เตรียมพร้อมยกระดับเกมการสร้างสรรค์ของคุณด้วย DJI Mavic Air 2 ใหม่ ออกแบบประสบการณ์งานสร้างสรรค์ภาพทางอากาศขึ้นใหม่ด้วย Mavic Air 2


DJI ผู้นำระดับโลกในด้านโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศ เปิดโลกยุคใหม่ของงานสร้างสรรค์ภาพทางอากาศ ด้วยโดรน Mavic Air 2 ซึ่งให้คุณสมบัติการถ่ายภาพระดับสูง สมรรถนะการบินที่ควบคุมง่าย พร้อมเทคโนโลยีฉลาดล้ำยุคที่ปลอดภัย รวมอยู่ในโดรนที่มีความสามารถรอบด้านที่สุดที่เราเคยสร้างมา

Mavic Air 2 ถูกสร้างขึ้นเพื่อการผลิตคอนเทนท์คุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์จากทางอากาศ ใช้ง่าย สนุก และปลอดภัย นำเสนอขีดความสามารถที่เหนือชั้นในขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย พร้อมคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K เซ็นเซอร์กล้องขนาดใหญ่ 1/2 นิ้ว ให้ภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูงเพื่อการสร้างเนื้อหาที่โดดเด่น ในขณะที่มีโหมดการบินที่ตั้งโปรแกรมได้แบบขั้นสูง พร้อมคุณสมบัติอัจฉริยะและเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพคอนเทนท์ระดับมืออาชีพเป็นเรื่องที่ง่ายดาย นักบินโดรนจะสามารถบินอยู่บนท้องฟ้าได้นานขึ้นด้วยเวลาบินสูงสุดที่เพิ่มขึ้น เก็บภาพที่สดใสด้วยความสามารถของระบบอัตโนมัติที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด และแปลงคอนเทนท์ทั้งหมดด้วยคุณสมบัติการแก้ไขภายในแอป

“Mavic Air 2 เป็นก้าวย่างสำคัญอีกก้าวหนึ่งของเรา เพราะมันแสดงให้เห็นว่าโดรน

DJI สำหรับผู้บริโภคที่ฉลาดล้ำที่สุดในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ ในขณะที่ Mavic Air 2 เป็นสัญลักษณ์ของโดรนในตระกูล Mavic เราต้องคิดกระบวนการออกแบบและการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เป้าหมายของเราคือการสร้างโดรนที่ให้ประสบการณ์โดยรวมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้แต่สำหรับนักบินมือใหม่ที่สุด เราหวังว่าโดรนของเราจะสามารถช่วยเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ และกลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนาน ที่สามารถเพลิดเพลินได้แม้แต่ในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เช่นนี้” Roger Luo ประธานบริษัท DJI กล่าว

ความสามารถในการถ่ายภาพที่แข็งแกร่งสำหรับนักสร้างสรรค์ทุกประเภท

Mavic Air 2 รุ่นใหม่ ได้คิดค้นวิธีที่จะบันทึกคอนเทนท์คุณภาพสูงเอาไว้ด้วยโดรนขนาดพกพาที่พับได้ ไม่ว่านักบินจะมีระดับความสามารถมากน้อยเพียงใด คุณสมบัติและเทคโนโลยีของ Mavic Air 2 จะดึงดูดสายตาผู้มีวิสัยทัศน์ของการสร้างสรรค์ทุกคน Mavic Air 2 เป็นโดรนรุ่นแรกในซีรี่ส์ Mavic ที่ให้ภาพวิดีโอ 4K ที่ 60 fps และ 120 Mbps นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถบันทึกเนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร ด้วยวิดีโอ HDR, 4X Slow Motion ที่ความละเอียด 1080p 120 fps หรือ 8X Slow Motion ที่ความละเอียด 1080p 240 fps นักบินสามารถบันทึกภาพ 12 เมกะพิกเซล หรือเลือกคุณสมบัติความละเอียดสูง 48 เมกะพิกเซลใหม่ ที่ถ่ายภาพด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ในขณะที่ มีกิมบอลแบบ 3 แกน ช่วยป้องกันการสั่นไหวของกล้อง เพื่อสร้างภาพที่นิ่งและเสถียร แม้ในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ เซ็นเซอร์แบบ Quad Bayer 1/2 นิ้ว ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ Mavic Air 2 เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยนำพาความคิดสร้างสรรค์ไปสู่อีกระดับ ด้วยโหมดการถ่ายภาพ Smart Photo ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ จะบันทึกภาพถ่ายความละเอียด 12 เมกะพิกเซล โดยใช้ระบบการวิเคราะห์ฉากขั้นสูงและดีพเลิร์นนิ่ง เพื่อเลือกวิธีการถ่ายภาพหนึ่งในสามทางเลือก

ภาพถ่าย HDR: Mavic Air 2 จะถ่ายภาพที่ค่ารับแสงแตกต่างกัน 7 ค่า แล้วนำมารวมเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพไดนามิกสูงHyperlight: ได้รับการออกแบบมาสำหรับสถานการณ์ที่มีแสงน้อย โดยจะถ่ายภาพหลายภาพและผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนที่ขจัดสัญญาณรบกวนซึ่งมักพบในฉากที่มีแสงน้อยการจำแนกภาพ: เมื่อถ่ายภาพในโหมดนี้ Mavic Air 2 สามารถจำแนกฉากได้ 5 หมวดหมู่ ได้แก่ พระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าสีฟ้า หญ้า หิมะ และต้นไม้ ปรับการตั้งค่าให้เหมาะสม เพื่อให้ภาพถ่ายมีความโดดเด่นด้วยสีสัน รายละเอียด และโทนสีขั้นสูงสุด

สมรรถนะการบินที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้

Mavic Air 2 พัฒนาวิธีการบินของโดรนขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน เพื่อทำให้ทุกคนที่มีใจรักเทคโนโลยีโดรนสามารถสำรวจท้องฟ้าได้อย่างเต็มที่ แม้ว่า Mavic Air 2 จะมีน้ำหนักเบาเพียง 570 กรัม เท่ากับขวดน้ำขนาดเล็ก แต่ประกอบด้วยมอเตอร์รุ่นใหม่ ระบบควบคุมความเร็วอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ใหม่ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อมอบเวลาบินสูงสุดถึง 34 นาที เทคโนโลยีการส่งสัญญาณ OcuSync 2.0 ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ DJI ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อส่งมอบฟีดสัญญาณวิดีโอคุณภาพ HD ที่เชื่อถือได้และมีเสถียรภาพจากโดรน ในระยะทางสูงสุด 10 กม. OcuSync 2.0 รองรับทั้งช่วงคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5.8GHz และมีคุณสมบัติการสลับช่วงคลื่นความถี่โดยอัตโนมัติโดยขึ้นอยู่กับความแรงของสัญญาณ ในขณะที่เทคโนโลยีป้องกันสัญญาณรบกวนจะปิดกั้นสัญญาณที่ไม่ต้องการ เพื่อให้ฟีดสัญญาณวิดีโอที่ชัดเจน

การสร้างมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยของโดรน

Mavic Air 2 มาพร้อมกับคุณสมบัติความปลอดภัยใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อช่วยทำให้การบินมีความปลอดภัยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางที่ด้านหน้าและด้านหลังของโดรนจะเตือนนักบินเมื่อโดรนบินไปใกล้วัตถุมากเกินไป และยังสามารถตั้งค่าให้หยุดยั้งโดรนไม่ให้เข้าไปใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการชน เซ็นเซอร์เพิ่มเติม และไฟเสริมที่ด้านล่างของ Mavic Air 2 เสริมด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย รวมถึงการลงจอดอัตโนมัติที่ราบรื่นแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย Mavic Air 2 ยังมาพร้อมกับ GEO โซลูชั่นรั้วเสมือน (geofencing) ของเรา เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้โดรนบินเข้าไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในสนามบินที่พลุกพล่าน

Advanced Pilot Assistance System (APAS) 3.0 ได้นำระบบการบินอัตโนมัติของโดรนของ DJI ก้าวขึ้นไปอีกระดับ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งาน APAS 3.0 ทันทีที่มีสิ่งกีดขวางเข้ามาในเส้นทางของ Mavic Air 2 มันจะสร้างเส้นทางใหม่เพื่อเคลื่อนที่หลบหลีกใต้วัตถุหรือเหนือวัตถุเพื่อหลีกเลี่ยงการชน ทำให้นักบินสามารถทำการบินในสถานการณ์ที่ซับซ้อนด้วยความมั่นใจมากขึ้น ขณะที่มีสมาธิกับการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ ระบบสร้างแผนที่ 3D ที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้การเคลื่อนผ่านวัตถุราบรื่นและการเคลื่อนไหวลื่นไหลมากขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนสูง

สืบเนื่องจากวิสัยทัศน์การยกระดับความปลอดภัย 10 ประการ ที่ได้รับการยอมรับระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมของ DJI ซึ่งเผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว Mavic Air 2 จึงเป็นโดรนสำหรับใช้งานส่วนตัวรุ่นแรกของ DJI ที่ออกแบบมาให้รวมเทคโนโลยี AirSense ซึ่งให้ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นโดยการเตือนนักบินโดรนเมื่อมีอากาศยานลำอื่นอยู่ในระยะใกล้ AirSense ใช้เทคโนโลยีการบินที่เรียกว่า ADS-B เพื่อรับสัญญาณจากเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และแสดงตำแหน่งของพวกมันบนหน้าจอควบคุมของนักบินโดรน ทันทีที่อากาศยานลำอื่นบินเข้าใกล้โดรน ระบบ AirSense จะเตือนนักบินโดรนด้วยข้อความ เสียงและการสั่น เพื่อยกระดับความรับรู้และความสามารถของนักบินในการบังคับโดรนออกห่างเพื่อความปลอดภัย

“DJI มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะเพิ่มความปลอดภัยของโดรนโดยใช้เทคโนโลยี และ Mavic Air 2 ได้บุกเบิกอีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่เพื่อโซลูชั่นความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติการโดรน ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการติดตั้งระบบ ADS-B ในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเรานั้นหมายความว่า Mavic Air 2 จะเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้งานเทคโนโลยีตัวรับสัญญาณ ADS-B เดี่ยวๆ ในตัวที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งช่วยเติมเต็มและขยายวิสัยทัศน์ของเรา ในฐานะของผู้นำอุตสาหกรรม ที่มีความมุ่งมั่นและสมัครใจในการสร้างเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย” เบรนแดน ชูลมาน รองประธานฝ่ายนโยบายและกฎหมายของ DJI กล่าว

คุณสมบัติอัจฉริยะที่ทรงพลัง

Mavic Air 2 อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพและวิดีโอเพื่อนำไปแบ่งปันทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย FocusTrack เป็นคุณสมบัติการติดตามขั้นสูงสุดในโดรนของ DJI และนำเสนอโหมดถ่ายภาพสามโหมด:

ActiveTrack 3.0: เลือกวัตถุที่จะให้ Mavic Air 2 ติดตามโดยอัตโนมัติ ActiveTrack ที่พัฒนาต่อเนื่องเป็นรอบที่สาม ใช้เทคโนโลยีการสร้างแผนที่ที่ล้ำสมัย และอัลกอริธึมหาเส้นทางการบินใหม่ เพื่อนำเสนอคุณสมบัติการติดตามวัตถุและการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมด้วยความสามารถที่จะกลับมาติดตามวัตถุต่ออย่างรวดเร็ว หากมีการติดตามวัตถุไม่ทันชั่วขณะหนึ่งPoint of Interest 3.0: กำหนดเส้นทางการบินอัตโนมัติรอบ ๆ วัตถุที่กำหนด การปรับปรุงรอบใหม่ให้ความสามารถการจดจำพื้นผิวที่ดีขึ้น เพื่อติดตามวัตถุในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้นSpotlight 2.0: Spotlight เป็นคุณสมบัติที่มีให้ในโดรนของ DJI รุ่นมืออาชีพ ซึ่งจะล็อควัตถุเป้าหมายให้อยู่ในเฟรม ในขณะที่ผู้ใช้มีอิสระในการบังคับการเคลื่อนไหวของโดรน

ฟีเจอร์ Hyperlapse ให้ภาพแบบไทม์แลปส์ที่น่าสนใจ ในขณะที่เพิ่มองค์ประกอบการเคลื่อนไหวทางกายภาพของโดรนเข้าไป เป็นครั้งแรกที่ Hyperlapse สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K

ในขณะที่นักบินสามารถเลือกโหมดการบินได้สี่โหมด รวมถึงการเคลื่อนที่แบบอิสระ วงกลม CourseLock และ WayPoints และนักบินยังสามารถเลือกระบบควบคุมการบินที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหลายโปรแกรม ซึ่งมีชื่อเรียกว่า QuickShots ซึ่งจะใช้กิมบอลเชิงกล 3 แกน และระบบป้องกันภาพสั่นไหวอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้คุณภาพของวิดีโอที่ไม่มีใครเทียบได้ เพียงแค่กดเลือกโหมดที่ต้องการ แล้ว Mavic Air 2 ก็จะช่วยคุณถ่ายภาพคอนเทนท์ที่น่าทึ่งแบบภาพยนตร์ได้โดยอัตโนมัติ นักบินสามารถเลือกโปรแกรม Rocket, Circle, Dronie, Helix, Boomerang หรือ Asteroid

พร้อมแอปที่ใช้งานง่าย การแก้ไขสื่อที่สะดวกสบาย และอุปกรณ์เสริมมากมาย

แอป DJI Fly เวอร์ชั่นล่าสุดยังเพิ่มฟังก์ชันการทำงานขั้นสูงสำหรับ Mavic Air 2 ในขณะที่ยังคงรักษาคุณสมบัติการเข้าถึงที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ระบบการสอนใช้งานใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับโดรน และบินขึ้นบนอากาศได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเริ่มจับภาพวิดีโอที่น่าสนใจ คุณสมบัติการแก้ไขในแอปที่ใช้งานง่าย ทำให้แอป DJI Fly เป็นเครื่องมือที่ครบวงจรในการแก้ไขและปรับแต่งภาพที่ถ่าย Mavic Air 2 ได้รับการสนับสนุนโดยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ รวมถึงกระเป๋าสะพาย, ชุดฟิลเตอร์ ND, ชุดป้องกันใบพัด, กระเป๋ากันกระแทก, แท่นวางแท็บเล็ตสำหรับรีโมทคอนโทรล และฮูดสำหรับจอมอนิเตอร์

ราคาและการวางจำหน่าย

Mavic Air 2 มีให้เลือกซื้อได้สองแบบ ได้แก่ ชุดมาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย Mavic Air 2 แบตเตอรี่หนึ่งก้อน รีโมทคอนโทรล และสายไฟและสายเชื่อมต่อที่จำเป็นทั้งหมด ในราคา 25,900 บาท และชุด Fly More Combo ซึ่งจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมจากชุดมาตรฐานคือ กระเป๋าสะพาย, ฟิลเตอร์ ND, ฮับชาร์จไฟ และแบตเตอรี่อีก 2ก้อน รวมเป็น 3 ก้อน ในราคา 34,900 บาท ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในไทยโดยตัวแทนจำหน่ายของ SYNNEX ทั่วประเทศ วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mavic Air 2 โปรดเยี่ยมชม: DJI.COM

เกี่ยวกับ DJI

DJI เป็นผู้นำด้านการพัฒนาและการผลิตโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศระดับโลกสำหรับการใช้งานส่วนตัวและในระดับมืออาชีพ DJI ก่อตั้งขึ้นและบริหารงานโดยบุคลากรที่มีความหลงใหลในเฮลิคอปเตอร์บังคับและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีควบคุมการบินและการรักษาเสถียรภาพของกล้อง บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างอุปกรณ์และแพลตฟอร์มการถ่ายภาพและการถ่ายทำภาพยนตร์ทางอากาศที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น น่าเชื่อถือ และใช้งานง่ายขึ้นสำหรับนักสร้างสรรค์ผลงานและนวัตกรทั่วโลก ปัจจุบัน DJI ดำเนินงานทั่วโลก ครอบคลุมทั่วทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ปฏิวัติวงการของบริษัทได้รับการคัดเลือกจากลูกค้าในกว่า 100 ประเทศสำหรับการใช้งานด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ การก่อสร้าง การตรวจสอบ การตอบสนองเหตุฉุกเฉิน การเกษตร การอนุรักษ์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNNEX เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท มากกว่า 60 ตราสินค้า มีฐานลูกค้าเป็นผู้ประกอบการไอที ร้านค้าปลีก ค้าส่งทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้วางระบบเครือข่าย ระบบปฏิบัติการ และอื่นๆ รวมกว่า 6,000 ราย มีศูนย์บริการของบริษัทฯ และ Synnex Service Partner รวมกว่า 60 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้านบริการทั้งก่อน และหลังการขาย ภายใต้ตราสัญลักษณ์การรับประกันTrusted by Synnex ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมโทร Synnex care 1251

www.synnex.co.th และ

facebook.com/synnexthailand

DJI ผู้นำระดับโลกในด้านโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศ เปิดโลกยุคใหม่ของงานสร้างสรรค์ภาพทางอากาศ ด้วยโดรน Mavic Air 2 ซึ่งให้คุณสมบัติการถ่ายภาพระดับสูง สมรรถนะการบินที่ควบคุมง่าย พร้อมเทคโนโลยีฉลาดล้ำยุคที่ปลอดภัย รวมอยู่ในโดรนที่มีความสามารถรอบด้านที่สุดที่เราเคยสร้างมา

Mavic Air 2 ถูกสร้างขึ้นเพื่อการผลิตคอนเทนท์คุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์จากทางอากาศ ใช้ง่าย สนุก และปลอดภัย นำเสนอขีดความสามารถที่เหนือชั้นในขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย พร้อมคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K เซ็นเซอร์กล้องขนาดใหญ่ 1/2 นิ้ว ให้ภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูงเพื่อการสร้างเนื้อหาที่โดดเด่น ในขณะที่มีโหมดการบินที่ตั้งโปรแกรมได้แบบขั้นสูง พร้อมคุณสมบัติอัจฉริยะและเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพคอนเทนท์ระดับมืออาชีพเป็นเรื่องที่ง่ายดาย นักบินโดรนจะสามารถบินอยู่บนท้องฟ้าได้นานขึ้นด้วยเวลาบินสูงสุดที่เพิ่มขึ้น เก็บภาพที่สดใสด้วยความสามารถของระบบอัตโนมัติที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด และแปลงคอนเทนท์ทั้งหมดด้วยคุณสมบัติการแก้ไขภายในแอป

“Mavic Air 2 เป็นก้าวย่างสำคัญอีกก้าวหนึ่งของเรา เพราะมันแสดงให้เห็นว่าโดรน

DJI สำหรับผู้บริโภคที่ฉลาดล้ำที่สุดในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ ในขณะที่ Mavic Air 2 เป็นสัญลักษณ์ของโดรนในตระกูล Mavic เราต้องคิดกระบวนการออกแบบและการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เป้าหมายของเราคือการสร้างโดรนที่ให้ประสบการณ์โดยรวมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้แต่สำหรับนักบินมือใหม่ที่สุด เราหวังว่าโดรนของเราจะสามารถช่วยเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ และกลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนาน ที่สามารถเพลิดเพลินได้แม้แต่ในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เช่นนี้” Roger Luo ประธานบริษัท DJI กล่าว

ความสามารถในการถ่ายภาพที่แข็งแกร่งสำหรับนักสร้างสรรค์ทุกประเภท

Mavic Air 2 รุ่นใหม่ ได้คิดค้นวิธีที่จะบันทึกคอนเทนท์คุณภาพสูงเอาไว้ด้วยโดรนขนาดพกพาที่พับได้ ไม่ว่านักบินจะมีระดับความสามารถมากน้อยเพียงใด คุณสมบัติและเทคโนโลยีของ Mavic Air 2 จะดึงดูดสายตาผู้มีวิสัยทัศน์ของการสร้างสรรค์ทุกคน Mavic Air 2 เป็นโดรนรุ่นแรกในซีรี่ส์ Mavic ที่ให้ภาพวิดีโอ 4K ที่ 60 fps และ 120 Mbps นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถบันทึกเนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร ด้วยวิดีโอ HDR, 4X Slow Motion ที่ความละเอียด 1080p 120 fps หรือ 8X Slow Motion ที่ความละเอียด 1080p 240 fps นักบินสามารถบันทึกภาพ 12 เมกะพิกเซล หรือเลือกคุณสมบัติความละเอียดสูง 48 เมกะพิกเซลใหม่ ที่ถ่ายภาพด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ในขณะที่ มีกิมบอลแบบ 3 แกน ช่วยป้องกันการสั่นไหวของกล้อง เพื่อสร้างภาพที่นิ่งและเสถียร แม้ในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ เซ็นเซอร์แบบ Quad Bayer 1/2 นิ้ว ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ Mavic Air 2 เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยนำพาความคิดสร้างสรรค์ไปสู่อีกระดับ ด้วยโหมดการถ่ายภาพ Smart Photo ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ จะบันทึกภาพถ่ายความละเอียด 12 เมกะพิกเซล โดยใช้ระบบการวิเคราะห์ฉากขั้นสูงและดีพเลิร์นนิ่ง เพื่อเลือกวิธีการถ่ายภาพหนึ่งในสามทางเลือก

ภาพถ่าย HDR: Mavic Air 2 จะถ่ายภาพที่ค่ารับแสงแตกต่างกัน 7 ค่า แล้วนำมารวมเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพไดนามิกสูงHyperlight: ได้รับการออกแบบมาสำหรับสถานการณ์ที่มีแสงน้อย โดยจะถ่ายภาพหลายภาพและผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนที่ขจัดสัญญาณรบกวนซึ่งมักพบในฉากที่มีแสงน้อยการจำแนกภาพ: เมื่อถ่ายภาพในโหมดนี้ Mavic Air 2 สามารถจำแนกฉากได้ 5 หมวดหมู่ ได้แก่ พระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าสีฟ้า หญ้า หิมะ และต้นไม้ ปรับการตั้งค่าให้เหมาะสม เพื่อให้ภาพถ่ายมีความโดดเด่นด้วยสีสัน รายละเอียด และโทนสีขั้นสูงสุด

สมรรถนะการบินที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้

Mavic Air 2 พัฒนาวิธีการบินของโดรนขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน เพื่อทำให้ทุกคนที่มีใจรักเทคโนโลยีโดรนสามารถสำรวจท้องฟ้าได้อย่างเต็มที่ แม้ว่า Mavic Air 2 จะมีน้ำหนักเบาเพียง 570 กรัม เท่ากับขวดน้ำขนาดเล็ก แต่ประกอบด้วยมอเตอร์รุ่นใหม่ ระบบควบคุมความเร็วอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ใหม่ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อมอบเวลาบินสูงสุดถึง 34 นาที เทคโนโลยีการส่งสัญญาณ OcuSync 2.0 ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ DJI ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อส่งมอบฟีดสัญญาณวิดีโอคุณภาพ HD ที่เชื่อถือได้และมีเสถียรภาพจากโดรน ในระยะทางสูงสุด 10 กม. OcuSync 2.0 รองรับทั้งช่วงคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5.8GHz และมีคุณสมบัติการสลับช่วงคลื่นความถี่โดยอัตโนมัติโดยขึ้นอยู่กับความแรงของสัญญาณ ในขณะที่เทคโนโลยีป้องกันสัญญาณรบกวนจะปิดกั้นสัญญาณที่ไม่ต้องการ เพื่อให้ฟีดสัญญาณวิดีโอที่ชัดเจน

การสร้างมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยของโดรน

Mavic Air 2 มาพร้อมกับคุณสมบัติความปลอดภัยใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อช่วยทำให้การบินมีความปลอดภัยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางที่ด้านหน้าและด้านหลังของโดรนจะเตือนนักบินเมื่อโดรนบินไปใกล้วัตถุมากเกินไป และยังสามารถตั้งค่าให้หยุดยั้งโดรนไม่ให้เข้าไปใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการชน เซ็นเซอร์เพิ่มเติม และไฟเสริมที่ด้านล่างของ Mavic Air 2 เสริมด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย รวมถึงการลงจอดอัตโนมัติที่ราบรื่นแม้ในสภาพแสงที่ท้าทาย Mavic Air 2 ยังมาพร้อมกับ GEO โซลูชั่นรั้วเสมือน (geofencing) ของเรา เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้โดรนบินเข้าไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในสนามบินที่พลุกพล่าน

Advanced Pilot Assistance System (APAS) 3.0 ได้นำระบบการบินอัตโนมัติของโดรนของ DJI ก้าวขึ้นไปอีกระดับ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งาน APAS 3.0 ทันทีที่มีสิ่งกีดขวางเข้ามาในเส้นทางของ Mavic Air 2 มันจะสร้างเส้นทางใหม่เพื่อเคลื่อนที่หลบหลีกใต้วัตถุหรือเหนือวัตถุเพื่อหลีกเลี่ยงการชน ทำให้นักบินสามารถทำการบินในสถานการณ์ที่ซับซ้อนด้วยความมั่นใจมากขึ้น ขณะที่มีสมาธิกับการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ ระบบสร้างแผนที่ 3D ที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้การเคลื่อนผ่านวัตถุราบรื่นและการเคลื่อนไหวลื่นไหลมากขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนสูง

สืบเนื่องจากวิสัยทัศน์การยกระดับความปลอดภัย 10 ประการ ที่ได้รับการยอมรับระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมของ DJI ซึ่งเผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว Mavic Air 2 จึงเป็นโดรนสำหรับใช้งานส่วนตัวรุ่นแรกของ DJI ที่ออกแบบมาให้รวมเทคโนโลยี AirSense ซึ่งให้ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นโดยการเตือนนักบินโดรนเมื่อมีอากาศยานลำอื่นอยู่ในระยะใกล้ AirSense ใช้เทคโนโลยีการบินที่เรียกว่า ADS-B เพื่อรับสัญญาณจากเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และแสดงตำแหน่งของพวกมันบนหน้าจอควบคุมของนักบินโดรน ทันทีที่อากาศยานลำอื่นบินเข้าใกล้โดรน ระบบ AirSense จะเตือนนักบินโดรนด้วยข้อความ เสียงและการสั่น เพื่อยกระดับความรับรู้และความสามารถของนักบินในการบังคับโดรนออกห่างเพื่อความปลอดภัย

“DJI มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะเพิ่มความปลอดภัยของโดรนโดยใช้เทคโนโลยี และ Mavic Air 2 ได้บุกเบิกอีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่เพื่อโซลูชั่นความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติการโดรน ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการติดตั้งระบบ ADS-B ในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเรานั้นหมายความว่า Mavic Air 2 จะเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้งานเทคโนโลยีตัวรับสัญญาณ ADS-B เดี่ยวๆ ในตัวที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งช่วยเติมเต็มและขยายวิสัยทัศน์ของเรา ในฐานะของผู้นำอุตสาหกรรม ที่มีความมุ่งมั่นและสมัครใจในการสร้างเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย” เบรนแดน ชูลมาน รองประธานฝ่ายนโยบายและกฎหมายของ DJI กล่าว

คุณสมบัติอัจฉริยะที่ทรงพลัง

Mavic Air 2 อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพและวิดีโอเพื่อนำไปแบ่งปันทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย FocusTrack เป็นคุณสมบัติการติดตามขั้นสูงสุดในโดรนของ DJI และนำเสนอโหมดถ่ายภาพสามโหมด:

ActiveTrack 3.0: เลือกวัตถุที่จะให้ Mavic Air 2 ติดตามโดยอัตโนมัติ ActiveTrack ที่พัฒนาต่อเนื่องเป็นรอบที่สาม ใช้เทคโนโลยีการสร้างแผนที่ที่ล้ำสมัย และอัลกอริธึมหาเส้นทางการบินใหม่ เพื่อนำเสนอคุณสมบัติการติดตามวัตถุและการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมด้วยความสามารถที่จะกลับมาติดตามวัตถุต่ออย่างรวดเร็ว หากมีการติดตามวัตถุไม่ทันชั่วขณะหนึ่งPoint of Interest 3.0: กำหนดเส้นทางการบินอัตโนมัติรอบ ๆ วัตถุที่กำหนด การปรับปรุงรอบใหม่ให้ความสามารถการจดจำพื้นผิวที่ดีขึ้น เพื่อติดตามวัตถุในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้นSpotlight 2.0: Spotlight เป็นคุณสมบัติที่มีให้ในโดรนของ DJI รุ่นมืออาชีพ ซึ่งจะล็อควัตถุเป้าหมายให้อยู่ในเฟรม ในขณะที่ผู้ใช้มีอิสระในการบังคับการเคลื่อนไหวของโดรน

ฟีเจอร์ Hyperlapse ให้ภาพแบบไทม์แลปส์ที่น่าสนใจ ในขณะที่เพิ่มองค์ประกอบการเคลื่อนไหวทางกายภาพของโดรนเข้าไป เป็นครั้งแรกที่ Hyperlapse สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K

ในขณะที่นักบินสามารถเลือกโหมดการบินได้สี่โหมด รวมถึงการเคลื่อนที่แบบอิสระ วงกลม CourseLock และ WayPoints และนักบินยังสามารถเลือกระบบควบคุมการบินที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหลายโปรแกรม ซึ่งมีชื่อเรียกว่า QuickShots ซึ่งจะใช้กิมบอลเชิงกล 3 แกน และระบบป้องกันภาพสั่นไหวอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้คุณภาพของวิดีโอที่ไม่มีใครเทียบได้ เพียงแค่กดเลือกโหมดที่ต้องการ แล้ว Mavic Air 2 ก็จะช่วยคุณถ่ายภาพคอนเทนท์ที่น่าทึ่งแบบภาพยนตร์ได้โดยอัตโนมัติ นักบินสามารถเลือกโปรแกรม Rocket, Circle, Dronie, Helix, Boomerang หรือ Asteroid

พร้อมแอปที่ใช้งานง่าย การแก้ไขสื่อที่สะดวกสบาย และอุปกรณ์เสริมมากมาย

แอป DJI Fly เวอร์ชั่นล่าสุดยังเพิ่มฟังก์ชันการทำงานขั้นสูงสำหรับ Mavic Air 2 ในขณะที่ยังคงรักษาคุณสมบัติการเข้าถึงที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ระบบการสอนใช้งานใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับโดรน และบินขึ้นบนอากาศได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเริ่มจับภาพวิดีโอที่น่าสนใจ คุณสมบัติการแก้ไขในแอปที่ใช้งานง่าย ทำให้แอป DJI Fly เป็นเครื่องมือที่ครบวงจรในการแก้ไขและปรับแต่งภาพที่ถ่าย Mavic Air 2 ได้รับการสนับสนุนโดยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ รวมถึงกระเป๋าสะพาย, ชุดฟิลเตอร์ ND, ชุดป้องกันใบพัด, กระเป๋ากันกระแทก, แท่นวางแท็บเล็ตสำหรับรีโมทคอนโทรล และฮูดสำหรับจอมอนิเตอร์

ราคาและการวางจำหน่าย

Mavic Air 2 มีให้เลือกซื้อได้สองแบบ ได้แก่ ชุดมาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วย Mavic Air 2 แบตเตอรี่หนึ่งก้อน รีโมทคอนโทรล และสายไฟและสายเชื่อมต่อที่จำเป็นทั้งหมด ในราคา 25,900 บาท และชุด Fly More Combo ซึ่งจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมจากชุดมาตรฐานคือ กระเป๋าสะพาย, ฟิลเตอร์ ND, ฮับชาร์จไฟ และแบตเตอรี่อีก 2ก้อน รวมเป็น 3 ก้อน ในราคา 34,900 บาท ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในไทยโดยตัวแทนจำหน่ายของ SYNNEX ทั่วประเทศ วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mavic Air 2 โปรดเยี่ยมชม: DJI.COM

เกี่ยวกับ DJI

DJI เป็นผู้นำด้านการพัฒนาและการผลิตโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศระดับโลกสำหรับการใช้งานส่วนตัวและในระดับมืออาชีพ DJI ก่อตั้งขึ้นและบริหารงานโดยบุคลากรที่มีความหลงใหลในเฮลิคอปเตอร์บังคับและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีควบคุมการบินและการรักษาเสถียรภาพของกล้อง บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างอุปกรณ์และแพลตฟอร์มการถ่ายภาพและการถ่ายทำภาพยนตร์ทางอากาศที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น น่าเชื่อถือ และใช้งานง่ายขึ้นสำหรับนักสร้างสรรค์ผลงานและนวัตกรทั่วโลก ปัจจุบัน DJI ดำเนินงานทั่วโลก ครอบคลุมทั่วทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ปฏิวัติวงการของบริษัทได้รับการคัดเลือกจากลูกค้าในกว่า 100 ประเทศสำหรับการใช้งานด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ การก่อสร้าง การตรวจสอบ การตอบสนองเหตุฉุกเฉิน การเกษตร การอนุรักษ์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNNEX เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท มากกว่า 60 ตราสินค้า มีฐานลูกค้าเป็นผู้ประกอบการไอที ร้านค้าปลีก ค้าส่งทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้วางระบบเครือข่าย ระบบปฏิบัติการ และอื่นๆ รวมกว่า 6,000 ราย มีศูนย์บริการของบริษัทฯ และ Synnex Service Partner รวมกว่า 60 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้านบริการทั้งก่อน และหลังการขาย ภายใต้ตราสัญลักษณ์การรับประกันTrusted by Synnex ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมโทร Synnex care 1251

www.synnex.co.th และ

facebook.com/synnexthailand

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!