กรุงเทพฯ 7 มิถุนายน 2562 – Alex Marquez กลายเป็นผู้รักษาชัยชนะสองครั้งติดต่อกัน ในรายการแข่งขันชิงแชมป์ Moto2 ประจำฤดูกาล 2019 ด้วยสไตล์การขับขี่สุดโดดเด่นในการแข่งขันรายการ Moto2 สนาม Mugello ประเทศอิตาลี ถือเป็นครั้งแรกที่นักแข่งชาวสเปนผู้นี้ ได้รับชัยชนะหลังการพ่ายแพ้ไปในรอบห้าปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ชนะรางวัลชิงแชมป์โลกรายการ Moto3 เมื่อปี 2014 แต่นั่นเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด และเป็นอีกครั้งที่เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ 765 ซีซี ทำลายสถิต ในสนามแข่งขันรายการ Moto2
มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “การที่นักแข่งทำความเร็วได้มากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นสิ่งที่ไทรอัมพ์ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์แบบสามสูบ 765 ซีซี นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้เห็นนักแข่งหลายคนทำความเร็วได้สูงกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในการแข่งขันที่สนาม Mugello แห่งนี้ ถือเป็นการแข่งขันสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก และเป็นอีกสนามหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ที่ใช้ในการแข่งขัน Moto2 ที่ยังคงทำสถิติความเร็วใหม่ ๆ และจะคาดว่าจะทำลายสถิติต่อไปเรื่อย ๆ เกือบทุกสุดสัปดาห์ของการแข่งขันต่อจากนี้”
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจของการแข่งขันรายการ Moto2 สนาม Mugello ประเทศอิตาลี ได้แก่ Nicolo Bulega จากทีม Sky Racing Team VR46 ที่สามารถขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ สามสูบ 765 ซีซี แสดงให้เห็นความเร็วที่มากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อสูบ และยังเป็นความเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในขณะที่การแข่งขันในรอบคัดเลือก เมื่ออุณหภูมิในสนามเพิ่มขึ้นเป็น 45 องศาเซลเซียส ก็ถึงเวลาของ Marcel Schrotter ที่จะเฉิดฉาย เนื่องจากนักแข่งรายนี้จากทีม Dynavolt Intact GP ได้สร้างสถิติสูงสุดของตนเอง ด้วยการโค่นสถิติรอบก่อนหน้าไปเกือบหนึ่งวินาที อีกทั้งนักแข่งผู้นำทั้งหกคนในรอบคัดเลือก สามารถทำความเร็วได้มากกว่าสถิติเดิมที่เคยสร้างไว้ในปี 2015
ทั้งนี้ในรอบการแข่งขันจริง Alex Marquez ได้ทำสถิติใหม่พร้อมคว้าชัยชนะได้อย่างสวยงาม ส่งผลให้เขาขึ้นเป็นอันดับที่สองในศึกชิงแชมป์ดังกล่าว ด้วยคะแนนตามหลัง Lorenzo Baldassarri เพียงสองแต้ม ซึ่ง Lorenzo นักแข่งจากทีม Flexbox HP40 อยู่ในลำดับที่ 15 ในรอบคัดเลือกและรั้งท้ายในการแข่งขัน แต่การเริ่มต้นอย่างร้อนแรงในรอบแข่งขันจริง ทำให้ไต่อันดับขึ้นมาได้ห้าลำดับในรอบเปิดสนาม และทำความเร็วอย่างต่อเนื่อง และขับเคี่ยวกับผู้นำจนทำให้เขาเกือบได้ชัยชนะในช่วงสามรอบสุดท้าย หลังจากการแข่งขันทั้งหกสนามที่ผ่านมา ผู้นำสามอันดับแรกมีคะแนนห่างกันเพียงแค่สี่คะแนนเท่านั้น และเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ที่ใช้ในการแข่งขัน Moto2 สามารถทำความเร็วได้สูงสุด และถือเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
ทั้งนี้เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี พัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) โดยสามารถแสดงให้เห็นถึงพละกำลังมากกว่า 140 แรงม้า รวมทั้งเสียงของเครื่องยนต์อันทรงพลังได้อย่างน่าทึ่ง โดยการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์รายการ Moto2 ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน จะเป็นการแข่งขันรายการคาตาลุนญ่า กรังด์ปรีซ์ (Grand Prix of Catalunya) ซึ่งจะเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ของการแข่งขัน และไทรอัมพ์จะเป็นผู้สนับสนุนรถในการแข่งขัน Moto2 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในวันที่ 16 มิถุนายนที่กำลังจะถึงนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร้ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
กรุงเทพฯ 7 มิถุนายน 2562 – Alex Marquez กลายเป็นผู้รักษาชัยชนะสองครั้งติดต่อกัน ในรายการแข่งขันชิงแชมป์ Moto2 ประจำฤดูกาล 2019 ด้วยสไตล์การขับขี่สุดโดดเด่นในการแข่งขันรายการ Moto2 สนาม Mugello ประเทศอิตาลี ถือเป็นครั้งแรกที่นักแข่งชาวสเปนผู้นี้ ได้รับชัยชนะหลังการพ่ายแพ้ไปในรอบห้าปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ชนะรางวัลชิงแชมป์โลกรายการ Moto3 เมื่อปี 2014 แต่นั่นเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด และเป็นอีกครั้งที่เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ 765 ซีซี ทำลายสถิต ในสนามแข่งขันรายการ Moto2
มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “การที่นักแข่งทำความเร็วได้มากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นสิ่งที่ไทรอัมพ์ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์แบบสามสูบ 765 ซีซี นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้เห็นนักแข่งหลายคนทำความเร็วได้สูงกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในการแข่งขันที่สนาม Mugello แห่งนี้ ถือเป็นการแข่งขันสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก และเป็นอีกสนามหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ที่ใช้ในการแข่งขัน Moto2 ที่ยังคงทำสถิติความเร็วใหม่ ๆ และจะคาดว่าจะทำลายสถิติต่อไปเรื่อย ๆ เกือบทุกสุดสัปดาห์ของการแข่งขันต่อจากนี้”
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจของการแข่งขันรายการ Moto2 สนาม Mugello ประเทศอิตาลี ได้แก่ Nicolo Bulega จากทีม Sky Racing Team VR46 ที่สามารถขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ สามสูบ 765 ซีซี แสดงให้เห็นความเร็วที่มากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อสูบ และยังเป็นความเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในขณะที่การแข่งขันในรอบคัดเลือก เมื่ออุณหภูมิในสนามเพิ่มขึ้นเป็น 45 องศาเซลเซียส ก็ถึงเวลาของ Marcel Schrotter ที่จะเฉิดฉาย เนื่องจากนักแข่งรายนี้จากทีม Dynavolt Intact GP ได้สร้างสถิติสูงสุดของตนเอง ด้วยการโค่นสถิติรอบก่อนหน้าไปเกือบหนึ่งวินาที อีกทั้งนักแข่งผู้นำทั้งหกคนในรอบคัดเลือก สามารถทำความเร็วได้มากกว่าสถิติเดิมที่เคยสร้างไว้ในปี 2015
ทั้งนี้ในรอบการแข่งขันจริง Alex Marquez ได้ทำสถิติใหม่พร้อมคว้าชัยชนะได้อย่างสวยงาม ส่งผลให้เขาขึ้นเป็นอันดับที่สองในศึกชิงแชมป์ดังกล่าว ด้วยคะแนนตามหลัง Lorenzo Baldassarri เพียงสองแต้ม ซึ่ง Lorenzo นักแข่งจากทีม Flexbox HP40 อยู่ในลำดับที่ 15 ในรอบคัดเลือกและรั้งท้ายในการแข่งขัน แต่การเริ่มต้นอย่างร้อนแรงในรอบแข่งขันจริง ทำให้ไต่อันดับขึ้นมาได้ห้าลำดับในรอบเปิดสนาม และทำความเร็วอย่างต่อเนื่อง และขับเคี่ยวกับผู้นำจนทำให้เขาเกือบได้ชัยชนะในช่วงสามรอบสุดท้าย หลังจากการแข่งขันทั้งหกสนามที่ผ่านมา ผู้นำสามอันดับแรกมีคะแนนห่างกันเพียงแค่สี่คะแนนเท่านั้น และเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ที่ใช้ในการแข่งขัน Moto2 สามารถทำความเร็วได้สูงสุด และถือเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
ทั้งนี้เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี พัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) โดยสามารถแสดงให้เห็นถึงพละกำลังมากกว่า 140 แรงม้า รวมทั้งเสียงของเครื่องยนต์อันทรงพลังได้อย่างน่าทึ่ง โดยการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์รายการ Moto2 ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน จะเป็นการแข่งขันรายการคาตาลุนญ่า กรังด์ปรีซ์ (Grand Prix of Catalunya) ซึ่งจะเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ของการแข่งขัน และไทรอัมพ์จะเป็นผู้สนับสนุนรถในการแข่งขัน Moto2 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในวันที่ 16 มิถุนายนที่กำลังจะถึงนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร้ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
