แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ และ บริษัท แซดเอฟ ฟรีดริชชาเฟ่น เอจี (ZF Friedrichshafen AG) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน จับมือร่วมกันพัฒนาระบบของแซดเอฟสำหรับติดตั้งบนยานพาหนะให้สมบูรณ์แบบเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากดาวเทียมของแอร์บัส
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว แอร์บัสและแซดเอฟจะนำเอาความสามารถและความเชี่ยวชาญที่แต่ละบริษัทมีมาผสานรวมกันเพื่อส่งต่อโซลูชันที่ครบวงจรและเชื่อถือได้สำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติและสามารถควบคุมการขับเคลื่อนได้เอง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการในเรื่องของความแม่นยำอย่างสูงสุด แอร์บัสได้ส่งมอบจุดควบคุมภาคพื้นดิน (Ground Control Pointsหรือ GCPs) แม่นยำสูงซึ่งเป็นค่าพิกัดที่คำนวณโดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม เพื่อเป็นการสนับสนุนที่แซดเอฟได้ใช้เซ็นเซอร์หลายๆ ตัว เช่น ไลดาร์ (Lidar) และ เรดาร์ (Radar) นอกจากนี้ GCP ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลอิสระเพื่อความถูกต้องและแม่นยำของการสำรวจและจัดทำแผนที่แบบเคลื่อนที่
นอกจากนี้แอร์บัสยังค้นคว้าการทำแผนที่ความละเอียดสูง (HD maps)ด้วยการใช้วิธีบันทึกข้อมูลจากทางอากาศและอวกาศ ที่มาช่วยทำให้ ZF semantic card ทำงานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แผนที่ความละเอียดสูงถือเป็นส่วนสำคัญของการแนะนำเส้นทางการเดินทาง เนื่องจากแผนที่นี้ทำการเชื่อมโยงสิ่งที่สำคัญระหว่างข้อมูลการทำแผนที่แบบเคลื่อนที่และระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (จีพีเอส) โดยที่จะมีข้อมูลต่างๆ มากมายซึ่งจะมีมากกว่าแค่ถนน เช่น ตรอกซอกซอย รัศมีความโค้ง ความกว้างของถนน ป้ายชื่อถนน สะพานและอาคาร รวมถึงระยะห่างจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด ข้อมูลจากการสำรวจระยะไกลของจากทั้งพิกัดจุดควบคุมภาคพื้นดินและแผนที่แบบความละเอียดสูงจะถูกรวมเข้าไปเป็นข้อมูลพื้นฐานของ”ZF AD Environment” และเร็วๆ นี้ ทางแซดเอฟจะทำการเปิดตัวโซลูชันแผนที่ความละเอียดสูงรุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้น โดยข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติจะถูกนำไปใช้บนระบบคลาวด์
การขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติคือตลาดใหม่ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นสำหรับแอร์บัสเนื่องจากมาตรฐานระดับสูงของการขับเคลื่อนแบบไร้คนขับจำเป็นต้องอาศัยความแม่นยำสูงสุดด้านแผนที่นำทาง
เกี่ยวกับแอร์บัส
แอร์บัสเป็นผู้นำระดับโลกในด้านอากาศยาน อวกาศ และการบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี พ.ศ. 2560 แอร์บัสมีรายได้ 59 พันล้านยูโร ตามที่ได้เสนอข้อมูลทางการเงินซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 15 (IFRS15) และมีการจ้างงานราว 129,000 คน แอร์บัสมีเครื่องบินโดยสารที่ครอบคลุมมากที่สุดตั้งแต่ 100 ไปจนถึงกว่า 600 ที่นั่ง แอร์บัสยังเป็นบริษัทผู้นำในยุโรปที่ให้บริการเรือบรรทุกน้ำมัน เครื่องบินต่อสู้ เครื่องบินขนส่งและปฏิบัติภารกิจ รวมถึงบริษัทเกี่ยวกับอวกาศอันดับหนึ่งของยุโรปและธุรกิจเกี่ยวกับอวกาศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ แอร์ยังให้บริการโซลูชั่นด้านอากาศยานปีกหมุนทางทหารและพลเรือนมีประสิทธิภาพมากที่สุดไปทั่วโลก
เกี่ยวกับแซดเอฟ ฟรีดริชชาเฟ่น เอจี
แซดเอฟ (ZF) เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลกและเป็นผู้ให้บริการระบบสำหรับรถยนต์โดยสาร รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการเดินทางในอนาคต เนื่องจากแซดเอฟมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่มากมายและครอบคลุม จึงทำให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรให้กับผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ให้บริการระบบการเดินทาง และบริษัทสตาร์ทอัพด้านการขนส่งและระบบการเดินทางได้ แซดเอฟทำการพัฒนาปรับปรุงระบบในด้านการเชื่อมต่อกับดิจิทัลและระบบอัตโนมัติโดยตลอด นั่นก็เพื่อทำให้ยานพาหนะสามารถวิเคราะห์สัญญาณ ประมวลผล และแสดงผลได้ ในปี พ.ศ. 2561 แซดเอฟสามารถทำยอดขายได้ถึง 36.9 พันล้านยูโร โดยมีพนักงานจำนวนทั้งสิ้น 149,000 คน ราว 230 แห่ง ใน 40 ประเทศ
แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ และ บริษัท แซดเอฟ ฟรีดริชชาเฟ่น เอจี (ZF Friedrichshafen AG) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน จับมือร่วมกันพัฒนาระบบของแซดเอฟสำหรับติดตั้งบนยานพาหนะให้สมบูรณ์แบบเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากดาวเทียมของแอร์บัส
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว แอร์บัสและแซดเอฟจะนำเอาความสามารถและความเชี่ยวชาญที่แต่ละบริษัทมีมาผสานรวมกันเพื่อส่งต่อโซลูชันที่ครบวงจรและเชื่อถือได้สำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติและสามารถควบคุมการขับเคลื่อนได้เอง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการในเรื่องของความแม่นยำอย่างสูงสุด แอร์บัสได้ส่งมอบจุดควบคุมภาคพื้นดิน (Ground Control Pointsหรือ GCPs) แม่นยำสูงซึ่งเป็นค่าพิกัดที่คำนวณโดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม เพื่อเป็นการสนับสนุนที่แซดเอฟได้ใช้เซ็นเซอร์หลายๆ ตัว เช่น ไลดาร์ (Lidar) และ เรดาร์ (Radar) นอกจากนี้ GCP ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลอิสระเพื่อความถูกต้องและแม่นยำของการสำรวจและจัดทำแผนที่แบบเคลื่อนที่
นอกจากนี้แอร์บัสยังค้นคว้าการทำแผนที่ความละเอียดสูง (HD maps)ด้วยการใช้วิธีบันทึกข้อมูลจากทางอากาศและอวกาศ ที่มาช่วยทำให้ ZF semantic card ทำงานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แผนที่ความละเอียดสูงถือเป็นส่วนสำคัญของการแนะนำเส้นทางการเดินทาง เนื่องจากแผนที่นี้ทำการเชื่อมโยงสิ่งที่สำคัญระหว่างข้อมูลการทำแผนที่แบบเคลื่อนที่และระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (จีพีเอส) โดยที่จะมีข้อมูลต่างๆ มากมายซึ่งจะมีมากกว่าแค่ถนน เช่น ตรอกซอกซอย รัศมีความโค้ง ความกว้างของถนน ป้ายชื่อถนน สะพานและอาคาร รวมถึงระยะห่างจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด ข้อมูลจากการสำรวจระยะไกลของจากทั้งพิกัดจุดควบคุมภาคพื้นดินและแผนที่แบบความละเอียดสูงจะถูกรวมเข้าไปเป็นข้อมูลพื้นฐานของ"ZF AD Environment" และเร็วๆ นี้ ทางแซดเอฟจะทำการเปิดตัวโซลูชันแผนที่ความละเอียดสูงรุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้น โดยข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติจะถูกนำไปใช้บนระบบคลาวด์
การขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติคือตลาดใหม่ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นสำหรับแอร์บัสเนื่องจากมาตรฐานระดับสูงของการขับเคลื่อนแบบไร้คนขับจำเป็นต้องอาศัยความแม่นยำสูงสุดด้านแผนที่นำทาง
เกี่ยวกับแอร์บัส
แอร์บัสเป็นผู้นำระดับโลกในด้านอากาศยาน อวกาศ และการบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี พ.ศ. 2560 แอร์บัสมีรายได้ 59 พันล้านยูโร ตามที่ได้เสนอข้อมูลทางการเงินซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 15 (IFRS15) และมีการจ้างงานราว 129,000 คน แอร์บัสมีเครื่องบินโดยสารที่ครอบคลุมมากที่สุดตั้งแต่ 100 ไปจนถึงกว่า 600 ที่นั่ง แอร์บัสยังเป็นบริษัทผู้นำในยุโรปที่ให้บริการเรือบรรทุกน้ำมัน เครื่องบินต่อสู้ เครื่องบินขนส่งและปฏิบัติภารกิจ รวมถึงบริษัทเกี่ยวกับอวกาศอันดับหนึ่งของยุโรปและธุรกิจเกี่ยวกับอวกาศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ แอร์ยังให้บริการโซลูชั่นด้านอากาศยานปีกหมุนทางทหารและพลเรือนมีประสิทธิภาพมากที่สุดไปทั่วโลก
เกี่ยวกับแซดเอฟ ฟรีดริชชาเฟ่น เอจี
แซดเอฟ (ZF) เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลกและเป็นผู้ให้บริการระบบสำหรับรถยนต์โดยสาร รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการเดินทางในอนาคต เนื่องจากแซดเอฟมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่มากมายและครอบคลุม จึงทำให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรให้กับผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ให้บริการระบบการเดินทาง และบริษัทสตาร์ทอัพด้านการขนส่งและระบบการเดินทางได้ แซดเอฟทำการพัฒนาปรับปรุงระบบในด้านการเชื่อมต่อกับดิจิทัลและระบบอัตโนมัติโดยตลอด นั่นก็เพื่อทำให้ยานพาหนะสามารถวิเคราะห์สัญญาณ ประมวลผล และแสดงผลได้ ในปี พ.ศ. 2561 แซดเอฟสามารถทำยอดขายได้ถึง 36.9 พันล้านยูโร โดยมีพนักงานจำนวนทั้งสิ้น 149,000 คน ราว 230 แห่ง ใน 40 ประเทศ
