ในงานแสดงรถยนต์กรุงปักกิ่ง บริษัทรถยนต์ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ นิสสัน (Nissan) เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อตลาดจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน
นิสสัน ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Sylphy Zero Mission สามารถวิ่งได้ถึง 338 กิโลเมตร จากการชาร์จไฟ 1 ครั้ง โดย Sylphy พัฒนามาจาก Nissan Leaf ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของนิสสัน
ขณะที่ โฟล์คสวาเกน เปิดตัว E20X รถเอนกประสงค์เอสยูวีคันแรกที่ใช้ชื่อยี่ห้อใหม่ คือ SOL ที่หวังจะเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ซึ่ง E20X คันนี้สามารถวิ่งได้ 300 กม.จากการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทเจเนรัล มอเตอร์ส (General Motors) และ ฟอร์ด (Ford) ของสหรัฐฯ ได้เปิดตัวรถไฟฟ้าหลายรุ่นในงานนี้ด้วย
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์แบบใช้พลังงานผสมผสานหรือ ไฮบริด ในประเทศจีน เพิ่มขึ้น 154% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 143,000 คัน แต่นักวิเคราะห์คาดว่าภายในปี ค.ศ. 2025 รถยนต์ราว 35 – 50% ที่ขายในจีนจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม งานแสดงรถยนต์กรุงปักกิ่ง Auto China 2018 ถือเป็นงานแสดงรถยนต์งานใหญ่ที่สุดในโลกในปีนี้ ถูกกลบด้วยกระแสความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ที่จีนส่งไปขายในสหรัฐฯ ด้วย
แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลกระทบที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนไม่น่าจะมากนัก เนื่องจากจีนส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ เพียงไม่กี่พันคันต่อปีเท่านั้น ซึ่งรวมถึงรถยนต์แบบเอสยูวีของ GM และ Volvo ที่ผลิตในประเทศจีน
ในงานแสดงรถยนต์กรุงปักกิ่ง บริษัทรถยนต์ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ นิสสัน (Nissan) เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อตลาดจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน
นิสสัน ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Sylphy Zero Mission สามารถวิ่งได้ถึง 338 กิโลเมตร จากการชาร์จไฟ 1 ครั้ง โดย Sylphy พัฒนามาจาก Nissan Leaf ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของนิสสัน
ขณะที่ โฟล์คสวาเกน เปิดตัว E20X รถเอนกประสงค์เอสยูวีคันแรกที่ใช้ชื่อยี่ห้อใหม่ คือ SOL ที่หวังจะเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ซึ่ง E20X คันนี้สามารถวิ่งได้ 300 กม.จากการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทเจเนรัล มอเตอร์ส (General Motors) และ ฟอร์ด (Ford) ของสหรัฐฯ ได้เปิดตัวรถไฟฟ้าหลายรุ่นในงานนี้ด้วย
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์แบบใช้พลังงานผสมผสานหรือ ไฮบริด ในประเทศจีน เพิ่มขึ้น 154% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 143,000 คัน แต่นักวิเคราะห์คาดว่าภายในปี ค.ศ. 2025 รถยนต์ราว 35 – 50% ที่ขายในจีนจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม งานแสดงรถยนต์กรุงปักกิ่ง Auto China 2018 ถือเป็นงานแสดงรถยนต์งานใหญ่ที่สุดในโลกในปีนี้ ถูกกลบด้วยกระแสความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ที่จีนส่งไปขายในสหรัฐฯ ด้วย
แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลกระทบที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนไม่น่าจะมากนัก เนื่องจากจีนส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ เพียงไม่กี่พันคันต่อปีเท่านั้น ซึ่งรวมถึงรถยนต์แบบเอสยูวีของ GM และ Volvo ที่ผลิตในประเทศจีน
