พามอเตอร์ไซค์ไปต่างถิ่น ไม่ต้องขับ แค่ส่งกับไปรษณีย์ไทย


หากคุณเป็นผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์คนหนึ่ง ที่กำลังจะต้องย้ายถิ่นฐานไปใช้ชีวิตไกลบ้าน แต่คุณอาจจะไม่สะดวกขี่รถมอเตอร์ไซค์ของคุณไปด้วยตัวเอง คุณจะทำอย่างไร ให้เจ้ารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของคุณยังคงไปรับใช้คุณที่ปลายทางได้ โดยคุณไม่ต้องขี่มันไปด้วยตัวเอง ทางออกสำหรับเรื่องนี้มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเอาขึ้นหลังรถกระบะ หรือ การพามอเตอร์ไซค์ขึ้นรถไฟ แต่นั่นแปลว่าคุณก็ต้องเดินทางไปพร้อมๆ กับมันด้วย

วันนี้เรามีอีกหนึ่งทางออกสำหรับการพารถมอเตอร์ไซค์ไปต่างถิ่น โดยที่คุณไม่ต้องขี่ไปเอง และไม่ต้องเดินทางไปพร้อมๆ กับรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วย และวิธีที่ว่านั้นคือการส่งรถมอเตอร์ไซค์ทาง “ไปรษณีย์” ไปดูกันเลยว่ารายละเอียดของการส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านทางการใช้บริการไปรษณีย์ไทยนั้นมีอะไรบ้าง

ไปรษณีย์ไทยนั้นมีบริการที่เรียกว่า “Logispost” ซึ่งเป็นบริการที่ทำมาเพื่อส่งของชิ้นใหญ่ๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ โดยสามารถส่งของที่มีน้ำหนักได้มากถึง 200 กก. ซึ่งการฝากส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านทางไปรษณีย์ไทยจะต้องใช้บริการนี้เท่านั้น แต่ว่าไม่ใช่ทุกสาขาของไปรษณีย์ไทยที่จะให้บริการ Logispost คุณสามารถโทรไปติดต่อสอบถามสาขาที่ให้บริการนี้ได้ ผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ 1545 สายด่วนไปรษณีย์ไทย ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการฝากส่ง

ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมเอกสาร – สำเนาบัตรประชาชนผู้ที่มาดำเนินการ จำนวน 2 ชุด, – สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ชุด, – สำเบาบัตรประชาชนเจ้าของทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ชุด (ใช้ในกรณีที่ชื่อผู้ดำเนินการ ไม่ตรงกับชื่อในเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์) หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถพาเจ้ารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ต้องการส่ง ไปยังที่ทำการไปรษณีย์สาขาที่มีบริการ Logispost ได้เลย

ขั้นตอนที่ 2 : กรอกเอกสาร เมื่อไปถึงที่ทำการไปรษณีย์ ให้คุณไปแจ้งความประสงค์การส่งรถมอเตอร์ไซค์ของคุณแก่พนักงานที่สาขา จากนั้นจะได้รับ “ใบรับฝากบริการ” มาให้กรอกชื่อ ที่อยู่ ของผู้ส่งและผู้รับ โดยการกรอกข้อมูลในใบนี้จะไม่ต่างจากการส่งพัสดุทางไปรษณีย์ทั่วไปสักเท่าไร เพียงแค่ต้องกรอกให้ถูกต้อง และครบถ้วนเท่านั้นเอง

ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจสภาพรถ หลังจากคุณกรอกเอกสารใบรับฝากบริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอน “การตรวจสภาพรถก่อนการจัดส่ง” โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบร่องรอยขีดข่วน แตกหัก ที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถตรวจสอบที่ปลายทางได้ว่ามีจุดใดของรถมอเตอร์ไซค์ชำรุดเพิ่มเติมหรือไม่

หลังจากที่ตรวจสภาพรถเสร็จแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ของคุณจะถูกไขกระจกข้างออกเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ในการจัดส่ง น้ำมันในถังของรถมอเตอร์ไซค์จะถูกดูดออกหากมีปริมาณมากเกินไป เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการจัดส่ง

เมื่อทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น ก็จะถึงขั้นตอนการแพ็คของ โดยเจ้าหน้าที่จะให้คุณเลือกว่าจะห่อหุ้มรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วยกระดาษและพลาสติกกันกระแทกหรือไม่ หากคุณต้องการปกป้องรถจากรอยขีดข่วนด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ ก็ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนนี้เพิ่ม จำนวน 160 บาท

แต่อย่างไรก็ตาม กรณีเกิดความเสียหายในการขนส่ง ทางไปรษณีย์ไทยจะรับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท

ขั้นตอนที่ 4 : ชำระค่าบริการ ค่าบริการขนส่งรถจักรยานยนต์ผ่านทางบริการ Logispost จะมีอัตราค่าบริการดังนี้ – รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องไม่เกิน 150 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 1,200 บาท ไปจนถึง 2,640 บาท, – รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องเกิน 150 ซีซี. แต่ไม่ถึง 400 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 1,500 บาท ไปจนถึง 3,300 บาท, – รถจักรยานยนต์ BigBike หรือ Chopper ทุกขนาด (ซีซี.) และรถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์เกิน 400 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 3,300 บาท ไปจนถึง 5,460 บาท

อัตราค่าบริการจะเพิ่มขึ้นตามระยะทางของ ต้นทาง – ปลายทาง ที่จัดส่งรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 โซน เป็นจังหวัดต่างๆ ดังนี้ – โซน 1 : กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ, – โซน 2 : สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด, – โซน 3 : นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์, – โซน 4 : อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครนายก, – โซน 5 : อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์, – โซน 6 : แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน น่าน ลำปาง แพร่, – โซน 7 : กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา, – โซน 8 : หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู ขอนแก่น, – โซน 9 : ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช, – โซน 10 : กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี สตูล ยะลา นราธิวาส

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น หากคุณต้องการส่ง All New Honda Wave110i ซึ่งอยู่ในหมวดอัตราค่าบริการสำหรับสินค้าสำเร็จรูป ประเภทรถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 150 ซีซี. โดยขนส่งจากจังหวัดนนทบุรี (โซน 1) ไปยังจังหวัดเชียงราย (โซน 6) คุณจะต้องเสียค่าบริการ 1,680 บาท แต่ถ้าหากคุณต้องการส่งจากจังหวัดนนทบุรี (โซน 1) ไปยังจังหวัดตาก (โซน 5) คุณต้องเสียค่าบริการ 1,200 บาท เนื่องจากระยะทางในการจัดส่งใกล้ขึ้น ราคาจึงถูกลง

ขั้นตอนที่ 5 : รอรับรถมอเตอร์ไซค์

คุณจะได้รับรหัสสำหรับตรวจสอบสถานะการจัดส่ง หรือที่เรียกกันว่า “Tracking Number” เป็นเลข 13 หลัก โดยสามารถนำรหัสนี้ไปตรวจสอบได้ที่ http://track.thailandpost.co.th โดยการส่งของผ่านบริการ Logispost จะใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง 5 – 7 วัน เมื่อมอเตอร์ไซค์ถูกส่งถึงปลายทางแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาเพื่อให้คุณไปรับของ ซึ่งมอเตอร์ไซค์จะไม่ถูกส่งไปถึงหน้าบ้านเหมือนพัสดุอื่นๆ นะครับ คุณจะต้องไปรับรถมอเตอร์ไซค์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่คุณระบุไว้

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำรถมอเตอร์ไซค์ไปใช้ในพื้นที่ไกลบ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องขี่ไปด้วยตัวเองแล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการขี่มอเตอร์ไซค์ออกต่างจังหวัดด้วยตัวเอง การมีมอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องที่เหมาะสมแก่การวิ่งทางไกลก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน อาทิเช่น รถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่น All New Forza, CB300R และ CBR300R ก็ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะแก่การวิ่งทางไกล เพราะมีขนาดเครื่องถึง 300 ซีซี. ทำให้คุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยมาก เมื่อต้องขับขี่ในระยะทางไกล อัตราเร่งดี ระบบโช้ก รวมถึงช่วงล่างต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาให้รองรับสภาพถนนที่หลากหลายมากกว่ามอเตอร์ไซค์หลายๆ รุ่น

หากคุณเป็นผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์คนหนึ่ง ที่กำลังจะต้องย้ายถิ่นฐานไปใช้ชีวิตไกลบ้าน แต่คุณอาจจะไม่สะดวกขี่รถมอเตอร์ไซค์ของคุณไปด้วยตัวเอง คุณจะทำอย่างไร ให้เจ้ารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของคุณยังคงไปรับใช้คุณที่ปลายทางได้ โดยคุณไม่ต้องขี่มันไปด้วยตัวเอง ทางออกสำหรับเรื่องนี้มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเอาขึ้นหลังรถกระบะ หรือ การพามอเตอร์ไซค์ขึ้นรถไฟ แต่นั่นแปลว่าคุณก็ต้องเดินทางไปพร้อมๆ กับมันด้วย

วันนี้เรามีอีกหนึ่งทางออกสำหรับการพารถมอเตอร์ไซค์ไปต่างถิ่น โดยที่คุณไม่ต้องขี่ไปเอง และไม่ต้องเดินทางไปพร้อมๆ กับรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วย และวิธีที่ว่านั้นคือการส่งรถมอเตอร์ไซค์ทาง “ไปรษณีย์” ไปดูกันเลยว่ารายละเอียดของการส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านทางการใช้บริการไปรษณีย์ไทยนั้นมีอะไรบ้าง

ไปรษณีย์ไทยนั้นมีบริการที่เรียกว่า “Logispost” ซึ่งเป็นบริการที่ทำมาเพื่อส่งของชิ้นใหญ่ๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ โดยสามารถส่งของที่มีน้ำหนักได้มากถึง 200 กก. ซึ่งการฝากส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านทางไปรษณีย์ไทยจะต้องใช้บริการนี้เท่านั้น แต่ว่าไม่ใช่ทุกสาขาของไปรษณีย์ไทยที่จะให้บริการ Logispost คุณสามารถโทรไปติดต่อสอบถามสาขาที่ให้บริการนี้ได้ ผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ 1545 สายด่วนไปรษณีย์ไทย ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการฝากส่ง

ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมเอกสาร – สำเนาบัตรประชาชนผู้ที่มาดำเนินการ จำนวน 2 ชุด, – สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ชุด, – สำเบาบัตรประชาชนเจ้าของทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 ชุด (ใช้ในกรณีที่ชื่อผู้ดำเนินการ ไม่ตรงกับชื่อในเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์) หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถพาเจ้ารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ต้องการส่ง ไปยังที่ทำการไปรษณีย์สาขาที่มีบริการ Logispost ได้เลย

ขั้นตอนที่ 2 : กรอกเอกสาร เมื่อไปถึงที่ทำการไปรษณีย์ ให้คุณไปแจ้งความประสงค์การส่งรถมอเตอร์ไซค์ของคุณแก่พนักงานที่สาขา จากนั้นจะได้รับ “ใบรับฝากบริการ” มาให้กรอกชื่อ ที่อยู่ ของผู้ส่งและผู้รับ โดยการกรอกข้อมูลในใบนี้จะไม่ต่างจากการส่งพัสดุทางไปรษณีย์ทั่วไปสักเท่าไร เพียงแค่ต้องกรอกให้ถูกต้อง และครบถ้วนเท่านั้นเอง

ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจสภาพรถ หลังจากคุณกรอกเอกสารใบรับฝากบริการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอน “การตรวจสภาพรถก่อนการจัดส่ง” โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบร่องรอยขีดข่วน แตกหัก ที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถตรวจสอบที่ปลายทางได้ว่ามีจุดใดของรถมอเตอร์ไซค์ชำรุดเพิ่มเติมหรือไม่

หลังจากที่ตรวจสภาพรถเสร็จแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ของคุณจะถูกไขกระจกข้างออกเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ในการจัดส่ง น้ำมันในถังของรถมอเตอร์ไซค์จะถูกดูดออกหากมีปริมาณมากเกินไป เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการจัดส่ง

เมื่อทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น ก็จะถึงขั้นตอนการแพ็คของ โดยเจ้าหน้าที่จะให้คุณเลือกว่าจะห่อหุ้มรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วยกระดาษและพลาสติกกันกระแทกหรือไม่ หากคุณต้องการปกป้องรถจากรอยขีดข่วนด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ ก็ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนนี้เพิ่ม จำนวน 160 บาท

แต่อย่างไรก็ตาม กรณีเกิดความเสียหายในการขนส่ง ทางไปรษณีย์ไทยจะรับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท

ขั้นตอนที่ 4 : ชำระค่าบริการ ค่าบริการขนส่งรถจักรยานยนต์ผ่านทางบริการ Logispost จะมีอัตราค่าบริการดังนี้ – รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องไม่เกิน 150 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 1,200 บาท ไปจนถึง 2,640 บาท, – รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องเกิน 150 ซีซี. แต่ไม่ถึง 400 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 1,500 บาท ไปจนถึง 3,300 บาท, – รถจักรยานยนต์ BigBike หรือ Chopper ทุกขนาด (ซีซี.) และรถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์เกิน 400 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 3,300 บาท ไปจนถึง 5,460 บาท

อัตราค่าบริการจะเพิ่มขึ้นตามระยะทางของ ต้นทาง – ปลายทาง ที่จัดส่งรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 โซน เป็นจังหวัดต่างๆ ดังนี้ – โซน 1 : กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ, – โซน 2 : สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด, – โซน 3 : นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์, – โซน 4 : อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครนายก, – โซน 5 : อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์, – โซน 6 : แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน น่าน ลำปาง แพร่, – โซน 7 : กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา, – โซน 8 : หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู ขอนแก่น, – โซน 9 : ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช, – โซน 10 : กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี สตูล ยะลา นราธิวาส

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น หากคุณต้องการส่ง All New Honda Wave110i ซึ่งอยู่ในหมวดอัตราค่าบริการสำหรับสินค้าสำเร็จรูป ประเภทรถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 150 ซีซี. โดยขนส่งจากจังหวัดนนทบุรี (โซน 1) ไปยังจังหวัดเชียงราย (โซน 6) คุณจะต้องเสียค่าบริการ 1,680 บาท แต่ถ้าหากคุณต้องการส่งจากจังหวัดนนทบุรี (โซน 1) ไปยังจังหวัดตาก (โซน 5) คุณต้องเสียค่าบริการ 1,200 บาท เนื่องจากระยะทางในการจัดส่งใกล้ขึ้น ราคาจึงถูกลง

ขั้นตอนที่ 5 : รอรับรถมอเตอร์ไซค์

คุณจะได้รับรหัสสำหรับตรวจสอบสถานะการจัดส่ง หรือที่เรียกกันว่า “Tracking Number” เป็นเลข 13 หลัก โดยสามารถนำรหัสนี้ไปตรวจสอบได้ที่ http://track.thailandpost.co.th โดยการส่งของผ่านบริการ Logispost จะใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง 5 – 7 วัน เมื่อมอเตอร์ไซค์ถูกส่งถึงปลายทางแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาเพื่อให้คุณไปรับของ ซึ่งมอเตอร์ไซค์จะไม่ถูกส่งไปถึงหน้าบ้านเหมือนพัสดุอื่นๆ นะครับ คุณจะต้องไปรับรถมอเตอร์ไซค์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่คุณระบุไว้

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำรถมอเตอร์ไซค์ไปใช้ในพื้นที่ไกลบ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องขี่ไปด้วยตัวเองแล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการขี่มอเตอร์ไซค์ออกต่างจังหวัดด้วยตัวเอง การมีมอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องที่เหมาะสมแก่การวิ่งทางไกลก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน อาทิเช่น รถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่น All New Forza, CB300R และ CBR300R ก็ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะแก่การวิ่งทางไกล เพราะมีขนาดเครื่องถึง 300 ซีซี. ทำให้คุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยมาก เมื่อต้องขับขี่ในระยะทางไกล อัตราเร่งดี ระบบโช้ก รวมถึงช่วงล่างต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาให้รองรับสภาพถนนที่หลากหลายมากกว่ามอเตอร์ไซค์หลายๆ รุ่น

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!