนาวุธ Sea Sparrow 2 ลูก, ขีปนาวุธ RAM 2 ลูก, ปืนใหญ่ Phalanx CIWS ขนาด 20 มม. 3 กระบอก, ขีปนาวุธนำวิถี RIM-116 Rolling Airframe Missile เครื่องบินประจำการ 85 ลำ F-14 Tomcats, F/A-18 Hornets, EA-6B Prowlers, E-2C Hawkeyes, S-3 Vikings และ SH-3 Sea Kings, SH-60 Seahawks

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!