การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ของโลก-ในอนาคตอันใกล้กำลังจะมา ภายใน 3-10 ปี


การก้าวกระโดดของเทคโนโลยี่ในยุคสมัยนี้รวดเร็วอย่างยิ่งยวด ต่างกับเมื่อราว 50-100 ปีที่แล้ว การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่นับเป็นครั้งที่ 4 ของโลก

ในปัจจุบันนี้มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์แปลงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน วิถีแนวสโลว์ไลฟ์เป็นอันปิดฉากสำหรับคนรุ่นใหม่ หลงลืมเสน่ห์ของวิถีโบร่ำโบราณไปโดยปริยาย

ว่ากันเรื่องของนวัตกรรมในอนาคตที่จะมาถึงในเร็ววันภายใน 3-10 ปีข้างหน้า นับว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวที่มนุษย์จะต้องปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยี่ที่มีผลต่อชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

ในปี 1998 Kodak มีพนักงาน 170,000 คน ขายรูปกระดาษ 85% ของทั่วโลก เพียงไม่กี่ปีถัดจากนั้นต้องล้มละลายและปิดตัวลง ณ ปัจจุบัน สิ่งที่เกิดกับ Kodax และ Polaroid จะเกิดกับหลายอุตสาหกรรมใน 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่มีใครคาดคิด หลังปี 1998 เพียง 3 ปีเท่านั้น ดิจิตอลก็มาแทนฟิล์มถ่ายรูปมือถือก็มาแทนกล้องถ่ายรูป

ปี 1975 เริ่มประดิษฐ์กล้องดิจิตอล ความสามารถถ่ายได้เพียง 10,000 pixels มีข้อติมากมาย แต่ก็ได้แก้ไขพัฒนาจนมาแทนที่กล้องเดิมได้หมดเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ Artificial Intelligence จะถูกนำไปประยุกต์ใช้กับงานด้านสุขภาพ ระบบอัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า การศึกษา รูปสามมิติ การเกษตร และงานอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเร็วกว่าอดีตมาก จะเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่นับเป็นครั้งที่ 4 ของชาวโลก

เด็กที่เกิดใหม่ จะได้เห็นรถเครื่องยนต์ในพิพิธภัณฑ์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาอย่างแน่นอน ส่งผลให้ อู่ซ่อมรถจะหายไป, เครื่องยนต์ 2 หมื่นชิ้นจะถูกแทนที่
ด้วยมอเตอร์ 20 ชิ้น การซ่อมเปลี่ยนใช้เวลาเพียง 10 นาทีเป็นอันเสร็จเรียบร้อย นำรถออกไปแล่นได้สบายใจเฉิบ ค่าแรงช่างก็ไม่ได้แพงมากมาย พวกช่างเถอะ วางหมากวางยาหมดไป, มอเตอร์ที่เสียจะถูกรวบรวมมาที่
Regional repair shop ใช้ robots ซ่อม

เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนมอเตอร์รถไฟฟ้า ขับเข้าศูนย์บริการแล้วนั่งกินกาแฟแก้วเดียวก็ได้ มอเตอร์ใหม่เรียบร้อย

ปั้มน้ำมันจะค่อยทยอยปิดตัวลง ตามหัวมุมถนนใหญ่จะมี electric recharging station เป็นมิเตอร์ไฟฟ้าเก็บตังค์

บริษัทผลิตรถจะรวมตัวกันสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ส่วนเหมืองถ่านหินและบริษัทค้าน้ำมันจะทยอยเล็กลง นอกจากนี้ด้วยเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกใช้อย่างมาก ปี 2030 จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปี 2030 เมืองจะสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ดีกว่าปัจจุบันอย่างมากมาย

ปี 2018 รถยนต์ “ไร้คนขับ” ได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ภายในสองปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์จะเปลี่ยนมาก อีกไม่ถึง 10 ปี คุณไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ของตนเอง อยากไปไหนก็ใช้มือถือโทรเรียกรถก็จะมารับไปส่ง “ไร้คนขับ” นั่งเฉยๆ

อีก 10 ปีข้างหน้า คุณไม่ต้องหาที่จอดรถ ไม่ต้องไปทำใบขับขี่ เพียงแค่จ่ายตามระยะทางที่คุณเรียกรถมาพาไป นั่งรถไปก็ทำงานพิมพ์นี้นั้นโน้นได้อีก

จำนวนรถยนต์จะลดลง 90-95% ที่จอดรถเหลือเฝือ ใช้ทำสวนสาธารณะเขียวๆ งามตาได้อีกหลายแห่ง

ปัจจุบันคนตายจากอุบัติเหตุรถยนต์ปีละ 1.2 ล้านคน หรือเฉลี่ย 60,000 ไมล์ ต่อไป “ไร้คนขับ” คาดว่าจะเกิดอุบัติเหตุตาย 6 ล้านไมล์ต่อคน

บริษัทผลิตรถยนต์สันดาปจะหดหายไปเรื่อยๆ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เช่น Tesla, Apple, Google ซึ่งทำ Computer on wheels จะร้ำรวยมหาศาล

ค่าย “Volvo” ในปี 2018 เลิกผลิตรถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อย่างเดียว
เริ่มปี 2019 ผลิตเป็นรุ่น hybrid และรถใช้ไฟฟ้าเท่านั้น

2-3 ปีที่ผ่านมา วิศวกรจาก Audi, Volkswagen ต่างหวาดกลัวการเปิดตัวของ บ.Tesla ที่ผลิตแต่รถไฟฟ้า

เมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ลดน้อยลง อนาคตการประกันภัยทางรถยนต์ก็จะซบเซาลง

Software ใหม่ๆ จะมาแทนที่ของเดิมๆในทุกอุตสาหกรรมใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ เช่น Software ชื่อ UBER ไม่มีรถของตัวเองสักคัน แต่เป็นบริษัทแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้

Airbnb ก็เป็นโรงแรมที่มากที่สุดในโลกขณะนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีโรงแรมของตัวเอง ลองถาม Hilton ดูก็ได้

AI จะทำให้เข้าใจเรื่องราวได้รวดเร็วยกกำลังสอง exponentially ปีนี้คอมพิวเตอร์ได้เป็น The best Go-player in the world=10 ปี เร็วกว่าที่พยากรณ์กัน

ในสหรัฐ IBM’s Watson เป็น Software ให้คำแนะนำปัญหาข้อ
กฎหมาย ได้ภายในหน่วย “วินาที” และถูกต้อง 90% ซึ่งนักกฎหมายทำได้เพียง 70% เฉลี่ยนักกฎหมายหนุ่มสาว 90% ตกงาน ผู้ที่กำลังเรียนขอให้เปลี่ยน อีก 10 ปี จะเหลือแต่ Specialist แท้เท่านั้น ประมาณ 10% ของนักกฎหมายปัจจุบัน

“Watson” ได้ออกโปรแกรมตรวจหามะเร็ง ได้เร็วและแม่นยำกว่า “nurse” ถึง 4 เท่าตัว

“Facebook” ได้ออกโปรแกรมจำหน้าคน และนำไปใช้กันแล้ว ปี 2030 คาดว่าสมองกลของคอมพิวเตอร์ จะเหนือกว่าสมองมนุษย์หลายเท่าแน่นอน

บ้านเรือนจะผลิตไฟฟ้าใช้เอง ไฟฟ้าที่เกิน จะขายให้ grid stores เพื่อขายให้โรงงานที่ใช้ไฟฟ้ามากๆ เช่น Tessa roof พลังไฟฟ้าจะถูกมากและสะอาด Solar production จะเพิ่มขึ้นอีกแบบยกกำลัง exponentially บริษัทที่ผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมัน Fossil energy ขณะนี้พยายามแข่งกับ home solar energy แต่สุดท้ายจะพ่ายแพ้เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

อสังหาริมทรัพย์จะเปลี่ยนแปลงไป ในเมื่อการติตต่อสื่อสารทำได้สะดวกการคมนาคมดีขึ้น คอนโดแออัดในเมืองก็จะเปลี่ยนไปเป็นบ้านแนวราบ
ในสถานที่แวดล้อมสวยธรรมชาติ

“Tricoder” เครื่องมือตรวจวัดสายตา วิเคราะห์เลือด ลมหายใจ
ว่าสุขภาพยังดีหรือไม่ โดยวิเคราะห์ 54 bio-markers ว่าเป็นโรคอะไรหรือไม่
และปัจจุบันก็มี apps บนมือถือมากมายที่ให้ข้อมูล “สุขภาพ”

การก้าวกระโดดของเทคโนโลยี่ในยุคสมัยนี้รวดเร็วอย่างยิ่งยวด ต่างกับเมื่อราว 50-100 ปีที่แล้ว การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่นับเป็นครั้งที่ 4 ของโลก

ในปัจจุบันนี้มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์แปลงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน วิถีแนวสโลว์ไลฟ์เป็นอันปิดฉากสำหรับคนรุ่นใหม่ หลงลืมเสน่ห์ของวิถีโบร่ำโบราณไปโดยปริยาย

ว่ากันเรื่องของนวัตกรรมในอนาคตที่จะมาถึงในเร็ววันภายใน 3-10 ปีข้างหน้า นับว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวที่มนุษย์จะต้องปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยี่ที่มีผลต่อชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

ในปี 1998 Kodak มีพนักงาน 170,000 คน ขายรูปกระดาษ 85% ของทั่วโลก เพียงไม่กี่ปีถัดจากนั้นต้องล้มละลายและปิดตัวลง ณ ปัจจุบัน สิ่งที่เกิดกับ Kodax และ Polaroid จะเกิดกับหลายอุตสาหกรรมใน 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่มีใครคาดคิด หลังปี 1998 เพียง 3 ปีเท่านั้น ดิจิตอลก็มาแทนฟิล์มถ่ายรูปมือถือก็มาแทนกล้องถ่ายรูป

ปี 1975 เริ่มประดิษฐ์กล้องดิจิตอล ความสามารถถ่ายได้เพียง 10,000 pixels มีข้อติมากมาย แต่ก็ได้แก้ไขพัฒนาจนมาแทนที่กล้องเดิมได้หมดเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ Artificial Intelligence จะถูกนำไปประยุกต์ใช้กับงานด้านสุขภาพ ระบบอัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า การศึกษา รูปสามมิติ การเกษตร และงานอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเร็วกว่าอดีตมาก จะเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่นับเป็นครั้งที่ 4 ของชาวโลก

เด็กที่เกิดใหม่ จะได้เห็นรถเครื่องยนต์ในพิพิธภัณฑ์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาอย่างแน่นอน ส่งผลให้ อู่ซ่อมรถจะหายไป, เครื่องยนต์ 2 หมื่นชิ้นจะถูกแทนที่ ด้วยมอเตอร์ 20 ชิ้น การซ่อมเปลี่ยนใช้เวลาเพียง 10 นาทีเป็นอันเสร็จเรียบร้อย นำรถออกไปแล่นได้สบายใจเฉิบ ค่าแรงช่างก็ไม่ได้แพงมากมาย พวกช่างเถอะ วางหมากวางยาหมดไป, มอเตอร์ที่เสียจะถูกรวบรวมมาที่ Regional repair shop ใช้ robots ซ่อม

เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนมอเตอร์รถไฟฟ้า ขับเข้าศูนย์บริการแล้วนั่งกินกาแฟแก้วเดียวก็ได้ มอเตอร์ใหม่เรียบร้อย

ปั้มน้ำมันจะค่อยทยอยปิดตัวลง ตามหัวมุมถนนใหญ่จะมี electric recharging station เป็นมิเตอร์ไฟฟ้าเก็บตังค์

บริษัทผลิตรถจะรวมตัวกันสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ส่วนเหมืองถ่านหินและบริษัทค้าน้ำมันจะทยอยเล็กลง นอกจากนี้ด้วยเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกใช้อย่างมาก ปี 2030 จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปี 2030 เมืองจะสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ดีกว่าปัจจุบันอย่างมากมาย

ปี 2018 รถยนต์ "ไร้คนขับ" ได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ภายในสองปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์จะเปลี่ยนมาก อีกไม่ถึง 10 ปี คุณไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ของตนเอง อยากไปไหนก็ใช้มือถือโทรเรียกรถก็จะมารับไปส่ง "ไร้คนขับ" นั่งเฉยๆ

อีก 10 ปีข้างหน้า คุณไม่ต้องหาที่จอดรถ ไม่ต้องไปทำใบขับขี่ เพียงแค่จ่ายตามระยะทางที่คุณเรียกรถมาพาไป นั่งรถไปก็ทำงานพิมพ์นี้นั้นโน้นได้อีก

จำนวนรถยนต์จะลดลง 90-95% ที่จอดรถเหลือเฝือ ใช้ทำสวนสาธารณะเขียวๆ งามตาได้อีกหลายแห่ง

ปัจจุบันคนตายจากอุบัติเหตุรถยนต์ปีละ 1.2 ล้านคน หรือเฉลี่ย 60,000 ไมล์ ต่อไป "ไร้คนขับ" คาดว่าจะเกิดอุบัติเหตุตาย 6 ล้านไมล์ต่อคน

บริษัทผลิตรถยนต์สันดาปจะหดหายไปเรื่อยๆ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เช่น Tesla, Apple, Google ซึ่งทำ Computer on wheels จะร้ำรวยมหาศาล

ค่าย "Volvo" ในปี 2018 เลิกผลิตรถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อย่างเดียว เริ่มปี 2019 ผลิตเป็นรุ่น hybrid และรถใช้ไฟฟ้าเท่านั้น

2-3 ปีที่ผ่านมา วิศวกรจาก Audi, Volkswagen ต่างหวาดกลัวการเปิดตัวของ บ.Tesla ที่ผลิตแต่รถไฟฟ้า

เมื่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ลดน้อยลง อนาคตการประกันภัยทางรถยนต์ก็จะซบเซาลง

Software ใหม่ๆ จะมาแทนที่ของเดิมๆในทุกอุตสาหกรรมใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ เช่น Software ชื่อ UBER ไม่มีรถของตัวเองสักคัน แต่เป็นบริษัทแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้

Airbnb ก็เป็นโรงแรมที่มากที่สุดในโลกขณะนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีโรงแรมของตัวเอง ลองถาม Hilton ดูก็ได้

AI จะทำให้เข้าใจเรื่องราวได้รวดเร็วยกกำลังสอง exponentially ปีนี้คอมพิวเตอร์ได้เป็น The best Go-player in the world=10 ปี เร็วกว่าที่พยากรณ์กัน

ในสหรัฐ IBM's Watson เป็น Software ให้คำแนะนำปัญหาข้อ กฎหมาย ได้ภายในหน่วย "วินาที" และถูกต้อง 90% ซึ่งนักกฎหมายทำได้เพียง 70% เฉลี่ยนักกฎหมายหนุ่มสาว 90% ตกงาน ผู้ที่กำลังเรียนขอให้เปลี่ยน อีก 10 ปี จะเหลือแต่ Specialist แท้เท่านั้น ประมาณ 10% ของนักกฎหมายปัจจุบัน

"Watson" ได้ออกโปรแกรมตรวจหามะเร็ง ได้เร็วและแม่นยำกว่า "nurse" ถึง 4 เท่าตัว

"Facebook" ได้ออกโปรแกรมจำหน้าคน และนำไปใช้กันแล้ว ปี 2030 คาดว่าสมองกลของคอมพิวเตอร์ จะเหนือกว่าสมองมนุษย์หลายเท่าแน่นอน

บ้านเรือนจะผลิตไฟฟ้าใช้เอง ไฟฟ้าที่เกิน จะขายให้ grid stores เพื่อขายให้โรงงานที่ใช้ไฟฟ้ามากๆ เช่น Tessa roof พลังไฟฟ้าจะถูกมากและสะอาด Solar production จะเพิ่มขึ้นอีกแบบยกกำลัง exponentially บริษัทที่ผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมัน Fossil energy ขณะนี้พยายามแข่งกับ home solar energy แต่สุดท้ายจะพ่ายแพ้เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

อสังหาริมทรัพย์จะเปลี่ยนแปลงไป ในเมื่อการติตต่อสื่อสารทำได้สะดวกการคมนาคมดีขึ้น คอนโดแออัดในเมืองก็จะเปลี่ยนไปเป็นบ้านแนวราบ ในสถานที่แวดล้อมสวยธรรมชาติ

"Tricoder" เครื่องมือตรวจวัดสายตา วิเคราะห์เลือด ลมหายใจ ว่าสุขภาพยังดีหรือไม่ โดยวิเคราะห์ 54 bio-markers ว่าเป็นโรคอะไรหรือไม่ และปัจจุบันก็มี apps บนมือถือมากมายที่ให้ข้อมูล "สุขภาพ"

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!