เอ็มจี ส่ง NEW MG VS HEV สปอร์ตไฮบริดเอสยูวีรุ่นแรก สร้างประสบการณ์ใหม่ของไฮบริดที่ขับสนุกและเร้าใจ


กรุงเทพฯ – 8 สิงหาคม 2565 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว NEW MG VS HEV รถยนต์สปอร์ตไฮบริดเอสยูวี รุ่นแรกของเอ็มจี ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในตลาด B-SUV ด้วยแนวคิด “ABSOLUTE” เป็นตัวตนขั้นสุด หลุดจากทุกมิติเดิมๆ ของการขับขี่ด้วยยนตรกรรมไฮบริด โฉบเฉี่ยวด้วยภาษาดีไซน์สุดล้ำตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในห้องโดยสาร เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป พร้อมจำหน่ายและให้ทดลองขับแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่งทั่วประเทศ

NEW MG VS HEV สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “ABSOLUTE” เพื่อบ่งบอกถึง “ความสมบูรณ์แบบ” ไม่ว่าจะเป็น ด้านดีไซน์ ทั้งการออกแบบภายนอก ด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัย ไฟหน้าแบบ LED Projector ที่เปิด-ปิดได้อัตโนมัติที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่ เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) และไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว มี AERO WHEEL COVER ที่ช่วยลดแรงต้านลม ห้องโดยสารแนวใหม่แบบ Modern & Stylish และครั้งแรกของ ยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ที่มี Dual Widescreen Cockpit หน้าจอคู่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว 2 จอ ควบคุมการทำงานผ่าน ILLUMINATED TOUCH PANEL และคอนโซลกลางแบบ DOUBLE LAYER ด้านบนตกแต่งด้วยวัสดุ PIANO BLACK พวงมาลัยหุ้มหนังและคันเกียร์ตกแต่งลวดลาย LASER PATTERN ให้ความหรูหรา ด้านล่าง มีที่เก็บของ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับทั้ง TYPE C และ TYPE A

ด้านเทคโนโลยี NEW MG VS HEV มาพร้อมระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่พร้อมคันเกียร์แบบ Electric Shift สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport ระบบไฮบริดมาพร้อมด้วย KERS MODE ตั้งค่าได้ 3 ระดับ ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ จอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ความคมชัดระดับ HD ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลได้อย่างหลากหลาย และโหมด Navigation แสดงการนำทาง คู่กับหน้าจอแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART พร้อม Apple CarPlay และสามารถเล่นมัลติมีเดียในสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้ มอบความบันเทิง ตลอดการเดินทางด้วย Music application ของ JOOX

ด้านความสะดวกสบาย สปอร์ตไฮบริดเอสยูวีรุ่นนี้ ให้ความสำคัญกับทั้งคนขับและผู้โดยสารทุกตำแหน่งที่นั่ง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charger) อีกทั้งยังมีช่องแอร์ และช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะที่นั่งด้านหลัง ปรับพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

ด้านสมรรถนะและระบบความปลอดภัย NEW MG VS HEV อัปเกรดการขับขี่ให้เร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT มั่นใจทุกการเคลื่อนไหวด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) และ ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย

NEW MG VS HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น D และรุ่น X โดยรุ่น D จะมีสีภายในเป็น สีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับรุ่น X มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับสีทูโทนมีสีภายในเป็นแบบทูโทน สีขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีขาว (Arctic White)

มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเดินหน้าแผนพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตอบสนองต่อความต้องการ ของคนไทยทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์พลังงานทางเลือก นำมาซึ่งการยกระดับอุตสาหกรรม ยานยนต์ไทย ทั้งในมิติของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม วันนี้ เอ็มจี พร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดของเอ็มจี การมาของ NEW MG VS HEV จึงถือเป็นหนึ่งในหมัดเด็ดของเอ็มจีที่จะเข้ามาสร้าง “จุดเปลี่ยน” ให้กับยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ซึ่งเป็นตลาดที่เอ็มจีมองเห็นโอกาสและการเติบโต รวมถึงได้เพิ่มเติมประเภทเครื่องยนต์ และกลายเป็นแบรนด์ที่มอบทางเลือกให้กับลูกค้า มากที่สุดในประเทศไทย ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล เบนซิน ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% NEW MG VS HEV ยังโดดเด่นด้วยการเป็น Sporty & Stylish SUV ที่ถูกยกระดับทั้งงานดีไซน์ เทคโนโลยี และขุมพลังไฮบริดสู่การเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงจุด”

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถทดลองขับและสัมผัสการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจกับเทคโนโลยีไฮบริดของ NEW MG VS HEV ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเอ็มจีมีกำหนดทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าในปลายเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่

Website: www.mgcars.com

Line: @MGThailand

Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand

Twitter: @mg_thailand

Instagram: @mgthailand

Youtube: MG Thailand

TikTok: @mgthailand

Hashtag #NEWMGVSHEV #MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives

เกี่ยวกับเอ็มจี

เอ็มจี ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1924 โดยชื่อ MG นั้นย่อมาจาก Morris Garages เอ็มจีนับว่าเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันแบรนด์ เอ็มจี อยู่ภายใต้การดูแลของ เอสเอไอซี โดย เอ็มจี มีศูนย์กลางทางด้านการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานและการออกแบบด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมตามแบบฉบับยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจาก เอสเอไอซี ทั้งในเรื่องการจัดหาวัสดุจากทั่วโลก รวมถึงการจัดการด้านซัพพลายเชนเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถยนต์ ตลอดจนการจัดการด้านการควบคุมคุณภาพ รวมถึงบริการด้านอื่นๆ เอ็มจี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากรถยนต์ 2 ที่นั่งรุ่น MGB Roadster ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962 ในวันนี้ เอ็มจีผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก

เกี่ยวกับเอ็มจี ประเทศไทย

บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2013 เพื่อกำกับดูแลงานด้านการขาย การตลาด และบริการหลังการขายของแบรนด์รถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย และกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของ เอ็มจี ทั้งที่เป็นบริษัทร่วมทุน และที่เป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และเอสเอไอซี ทั้งนี้ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอสเอไอซี มอเตอร์) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ เอ็มจี และจำหน่ายภายในประเทศไทย รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี

กรุงเทพฯ – 8 สิงหาคม 2565 - บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว NEW MG VS HEV รถยนต์สปอร์ตไฮบริดเอสยูวี รุ่นแรกของเอ็มจี ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในตลาด B-SUV ด้วยแนวคิด “ABSOLUTE” เป็นตัวตนขั้นสุด หลุดจากทุกมิติเดิมๆ ของการขับขี่ด้วยยนตรกรรมไฮบริด โฉบเฉี่ยวด้วยภาษาดีไซน์สุดล้ำตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในห้องโดยสาร เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป พร้อมจำหน่ายและให้ทดลองขับแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่งทั่วประเทศ

NEW MG VS HEV สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “ABSOLUTE” เพื่อบ่งบอกถึง “ความสมบูรณ์แบบ” ไม่ว่าจะเป็น ด้านดีไซน์ ทั้งการออกแบบภายนอก ด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัย ไฟหน้าแบบ LED Projector ที่เปิด-ปิดได้อัตโนมัติที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่ เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) และไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว มี AERO WHEEL COVER ที่ช่วยลดแรงต้านลม ห้องโดยสารแนวใหม่แบบ Modern & Stylish และครั้งแรกของ ยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ที่มี Dual Widescreen Cockpit หน้าจอคู่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว 2 จอ ควบคุมการทำงานผ่าน ILLUMINATED TOUCH PANEL และคอนโซลกลางแบบ DOUBLE LAYER ด้านบนตกแต่งด้วยวัสดุ PIANO BLACK พวงมาลัยหุ้มหนังและคันเกียร์ตกแต่งลวดลาย LASER PATTERN ให้ความหรูหรา ด้านล่าง มีที่เก็บของ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับทั้ง TYPE C และ TYPE A

ด้านเทคโนโลยี NEW MG VS HEV มาพร้อมระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่พร้อมคันเกียร์แบบ Electric Shift สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport ระบบไฮบริดมาพร้อมด้วย KERS MODE ตั้งค่าได้ 3 ระดับ ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ จอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ความคมชัดระดับ HD ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลได้อย่างหลากหลาย และโหมด Navigation แสดงการนำทาง คู่กับหน้าจอแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART พร้อม Apple CarPlay และสามารถเล่นมัลติมีเดียในสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้ มอบความบันเทิง ตลอดการเดินทางด้วย Music application ของ JOOX

ด้านความสะดวกสบาย สปอร์ตไฮบริดเอสยูวีรุ่นนี้ ให้ความสำคัญกับทั้งคนขับและผู้โดยสารทุกตำแหน่งที่นั่ง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charger) อีกทั้งยังมีช่องแอร์ และช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะที่นั่งด้านหลัง ปรับพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

ด้านสมรรถนะและระบบความปลอดภัย NEW MG VS HEV อัปเกรดการขับขี่ให้เร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT มั่นใจทุกการเคลื่อนไหวด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) และ ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย

NEW MG VS HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น D และรุ่น X โดยรุ่น D จะมีสีภายในเป็น สีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับรุ่น X มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับสีทูโทนมีสีภายในเป็นแบบทูโทน สีขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีขาว (Arctic White)

มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเดินหน้าแผนพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตอบสนองต่อความต้องการ ของคนไทยทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์พลังงานทางเลือก นำมาซึ่งการยกระดับอุตสาหกรรม ยานยนต์ไทย ทั้งในมิติของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม วันนี้ เอ็มจี พร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดของเอ็มจี การมาของ NEW MG VS HEV จึงถือเป็นหนึ่งในหมัดเด็ดของเอ็มจีที่จะเข้ามาสร้าง “จุดเปลี่ยน” ให้กับยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ซึ่งเป็นตลาดที่เอ็มจีมองเห็นโอกาสและการเติบโต รวมถึงได้เพิ่มเติมประเภทเครื่องยนต์ และกลายเป็นแบรนด์ที่มอบทางเลือกให้กับลูกค้า มากที่สุดในประเทศไทย ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล เบนซิน ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% NEW MG VS HEV ยังโดดเด่นด้วยการเป็น Sporty & Stylish SUV ที่ถูกยกระดับทั้งงานดีไซน์ เทคโนโลยี และขุมพลังไฮบริดสู่การเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงจุด”

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถทดลองขับและสัมผัสการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจกับเทคโนโลยีไฮบริดของ NEW MG VS HEV ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเอ็มจีมีกำหนดทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าในปลายเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่

Website: www.mgcars.com

Line: @MGThailand

Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand

Twitter: @mg_thailand

Instagram: @mgthailand

Youtube: MG Thailand

TikTok: @mgthailand

Hashtag #NEWMGVSHEV #MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives

เกี่ยวกับเอ็มจี

เอ็มจี ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1924 โดยชื่อ MG นั้นย่อมาจาก Morris Garages เอ็มจีนับว่าเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันแบรนด์ เอ็มจี อยู่ภายใต้การดูแลของ เอสเอไอซี โดย เอ็มจี มีศูนย์กลางทางด้านการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานและการออกแบบด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมตามแบบฉบับยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจาก เอสเอไอซี ทั้งในเรื่องการจัดหาวัสดุจากทั่วโลก รวมถึงการจัดการด้านซัพพลายเชนเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถยนต์ ตลอดจนการจัดการด้านการควบคุมคุณภาพ รวมถึงบริการด้านอื่นๆ เอ็มจี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากรถยนต์ 2 ที่นั่งรุ่น MGB Roadster ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962 ในวันนี้ เอ็มจีผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก

เกี่ยวกับเอ็มจี ประเทศไทย

บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2013 เพื่อกำกับดูแลงานด้านการขาย การตลาด และบริการหลังการขายของแบรนด์รถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย และกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของ เอ็มจี ทั้งที่เป็นบริษัทร่วมทุน และที่เป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และเอสเอไอซี ทั้งนี้ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอสเอไอซี มอเตอร์) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ เอ็มจี และจำหน่ายภายในประเทศไทย รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!