จารึกตำนานศึกเลอ มังส์ 24 ชม. – 2009 LE MANS 24 Hrs – Peugeot เรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2


By : C. Methas – Managing Editor

Le Mans 24 Hours หรือศึกแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงในปีนี้ จบลงด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของทีม Peugeot Sport Total และเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 โดยอันดับ 3 เป็นของทีม Team Peugeot Total หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับโพล โพสิชั่น

การคว้าแชมป์ในปีนี้ของทีม Peugeot ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงเป็นการหยุดสถิติการคว้าแชมป์ของทีม Audi ที่กวาดแชมป์ติดต่อกันมาหลายปี

นักขับทั้ง 3 รายที่คว้าแชมป์ในรายการเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงปีนี้ ประกอบด้วย David Brabham, Mark Gene และ Alexzander Wurz รถหมายเลข 9 ของทีม Peugeot Sport Total รหัสรุ่น Peugeot 908 HDi FAP วางเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นการทวงคืนแชมป์กลับมาอีกครั้งของทีม Peugeot หลังจากที่กวาดแชมป์ไปครอง 2 ปีติดต่อกันในช่วงปี 1992-1993 โดยเป็นรถแข่งตระกูล Peugeot 905B

รถแข่งที่ผ่านธงตราหมากรุกในอันดับ 2 นักขับทั้ง 3 รายประกอบด้วย Sebastien Bourdais, Franck Montagny และ Stephane Sarrazin ผลัดกันขับรถหมายเลข 8 และได้ออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่น ซึ่งตลอดการแข่งขันสามารถครองอันดับหัวแถวเกือบตลอดการแข่งขัน แม้จะมีปัญหาในบางช่วงเกี่ยวกับระบบเบรกด้านซ้ายของรถแข่งคันที่ 2 ต้องเสียเวลาไปถึง 10 นาทีในช่วงของการเข้าพิท จนทำให้รถหมายเลข 9 ที่ขณะนั้นขับโดย Alexander Wurz แซงขึ้นไปนำ และเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

การคว้าแชมป์ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงครั้งนี้ เป็นการคว้าแชมป์สมัยแรกของ David Brabham และ Mark Gene ส่วน Alexander Wurz มาคว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1996 สังกัดทีม Joest Porsche

ทีม Peugeot มีโอกาสเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-3 แต่รถคันหมายเลข 7 มีปัญหาที่เกิดความผิดพลาดใน Pit Stop ทำให้เสียเวลาไปมาก แต่ก็ยังสามารถเข้าเส้นชัยในอันดับ 6

ทีม Audi Sport Team เป็นทีมที่ครองแชมป์ในรายการนี้ติดต่อกัน 8 ปีของการส่งทีมลงแข่งครั้งล่าสุดติดต่อกัน 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นทีมแรกที่มาคว้าแชมป์โดยรถแข่งวางเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนในปีนี้ เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 และอันดับ 7 โดยอันดับ 4 ตกเป็นของทีม AMR Eastern Europe และอันดับ 5 เป็นของทีม Team ORECA ในรอบควอลิฟายรถแข่งหมายเลข 8 ของ Team Peugeot Total คว้าโพล โพสิชั่นไปครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 3 นาที 22.888 วินาที ตามมาด้วยทีม Audi Sport Team Joest และอันดับ 3 เป็นของ Team Peugeot Total หมายเลข 7 ส่วนแชมป์ประจำปีนี้ออกสตาร์ทจากอันดับ 5

รถแข่งหมายเลข 1 รหัสรุ่น R 15 TDI วางเครื่องยนต์ดีเซล ของทีม Audi Sport Team Joest ที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ขับโดย Allan McNish, Rinaldo Capello และ Tom Kristensen ผ่านธงตราหมากรุกเมื่อครบเวลา 24 ชั่วโมง ตามหลังแชมป์ประจำรายการถึง 7 รอบ

Tom Kristensen นักขับที่มากวาดแชมป์ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงได้มากที่สุด รวม 8 สมัย สำหรับในปีนี้ รถแข่งหมายเลข 1 ที่เขาขับมีปัญหาทางด้านเทคนิค ต้องเสียเวลาไปถึง 15 นาทีในการเข้าไปซ่อมแซมในพิทในชั่วโมงที่ 7 และมีผลต่อการคว้าแชมป์ในปีนี้ ขณะที่ทีม Peugeot ก็สามารถทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถครองอันดับหัวแถวได้เกือบตลอดการแข่งขัน 24 ชั่วโมง

ส่วนรถหมายเลข 2 ของทีม Audi Sport North America ที่อยู่ในระหว่างการขับโดย Lucas Luhr รถเสียหลักไปพุ่งชนแผงกั้นขอบทางหลังจากผ่านโค้ง Porsche Curve ทำให้ระบบกันสะเทือนเสียหายและยางแตก ต้องออกจากการแข่งขันไป

หลังความพ่ายแพ้ให้กับทีม Peugeot ในปีนี้ Tom Kristensen ออกมากล่าวยอมรับว่า “รถมีปัญหาเกี่ยวกับความสมดุลและสภาพอากาศร้อนมาก ประกอบกับทีม Peugeot ก็ทำผลงานได้ดีกว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เหนือกว่า นอกจากนี้เป็นความผิดพลาดของรถรุ่นใหม่ R 15 TDI โดยในรอบควอลิฟาย Allan McNish ทำเวลาต่อรอบได้ดีในช่วงคืนวันพฤหัส แต่รถก็ยังมีปัญหาเกี่ยวเสถียรภาพการควบคุม และการทดสอบมีข้อจำกัด”

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ปีนี้จัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 77 โดยใช้สนาม Circuit de la Sarthe, Le Mans ประเทศฝรั่งเศสเป็นสังเวียนประลองความเร็ว ปีนี้ Luca Cordero di Montezemolo ประธานของ Fiat และ Ferrari มาเป็นเปิดการแข่งขัน

ผลการแข่งขัน Le Mans 24 Hrs

อันดับ           ผู้ขับ          ทีม            จำนวนรอบ

1 David Brabham, Mark Gene, Alex Wurze Peugeot Sport Total 381

2 Sebastien Bourdais, Franck Montagny Stephane Sarrazin Team Peugeot Total 380

3 Rinaldo Capello, Tom Kristensen Allan McNish Audi Sport Team 374

4 Jan Charouz, Thomas Enge, Stefan Mucke AMR Eastern Europe 372

5 Olivier Panis, Nicolas Lapierre, Soheil Ayari Team ORECA 369

6 Christian Klien, Pedro Lamy, Nicolas Minassian Team Peugeot Total 368

7 Narain Karthikeyan, Andrez Lotterer, Charles Zwolsman Team Kolles 368

8 Christophe Tinseau, Joao Barbosa, Bargbosa Jouanny Pescarolo Sport 367

By : C. Methas - Managing Editor

Le Mans 24 Hours หรือศึกแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงในปีนี้ จบลงด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของทีม Peugeot Sport Total และเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 โดยอันดับ 3 เป็นของทีม Team Peugeot Total หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับโพล โพสิชั่น

การคว้าแชมป์ในปีนี้ของทีม Peugeot ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงเป็นการหยุดสถิติการคว้าแชมป์ของทีม Audi ที่กวาดแชมป์ติดต่อกันมาหลายปี

นักขับทั้ง 3 รายที่คว้าแชมป์ในรายการเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงปีนี้ ประกอบด้วย David Brabham, Mark Gene และ Alexzander Wurz รถหมายเลข 9 ของทีม Peugeot Sport Total รหัสรุ่น Peugeot 908 HDi FAP วางเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นการทวงคืนแชมป์กลับมาอีกครั้งของทีม Peugeot หลังจากที่กวาดแชมป์ไปครอง 2 ปีติดต่อกันในช่วงปี 1992-1993 โดยเป็นรถแข่งตระกูล Peugeot 905B

รถแข่งที่ผ่านธงตราหมากรุกในอันดับ 2 นักขับทั้ง 3 รายประกอบด้วย Sebastien Bourdais, Franck Montagny และ Stephane Sarrazin ผลัดกันขับรถหมายเลข 8 และได้ออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่น ซึ่งตลอดการแข่งขันสามารถครองอันดับหัวแถวเกือบตลอดการแข่งขัน แม้จะมีปัญหาในบางช่วงเกี่ยวกับระบบเบรกด้านซ้ายของรถแข่งคันที่ 2 ต้องเสียเวลาไปถึง 10 นาทีในช่วงของการเข้าพิท จนทำให้รถหมายเลข 9 ที่ขณะนั้นขับโดย Alexander Wurz แซงขึ้นไปนำ และเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

การคว้าแชมป์ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงครั้งนี้ เป็นการคว้าแชมป์สมัยแรกของ David Brabham และ Mark Gene ส่วน Alexander Wurz มาคว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1996 สังกัดทีม Joest Porsche

ทีม Peugeot มีโอกาสเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-3 แต่รถคันหมายเลข 7 มีปัญหาที่เกิดความผิดพลาดใน Pit Stop ทำให้เสียเวลาไปมาก แต่ก็ยังสามารถเข้าเส้นชัยในอันดับ 6

ทีม Audi Sport Team เป็นทีมที่ครองแชมป์ในรายการนี้ติดต่อกัน 8 ปีของการส่งทีมลงแข่งครั้งล่าสุดติดต่อกัน 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นทีมแรกที่มาคว้าแชมป์โดยรถแข่งวางเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนในปีนี้ เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 และอันดับ 7 โดยอันดับ 4 ตกเป็นของทีม AMR Eastern Europe และอันดับ 5 เป็นของทีม Team ORECA ในรอบควอลิฟายรถแข่งหมายเลข 8 ของ Team Peugeot Total คว้าโพล โพสิชั่นไปครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 3 นาที 22.888 วินาที ตามมาด้วยทีม Audi Sport Team Joest และอันดับ 3 เป็นของ Team Peugeot Total หมายเลข 7 ส่วนแชมป์ประจำปีนี้ออกสตาร์ทจากอันดับ 5

รถแข่งหมายเลข 1 รหัสรุ่น R 15 TDI วางเครื่องยนต์ดีเซล ของทีม Audi Sport Team Joest ที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ขับโดย Allan McNish, Rinaldo Capello และ Tom Kristensen ผ่านธงตราหมากรุกเมื่อครบเวลา 24 ชั่วโมง ตามหลังแชมป์ประจำรายการถึง 7 รอบ

Tom Kristensen นักขับที่มากวาดแชมป์ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงได้มากที่สุด รวม 8 สมัย สำหรับในปีนี้ รถแข่งหมายเลข 1 ที่เขาขับมีปัญหาทางด้านเทคนิค ต้องเสียเวลาไปถึง 15 นาทีในการเข้าไปซ่อมแซมในพิทในชั่วโมงที่ 7 และมีผลต่อการคว้าแชมป์ในปีนี้ ขณะที่ทีม Peugeot ก็สามารถทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม และสามารถครองอันดับหัวแถวได้เกือบตลอดการแข่งขัน 24 ชั่วโมง

ส่วนรถหมายเลข 2 ของทีม Audi Sport North America ที่อยู่ในระหว่างการขับโดย Lucas Luhr รถเสียหลักไปพุ่งชนแผงกั้นขอบทางหลังจากผ่านโค้ง Porsche Curve ทำให้ระบบกันสะเทือนเสียหายและยางแตก ต้องออกจากการแข่งขันไป

หลังความพ่ายแพ้ให้กับทีม Peugeot ในปีนี้ Tom Kristensen ออกมากล่าวยอมรับว่า “รถมีปัญหาเกี่ยวกับความสมดุลและสภาพอากาศร้อนมาก ประกอบกับทีม Peugeot ก็ทำผลงานได้ดีกว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เหนือกว่า นอกจากนี้เป็นความผิดพลาดของรถรุ่นใหม่ R 15 TDI โดยในรอบควอลิฟาย Allan McNish ทำเวลาต่อรอบได้ดีในช่วงคืนวันพฤหัส แต่รถก็ยังมีปัญหาเกี่ยวเสถียรภาพการควบคุม และการทดสอบมีข้อจำกัด”

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ปีนี้จัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 77 โดยใช้สนาม Circuit de la Sarthe, Le Mans ประเทศฝรั่งเศสเป็นสังเวียนประลองความเร็ว ปีนี้ Luca Cordero di Montezemolo ประธานของ Fiat และ Ferrari มาเป็นเปิดการแข่งขัน

ผลการแข่งขัน Le Mans 24 Hrs

อันดับ           ผู้ขับ          ทีม            จำนวนรอบ

1 David Brabham, Mark Gene, Alex Wurze Peugeot Sport Total 381

2 Sebastien Bourdais, Franck Montagny Stephane Sarrazin Team Peugeot Total 380

3 Rinaldo Capello, Tom Kristensen Allan McNish Audi Sport Team 374

4 Jan Charouz, Thomas Enge, Stefan Mucke AMR Eastern Europe 372

5 Olivier Panis, Nicolas Lapierre, Soheil Ayari Team ORECA 369

6 Christian Klien, Pedro Lamy, Nicolas Minassian Team Peugeot Total 368

7 Narain Karthikeyan, Andrez Lotterer, Charles Zwolsman Team Kolles 368

8 Christophe Tinseau, Joao Barbosa, Bargbosa Jouanny Pescarolo Sport 367

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!