กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า พบกำลังพลติดเชื้อ “โควิด-19” บนเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ “ยูเอสเอส ธีโอดอร์โรสเวลต์” กังวลว่าอาจจะเกิดการแพร่ระบาดสู่ลูกเรืออีกกว่า 6,500 ชีวิตบนเรือลำดังกล่าว ขณะนี้จอดเทียบท่าอยู่ที่เกาะกวม กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
นายเบรตต์ โครเซียร์ ผูับัญชาการเรือธีโอดอร์โรสเวลต์ ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า “พวกเราไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม ลูกเรือไม่ควรต้องตายโดยไม่จำเป็น” ทั้งนี้ กัปตันแนะนำให้กระทรวงกลาโหมสั่งกักตัวลูกเรือทั้งหมดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด แต่เนื่องจากพื้นที่อันจำกัดบนเรือทำให้ไม่สามารถแยกผู้ป่วยออกเป็นรายบุคคลได้
“การถอนกำลังทหารส่วนใหญ่ออกจากเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ของสหรัฐ และแยกตัวบุคคลเหล่านั้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นมาตรการพิเศษที่มีความเสี่ยง แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” นายโครเซียร์ระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้ป่วยบนเรือธีโอดอร์โรสเวลต์ทั้งสิ้นมีจำนวนเท่าใด แต่รายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า มีผู้ป่วยราว 70 ราย ขณะที่รายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นซานฟรานซิสโกโครนิเคิลระบุว่า มีผู้ป่วยอย่างน้อย 100 ราย
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือสหรัฐเปิดเผยว่า “จะมีการส่งความช่วยเหลือไปยังเรือลำดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของลูกเรือธีโอดอร์โรสเวลต์”
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อของสหรัฐในปัจจุบันสูงกว่า 210,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4,700 ราย โดยนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในประเทศ
บนเรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นพื้นที่ปิด มีพื้นที่จำกัด จึงยากต่อการจัดการ คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบน เรือสำราญ ไดมอนด์ ปรินเซส ที่มีผู้ติดเชื้อบนเรือเป็นจำนวนมาก
กัปตัน Brett Crozier จึงได้ขอร้องให้มีการนำลูกเรือขึ้นบก
เพื่อกักตัวผู้ที่ติดเชื้อ ตรวจหาเชื้อในลูกเรือที่เหลือ และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบนเรือ
อย่างไรก็ตาม J.C. Aquilino ผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิกได้กล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำการเคลื่อนย้ายกำลังพลได้รวดเร็วอย่างที่กัปตัน Brett Crozier ต้องการ และไม่มีลูกเรือคนไหนที่อยู่ในอาการรุนแรง หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
ทั้งนี้เรือ USS Theodore Roosevelt ต้องลาดตระเวนอยู่ที่ มหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้
แต่ตอนนี้กลับจอดอยู่ที่เกาะกวมอย่างไม่มีกำหนด เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทุกวัน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นหลังจากการแวะเทียบท่าที่เวียดนามเมื่อต้นเดือนมีนาคม
ซึ่งหลังจากมีการติดเชื้อก็ได้มีการกักตัวลูกเรือที่ติดเชื้อบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากบนเรือมีพื้นที่จำกัด
ที่น่าสนใจคือ กัปตัน Brett Crozier บอกว่า หาก USS Theodore Roosevelt ต้องออกปฏิบัติการทางทหารขึ้นมา เขาก็พร้อมจะสั่งการให้ลูกเรือทุกนายกลับมาพร้อมรบอีกครั้งเพื่อกำจัดภัยคุกคามของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
USS Theodore Roosevelt ได้เดินทางมาถึงเวียตนามเมื่อเดือนมีนาคมซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ลำที่สองที่มาเยือนเวียตนามตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 70 หลังจากกรุงไซง่อนแตกเมื่อปี ค.ศ. 1975 โดยเข้าเทียบท่าที่เมืองดานัง
เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยุคแรกๆ ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา USS THEODORE ROOSEVELT (CVN 71) ที่ยังคงเข้าประจำการและได้เข้าร่วมปฏิบัติการทางยุทธศาสตร์หลายสมรภูมิรบ สมญานาม Big Stick
เรือบรรทุกเครื่องบินระดับชั้นนิมิตซ์ลำนี้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Theodore Roosvelt สร้างขึ้นที่ Newport News Shipbuilding มีความยาวตัวเรือเท่ากับ 333 เมตร ความกว้าง 78 เมตร และความสูง 74 เมตรหรือเท่ากับตึก 24 ชั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 1984
กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า พบกำลังพลติดเชื้อ “โควิด-19” บนเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ “ยูเอสเอส ธีโอดอร์โรสเวลต์” กังวลว่าอาจจะเกิดการแพร่ระบาดสู่ลูกเรืออีกกว่า 6,500 ชีวิตบนเรือลำดังกล่าว ขณะนี้จอดเทียบท่าอยู่ที่เกาะกวม กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
นายเบรตต์ โครเซียร์ ผูับัญชาการเรือธีโอดอร์โรสเวลต์ ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า “พวกเราไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม ลูกเรือไม่ควรต้องตายโดยไม่จำเป็น” ทั้งนี้ กัปตันแนะนำให้กระทรวงกลาโหมสั่งกักตัวลูกเรือทั้งหมดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด แต่เนื่องจากพื้นที่อันจำกัดบนเรือทำให้ไม่สามารถแยกผู้ป่วยออกเป็นรายบุคคลได้
“การถอนกำลังทหารส่วนใหญ่ออกจากเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ของสหรัฐ และแยกตัวบุคคลเหล่านั้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นมาตรการพิเศษที่มีความเสี่ยง แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” นายโครเซียร์ระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีผู้ป่วยบนเรือธีโอดอร์โรสเวลต์ทั้งสิ้นมีจำนวนเท่าใด แต่รายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า มีผู้ป่วยราว 70 ราย ขณะที่รายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นซานฟรานซิสโกโครนิเคิลระบุว่า มีผู้ป่วยอย่างน้อย 100 ราย
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือสหรัฐเปิดเผยว่า “จะมีการส่งความช่วยเหลือไปยังเรือลำดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของลูกเรือธีโอดอร์โรสเวลต์”
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อของสหรัฐในปัจจุบันสูงกว่า 210,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4,700 ราย โดยนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในประเทศ
บนเรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นพื้นที่ปิด มีพื้นที่จำกัด จึงยากต่อการจัดการ คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบน เรือสำราญ ไดมอนด์ ปรินเซส ที่มีผู้ติดเชื้อบนเรือเป็นจำนวนมาก
กัปตัน Brett Crozier จึงได้ขอร้องให้มีการนำลูกเรือขึ้นบก เพื่อกักตัวผู้ที่ติดเชื้อ ตรวจหาเชื้อในลูกเรือที่เหลือ และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบนเรือ
อย่างไรก็ตาม J.C. Aquilino ผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิกได้กล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำการเคลื่อนย้ายกำลังพลได้รวดเร็วอย่างที่กัปตัน Brett Crozier ต้องการ และไม่มีลูกเรือคนไหนที่อยู่ในอาการรุนแรง หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
ทั้งนี้เรือ USS Theodore Roosevelt ต้องลาดตระเวนอยู่ที่ มหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ แต่ตอนนี้กลับจอดอยู่ที่เกาะกวมอย่างไม่มีกำหนด เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทุกวัน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นหลังจากการแวะเทียบท่าที่เวียดนามเมื่อต้นเดือนมีนาคม ซึ่งหลังจากมีการติดเชื้อก็ได้มีการกักตัวลูกเรือที่ติดเชื้อบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากบนเรือมีพื้นที่จำกัด
ที่น่าสนใจคือ กัปตัน Brett Crozier บอกว่า หาก USS Theodore Roosevelt ต้องออกปฏิบัติการทางทหารขึ้นมา เขาก็พร้อมจะสั่งการให้ลูกเรือทุกนายกลับมาพร้อมรบอีกครั้งเพื่อกำจัดภัยคุกคามของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
USS Theodore Roosevelt ได้เดินทางมาถึงเวียตนามเมื่อเดือนมีนาคมซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ลำที่สองที่มาเยือนเวียตนามตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 70 หลังจากกรุงไซง่อนแตกเมื่อปี ค.ศ. 1975 โดยเข้าเทียบท่าที่เมืองดานัง
เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยุคแรกๆ ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา USS THEODORE ROOSEVELT (CVN 71) ที่ยังคงเข้าประจำการและได้เข้าร่วมปฏิบัติการทางยุทธศาสตร์หลายสมรภูมิรบ สมญานาม Big Stick
เรือบรรทุกเครื่องบินระดับชั้นนิมิตซ์ลำนี้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Theodore Roosvelt สร้างขึ้นที่ Newport News Shipbuilding มีความยาวตัวเรือเท่ากับ 333 เมตร ความกว้าง 78 เมตร และความสูง 74 เมตรหรือเท่ากับตึก 24 ชั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 1984
