กรมการขนส่งทางบก เผยรถจดทะเบียนใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศปี 59 สูงถึง 2,872,026 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ3.60


กรมการขนส่งทางบก เผยสถิติรถจดทะเบียนใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศปี 2559 (มกราคม – ธันวาคม 2559)สูงถึง2,872,026คันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.60 โดยรถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.46 อยู่ที่ 1,914,131 คัน รถยนต์นั่งไม่เกินเจ็ดคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.97 อยู่ที่ 552,947 คัน ในขณะที่รถกระบะมียอดจดทะเบียนลดลงร้อยละ 3.84 อยู่ที่ 245,437 คัน

นายสนิท พรหมวงษ์อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเปิดเผยถึงสถิติรถจดทะเบียนใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศประจำปี 2559 (ระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม 2559)ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พบว่ามีผู้นำรถใหม่ป้ายแดงมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 2,872,026 คันเฉลี่ยเดือนละเกือบ 240,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 3.60 ซึ่งมียอดจดทะเบียนรวมทั้งปีอยู่ที่ 2,772,269 คัน โดยในปี 2559 มีการจดทะเบียนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์มียอดการจดทะเบียนมากที่สุดจำนวน 1,914,131 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 99,131 คัน คิดเป็นร้อยละ 5.46 รองลงมาคือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มียอดจดทะเบียนจำนวน 552,947คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26,183 คัน คิดเป็นร้อยละ 4.97 ในขณะที่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลมียอดจดทะเบียนทั้งปีจำนวน 245,437 คัน ลดลงจากปีก่อน 9,800 คัน คิดเป็นร้อยละ 3.84 ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน มียอดจดทะเบียน 13,134คัน ลดลง 954 คัน คิดเป็นร้อยละ 6.77 ส่วนรถแท็กซี่ (รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน) มียอดจดทะเบียนจำนวน 8,351 คัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วพบว่าลดลงจากปีก่อน 1,504 คัน คิดเป็นร้อยละ 15.26

สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ประกอบด้วย รถโดยสารมียอดจดทะเบียนทั้งปีจำนวน 11,482 คัน ลดลงจากปีก่อน 4,484 คัน คิดเป็นร้อยละ 28.08 ส่วนรถบรรทุกมียอดจดทะเบียน 65,163 คัน ลดลงจากปีก่อน 3,818 คัน ลดลงร้อยละ 5.53 ถือได้ว่าในภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนรถประเภทอื่นๆ เริ่มชะลอตัวลง ทั้งนี้ จากจำนวนการจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดงปี 2559 ส่งผลให้จำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศ (ข้อมูลณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559) มีจำนวนทั้งสิ้น 37,338,139 คันประกอบด้วย รถจักรยานยนต์สูงสุดจำนวน 20,276,806 คัน รองลงมารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนจำนวน 8,197,012 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจำนวน 6,277,527 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คนจำนวน 422,221 คัน รถแท็กซี่จำนวน 95,231 คัน รถโดยสารจำนวน 157,015 คัน รถบรรทุกจำนวน 1,055,717 คัน เป็นต้น

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการจดทะเบียนรถใหม่มีความสะดวก รวดเร็วใช้ระยะเวลาภายใน 1 วันโดยจะสามารถรับแผ่นป้ายทะเบียนรถได้ทันทีกรณีที่หลักฐานครบถ้วนได้แก่สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถหนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิตหลักฐานการได้มาของรถได้แก่สัญญาซื้อขายสัญญาเช่าซื้อใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีหลักฐานการประกันภัยตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ.2535 และแบบคำขอจดทะเบียนรถรวมทั้งหนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่มอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) โดยต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพเพื่อความถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่เจ้าของรถนอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องทางให้ข้อมูลการให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถทางโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่นDLT eFormเช่น หลักฐานที่ใช้ขั้นตอนสถานที่ดำเนินการระยะเวลารวมถึงสามารถดาวน์โหลดและพิมพ์แบบคำขอเพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้ยิ่งเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน ลดระยะเวลาจึงขอให้เจ้าของรถดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อไม่ต้องใช้รถป้ายแดงซึ่งอาจเป็นปัญหาในการติดตามตรวจสอบกรณีรถสูญหายและเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการใช้งานต่อไปอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

กรมการขนส่งทางบก เผยสถิติรถจดทะเบียนใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศปี 2559 (มกราคม – ธันวาคม 2559)สูงถึง2,872,026คันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.60 โดยรถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.46 อยู่ที่ 1,914,131 คัน รถยนต์นั่งไม่เกินเจ็ดคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.97 อยู่ที่ 552,947 คัน ในขณะที่รถกระบะมียอดจดทะเบียนลดลงร้อยละ 3.84 อยู่ที่ 245,437 คัน

นายสนิท พรหมวงษ์อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเปิดเผยถึงสถิติรถจดทะเบียนใหม่ป้ายแดงทั่วประเทศประจำปี 2559 (ระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม 2559)ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พบว่ามีผู้นำรถใหม่ป้ายแดงมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 2,872,026 คันเฉลี่ยเดือนละเกือบ 240,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 3.60 ซึ่งมียอดจดทะเบียนรวมทั้งปีอยู่ที่ 2,772,269 คัน โดยในปี 2559 มีการจดทะเบียนรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์มียอดการจดทะเบียนมากที่สุดจำนวน 1,914,131 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 99,131 คัน คิดเป็นร้อยละ 5.46 รองลงมาคือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มียอดจดทะเบียนจำนวน 552,947คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26,183 คัน คิดเป็นร้อยละ 4.97 ในขณะที่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลมียอดจดทะเบียนทั้งปีจำนวน 245,437 คัน ลดลงจากปีก่อน 9,800 คัน คิดเป็นร้อยละ 3.84 ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน มียอดจดทะเบียน 13,134คัน ลดลง 954 คัน คิดเป็นร้อยละ 6.77 ส่วนรถแท็กซี่ (รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน) มียอดจดทะเบียนจำนวน 8,351 คัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วพบว่าลดลงจากปีก่อน 1,504 คัน คิดเป็นร้อยละ 15.26

สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ประกอบด้วย รถโดยสารมียอดจดทะเบียนทั้งปีจำนวน 11,482 คัน ลดลงจากปีก่อน 4,484 คัน คิดเป็นร้อยละ 28.08 ส่วนรถบรรทุกมียอดจดทะเบียน 65,163 คัน ลดลงจากปีก่อน 3,818 คัน ลดลงร้อยละ 5.53 ถือได้ว่าในภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนรถประเภทอื่นๆ เริ่มชะลอตัวลง ทั้งนี้ จากจำนวนการจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดงปี 2559 ส่งผลให้จำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศ (ข้อมูลณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559) มีจำนวนทั้งสิ้น 37,338,139 คันประกอบด้วย รถจักรยานยนต์สูงสุดจำนวน 20,276,806 คัน รองลงมารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนจำนวน 8,197,012 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจำนวน 6,277,527 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คนจำนวน 422,221 คัน รถแท็กซี่จำนวน 95,231 คัน รถโดยสารจำนวน 157,015 คัน รถบรรทุกจำนวน 1,055,717 คัน เป็นต้น

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการจดทะเบียนรถใหม่มีความสะดวก รวดเร็วใช้ระยะเวลาภายใน 1 วันโดยจะสามารถรับแผ่นป้ายทะเบียนรถได้ทันทีกรณีที่หลักฐานครบถ้วนได้แก่สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถหนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิตหลักฐานการได้มาของรถได้แก่สัญญาซื้อขายสัญญาเช่าซื้อใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีหลักฐานการประกันภัยตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ.2535 และแบบคำขอจดทะเบียนรถรวมทั้งหนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่มอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) โดยต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพเพื่อความถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่เจ้าของรถนอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องทางให้ข้อมูลการให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถทางโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่นDLT eFormเช่น หลักฐานที่ใช้ขั้นตอนสถานที่ดำเนินการระยะเวลารวมถึงสามารถดาวน์โหลดและพิมพ์แบบคำขอเพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้ยิ่งเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน ลดระยะเวลาจึงขอให้เจ้าของรถดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อไม่ต้องใช้รถป้ายแดงซึ่งอาจเป็นปัญหาในการติดตามตรวจสอบกรณีรถสูญหายและเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการใช้งานต่อไปอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!