มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สร้างสถิติยอดจำหน่ายทั่วโลกครบ 200,000 คัน


มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศความสำเร็จของ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดที่เริ่มออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2556 ด้วยยอดจำหน่ายทั่วโลกครบ 200,000 คัน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เป็นยนตรกรรมชั้นนำของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ซึ่งความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าทั่วโลกที่มีต่อรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องทำการพลิกโฉมเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่

หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้ออกจำหน่ายในอีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก จนสามารถครองอันดับหนึ่งรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในโลก เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2561*1 พร้อมกันนี้ยังครองอันดับหนึ่งรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในยุโรปต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี (ปี 2558 – 2561) *1 ซึ่งพิสูจน์แล้วถึงความโดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรม วิศวกรรม และเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี

รางวัลเกียรติยศด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและความอเนกประสงค์

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ติดตั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของตัวรถ จึงไม่ต้องใช้ระบบส่งกำลัง ซึ่งส่งผลให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวล

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้รับรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั่วโลกในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา อาทิ “ยานยนต์ปลั๊กอินยอดเยี่ยมแห่งปี 2562” โดยนิตยสารคอมพานีคาร์แอนด์แวน สหราชอาณาจักร รางวัล “ยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยมแห่งปี 2562” โดยวารสารกรีนคาร์เจอร์นอล สหรัฐอเมริกา รางวัล “ยานยนต์แห่งปีของประเทศญี่ปุ่นประจำปี 2561-2562 สาขานวัตกรรมยอดเยี่ยม” และรางวัล “เทคโนโลยียนตรกรรมยอดเยี่ยมประจำปี 2557” จากการลงมติในที่ประชุมของสมาคมนักวิจัยและสื่อมวลชนสายยานยนต์ ประเทศญี่ปุ่น หรือ RJC

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รุ่นปี 2019*2 มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำลงในระดับ 40 กรัมต่อกิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และในระดับ 46 กรัมต่อกิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) และมีอัตราความประหยัดน้ำมันที่ 1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และที่อัตรา 2.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) โดยมีอัตราการปล่อยค่าไอเสียเป็นศูนย์ในระยะทาง 54 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และ 45 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รุ่นปี 2019 ได้รับการพัฒนาด้านระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี รวมทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิง รวมทั้งแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และสามารถจ่ายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังที่มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และโหมดการขับขี่ใหม่ ที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้นทั้งแบบสปอร์ตและแบบขับขี่บนหิมะ

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี ผลิตภัณฑ์ของ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ

มิราจ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศความสำเร็จของ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดที่เริ่มออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2556 ด้วยยอดจำหน่ายทั่วโลกครบ 200,000 คัน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เป็นยนตรกรรมชั้นนำของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ซึ่งความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าทั่วโลกที่มีต่อรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องทำการพลิกโฉมเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่

หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้ออกจำหน่ายในอีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก จนสามารถครองอันดับหนึ่งรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในโลก เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2561*1 พร้อมกันนี้ยังครองอันดับหนึ่งรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในยุโรปต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี (ปี 2558 – 2561) *1 ซึ่งพิสูจน์แล้วถึงความโดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรม วิศวกรรม และเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี

รางวัลเกียรติยศด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและความอเนกประสงค์

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ติดตั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของตัวรถ จึงไม่ต้องใช้ระบบส่งกำลัง ซึ่งส่งผลให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวล

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้รับรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั่วโลกในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา อาทิ "ยานยนต์ปลั๊กอินยอดเยี่ยมแห่งปี 2562" โดยนิตยสารคอมพานีคาร์แอนด์แวน สหราชอาณาจักร รางวัล "ยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยมแห่งปี 2562" โดยวารสารกรีนคาร์เจอร์นอล สหรัฐอเมริกา รางวัล "ยานยนต์แห่งปีของประเทศญี่ปุ่นประจำปี 2561-2562 สาขานวัตกรรมยอดเยี่ยม" และรางวัล "เทคโนโลยียนตรกรรมยอดเยี่ยมประจำปี 2557" จากการลงมติในที่ประชุมของสมาคมนักวิจัยและสื่อมวลชนสายยานยนต์ ประเทศญี่ปุ่น หรือ RJC

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รุ่นปี 2019*2 มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำลงในระดับ 40 กรัมต่อกิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และในระดับ 46 กรัมต่อกิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) และมีอัตราความประหยัดน้ำมันที่ 1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และที่อัตรา 2.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) โดยมีอัตราการปล่อยค่าไอเสียเป็นศูนย์ในระยะทาง 54 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และ 45 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)

พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รุ่นปี 2019 ได้รับการพัฒนาด้านระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี รวมทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิง รวมทั้งแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และสามารถจ่ายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังที่มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และโหมดการขับขี่ใหม่ ที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้นทั้งแบบสปอร์ตและแบบขับขี่บนหิมะ

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี ผลิตภัณฑ์ของ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ

มิราจ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!