สศอ. เผย MPI เดือนธันวาคมและไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ขยายตัว ส่งสัญญาณเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น


สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือนธันวาคมปี 2559 ขยายตัว 0.5% ทำให้ MPI ไตรมาส 4/2559 เพิ่มขึ้น 1.5% และภาพรวมทั้งปีขยายตัวขึ้นจากปีก่อน 0.5% โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และอาหารทะเลกระป๋องแช่แข็ง

นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน 2559 มีการขยายตัว 0.5% ทำให้ MPI ไตรมาส 4/2559 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.5% และภาพรวมทั้งปีขยายตัวขึ้นจากปีก่อน 0.5% เช่นเดียวกันกับการส่งออกประจำเดือนธันวาคมที่มีการขยายตัวถึง 3.5% โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวกประจำเดือนธันวาคม ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และอาหารทะเลกระป๋องแช่แข็ง

สินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีการขยายตัว ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น% 24.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่ปีก่อนราคาเหล็กตกต่ำ ผู้ผลิตในประเทศสู้ราคาสินค้านำเข้าไม่ได้จึงมีการผลิตที่น้อยกว่า เช่นเดียวกับเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม และเหล็กแผ่นรีดร้อน อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการใช้ยังคงมีอยู่น้อย ถ้าเทียบกับในช่วงภาวะปกติ

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำพวก Other IC, Monolithic IC และ Transistors ที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มของเทคโนโลยียานยนต์และอุปกรณ์ที่ปรับมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ

ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุจากปริมาณสต็อกยางพาราในการผลิตยางแผ่น และผลิตภัณฑ์ยางแท่ง ของตลาดจีนปรับลดลง จึงมีคำสั่งซื้อจากประเทศไทย

เครื่องประดับ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะเครื่องประดับจำพวกกำไล จากส่งออกที่มีแนวโน้มพื้นตัวต่อเนื่อง
อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นและการเร่งผลิตในฤดูกาลนี้ โดยมีปลาแช่แข็ง เป็นสินค้าหลักที่ขยายตัว รองลงมาเป็นปลาหมึกแช่แข็ง

อุตสาหกรรมสำคัญที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 4/2559 ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 17.48% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก ส่งผลให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 13.07% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยขยายขึ้นตามความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และเป็นไปตามกระแสการพัฒนาสินค้าบริโภคที่ใช้อิเล็กทรอนิกส์ และจากกระแสเทคโนโลยียานยนต์ที่หันมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 8.85% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันแก๊ซโซฮอล 95 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุจากราคาขายปลีกน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 2-3 บาท/ลิตร ตามราคาตลาดโลก จึงส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม

เครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่นๆ (เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน) ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 7.70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากการที่ผู้ผลิตมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับกับความต้องการสินค้าในตลาด CLMV ที่มีอัตราการเติบโตสูง

สินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ลดลง 15.98% และ 9.97% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้บริโภคมีการเร่งซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น ก่อนราคาขายจะปรับขึ้นตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ในเดือนมกราคม 2559 โดยปีนี้ตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวลงมากจากกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่มีโมเดลใหม่ในตลาด

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือนธันวาคมปี 2559 ขยายตัว 0.5% ทำให้ MPI ไตรมาส 4/2559 เพิ่มขึ้น 1.5% และภาพรวมทั้งปีขยายตัวขึ้นจากปีก่อน 0.5% โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และอาหารทะเลกระป๋องแช่แข็ง

นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน 2559 มีการขยายตัว 0.5% ทำให้ MPI ไตรมาส 4/2559 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.5% และภาพรวมทั้งปีขยายตัวขึ้นจากปีก่อน 0.5% เช่นเดียวกันกับการส่งออกประจำเดือนธันวาคมที่มีการขยายตัวถึง 3.5% โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวกประจำเดือนธันวาคม ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และอาหารทะเลกระป๋องแช่แข็ง

สินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีการขยายตัว ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น% 24.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่ปีก่อนราคาเหล็กตกต่ำ ผู้ผลิตในประเทศสู้ราคาสินค้านำเข้าไม่ได้จึงมีการผลิตที่น้อยกว่า เช่นเดียวกับเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม และเหล็กแผ่นรีดร้อน อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการใช้ยังคงมีอยู่น้อย ถ้าเทียบกับในช่วงภาวะปกติ

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำพวก Other IC, Monolithic IC และ Transistors ที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มของเทคโนโลยียานยนต์และอุปกรณ์ที่ปรับมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ

ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุจากปริมาณสต็อกยางพาราในการผลิตยางแผ่น และผลิตภัณฑ์ยางแท่ง ของตลาดจีนปรับลดลง จึงมีคำสั่งซื้อจากประเทศไทย

เครื่องประดับ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะเครื่องประดับจำพวกกำไล จากส่งออกที่มีแนวโน้มพื้นตัวต่อเนื่อง อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นและการเร่งผลิตในฤดูกาลนี้ โดยมีปลาแช่แข็ง เป็นสินค้าหลักที่ขยายตัว รองลงมาเป็นปลาหมึกแช่แข็ง

อุตสาหกรรมสำคัญที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 4/2559 ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 17.48% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก ส่งผลให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 13.07% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยขยายขึ้นตามความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และเป็นไปตามกระแสการพัฒนาสินค้าบริโภคที่ใช้อิเล็กทรอนิกส์ และจากกระแสเทคโนโลยียานยนต์ที่หันมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 8.85% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันแก๊ซโซฮอล 95 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุจากราคาขายปลีกน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 2-3 บาท/ลิตร ตามราคาตลาดโลก จึงส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม

เครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่นๆ (เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน) ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 7.70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากการที่ผู้ผลิตมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับกับความต้องการสินค้าในตลาด CLMV ที่มีอัตราการเติบโตสูง

สินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ การผลิตเดือนธันวาคม 2559 ลดลง 15.98% และ 9.97% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้บริโภคมีการเร่งซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น ก่อนราคาขายจะปรับขึ้นตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ในเดือนมกราคม 2559 โดยปีนี้ตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวลงมากจากกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่มีโมเดลใหม่ในตลาด

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!