กู๊ดเยียร์ จับมือ ลินฟ้อกซ์ ขยายฐานความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอผลิตภัณฑ์ ระบบการจัดการยาง และโซลูชั่นความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีล้ำ


กู๊ดเยียร์นำเสนอโซลูชั่นการจัดการเกี่ยวกับยางที่ครบวงจร ช่วยให้ลินฟ้อกซ์สามารถลดเวลาดาวน์ไทม์และเพิ่มความสามารถในการผลิต เสริมประสิทธิภาพการขนส่งของลินฟ้อกซ์ในประเทศไทยได้เต็มศักยภาพ

บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน และบริษัท ลินฟ้อกซ์ ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือ โดยกู๊ดเยียร์จะให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นนำระดับโลก และระบบการบริหารจัดการยางแก่ลินฟ้อกซ์ เพื่อรองรับรถขนส่งสินค้าที่ให้บริการในศูนย์ขนส่งสินค้า 2 แห่งในย่านปริมณฑล ได้แก่ ลำลูกกาและบางบัวทอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ลินฟ้อกซ์มีรถบรรทุกและรถพ่วงให้บริการในคลังสินค้าสองแห่งรวมกันราว 300 คัน

“บริษัทมีความยินดีที่ได้รับเลือกให้ดำเนินระบบการบริหารจัดการยางสำหรับลินฟ้อกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำทางด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจรในเอเชียแปซิฟิก ภารกิจนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ให้สามารถขยายความร่วมมือครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ พร้อมนำผลิตภัณฑ์และบริการมาตรฐานระดับโลกมาสู่ประเทศไทย บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ช่วยสนับสนุนให้พันธมิตรเพิ่มความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างปลอดภัยไร้กังวล ด้วยผลิตภัณฑ์และระบบการบริหารจัดการยางที่เหนือระดับของเรา” นายไมเคิล ดรายเออร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ดูแลสายงานรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกู๊ดเยียร์ กล่าว

“ความสัมพันธ์ระหว่าง ลินฟ้อกซ์ และ กู๊ดเยียร์ ดำเนินมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2511 เมื่อสองบริษัทร่วมมือกันในการจัดส่งยางให้กับอู่ซ่อมรถและกิจการค้าปลีกต่างๆ ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย” นายเกรก โทมัส ซีอีโอของลินฟ้อกซ์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป กล่าว

“เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่ความร่วมมือนี้ยังคงแข็งแกร่ง รวมไปถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบความปลอดภัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยฐานการดำเนินงานที่มีอยู่ในประเทศไทย ทำให้ลินฟ้อกซ์ยินดีที่จะขยายความร่วมมือกับกู๊ดเยียร์ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

ตามข้อตกลงร่วมมือครั้งนี้ กู๊ดเยียร์จะจัดหายางพรีเมียมรุ่น S200+ และ G667+ Max เพื่อรองรับรถหัวลากของลินฟ้อกซ์ พร้อมบริการดอกยางด้วยหน้ายางรุ่น LHT-R สำหรับรถพ่วงของลินฟ้อกซ์ทุกคัน

ยิ่งไปกว่านั้น กู๊ดเยียร์ยังนำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Tire Optix” ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของกู๊ดเยียร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจเลือกใช้โดยลูกค้าชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก มาบริหารจัดการข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นความลึกดอกยางหรือแรงดัน ลมยาง ด้วยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และแอนดรอยด์โดยระบบสามารถติดตามประวัติและตำแหน่งของยางแต่ละเส้น ไม่ว่าจะเป็นยางใหม่หรือยางหล่อได้ด้วยการสแกนหมายเลขซีเรียลของยาง และติดตามข้อมูลยางได้ตลอดวงจรอายุการใช้งาน อีกทั้งยังสามารถรายงานสภาพการสึกหรอของยาง ประวัติการเข้ารับบริการตามตำแหน่งของล้อของรถหัวลากและรถพ่วงแต่ละคันได้ตามต้องการ

กู๊ดเยียร์นำเสนอโซลูชั่นการจัดการเกี่ยวกับยางที่ครบวงจร ช่วยให้ลินฟ้อกซ์สามารถลดเวลาดาวน์ไทม์และเพิ่มความสามารถในการผลิต เสริมประสิทธิภาพการขนส่งของลินฟ้อกซ์ในประเทศไทยได้เต็มศักยภาพ

บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน และบริษัท ลินฟ้อกซ์ ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือ โดยกู๊ดเยียร์จะให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นนำระดับโลก และระบบการบริหารจัดการยางแก่ลินฟ้อกซ์ เพื่อรองรับรถขนส่งสินค้าที่ให้บริการในศูนย์ขนส่งสินค้า 2 แห่งในย่านปริมณฑล ได้แก่ ลำลูกกาและบางบัวทอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ลินฟ้อกซ์มีรถบรรทุกและรถพ่วงให้บริการในคลังสินค้าสองแห่งรวมกันราว 300 คัน

“บริษัทมีความยินดีที่ได้รับเลือกให้ดำเนินระบบการบริหารจัดการยางสำหรับลินฟ้อกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำทางด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจรในเอเชียแปซิฟิก ภารกิจนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ให้สามารถขยายความร่วมมือครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ พร้อมนำผลิตภัณฑ์และบริการมาตรฐานระดับโลกมาสู่ประเทศไทย บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ช่วยสนับสนุนให้พันธมิตรเพิ่มความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างปลอดภัยไร้กังวล ด้วยผลิตภัณฑ์และระบบการบริหารจัดการยางที่เหนือระดับของเรา” นายไมเคิล ดรายเออร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ดูแลสายงานรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกู๊ดเยียร์ กล่าว

“ความสัมพันธ์ระหว่าง ลินฟ้อกซ์ และ กู๊ดเยียร์ ดำเนินมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2511 เมื่อสองบริษัทร่วมมือกันในการจัดส่งยางให้กับอู่ซ่อมรถและกิจการค้าปลีกต่างๆ ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย” นายเกรก โทมัส ซีอีโอของลินฟ้อกซ์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป กล่าว

“เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่ความร่วมมือนี้ยังคงแข็งแกร่ง รวมไปถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบความปลอดภัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยฐานการดำเนินงานที่มีอยู่ในประเทศไทย ทำให้ลินฟ้อกซ์ยินดีที่จะขยายความร่วมมือกับกู๊ดเยียร์ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

ตามข้อตกลงร่วมมือครั้งนี้ กู๊ดเยียร์จะจัดหายางพรีเมียมรุ่น S200+ และ G667+ Max เพื่อรองรับรถหัวลากของลินฟ้อกซ์ พร้อมบริการดอกยางด้วยหน้ายางรุ่น LHT-R สำหรับรถพ่วงของลินฟ้อกซ์ทุกคัน

ยิ่งไปกว่านั้น กู๊ดเยียร์ยังนำเอาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Tire Optix” ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของกู๊ดเยียร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจเลือกใช้โดยลูกค้าชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก มาบริหารจัดการข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นความลึกดอกยางหรือแรงดัน ลมยาง ด้วยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และแอนดรอยด์โดยระบบสามารถติดตามประวัติและตำแหน่งของยางแต่ละเส้น ไม่ว่าจะเป็นยางใหม่หรือยางหล่อได้ด้วยการสแกนหมายเลขซีเรียลของยาง และติดตามข้อมูลยางได้ตลอดวงจรอายุการใช้งาน อีกทั้งยังสามารถรายงานสภาพการสึกหรอของยาง ประวัติการเข้ารับบริการตามตำแหน่งของล้อของรถหัวลากและรถพ่วงแต่ละคันได้ตามต้องการ

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!