2010 DAKAR RALLY (Part 3) -โฟล์คสวาเก้นคว้าแชมป์ 2 สมัยซ้อนในอเมริกาใต้


By : C. Methas - Managing Editor

ทีมแข่งโฟล์คสวาเก้นประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ในศึกดักการ์ แรลลี่ประจำฤดูกาล 2010 เป็นการกวาดแชมป์สองสมัยติดต่อกันของทีม โดยในปีนี้คาร์ลอส แซงส์ นักขับจากสเปนอดีตแชมป์แรลลี่โลกสองสมัยคว้าแชมป์ไปครอง เป็นการมาคว้าแชมป์ครั้งแรกในชีวิตที่ศึกแรลลี่หฤโหด นอกจากนี้ยังเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-3 ของนักขับจากทีมโฟล์คสวาเก้น

ศึกดักการ์ แรลลี่ปีนี้ ทำการแข่งขันในทวีปอเมริกาใต้ช่วงเส้นทางระหว่างประเทศอาร์เจนติน่าไปยังชายแดนประเทศเปรู ติดขอบมหาสมุทรแปซิฟิคแล้ววนกลับมายังประเทศอาร์เจนติน่าอีกครั้ง โดยเริ่มออกสตาร์ทจากกรุงบัวโนส แอเรส ประเทศอาร์เจนติน่าและมาจบการแข่งขันที่กรุงบัวโนส แอเรสเช่นเดิม เส้นทางการแข่งขันมีความโหดไม่ต่างจากเส้นทางเดิมในทวีปแอฟริกา โดยมีสภาพเส้นทางหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งผ่านท้องทะเลทรายอันเวิ้งว้าง, เนินทรายสูงที่เรียกว่า Dune ทางลูกรังและเส้นทางที่ผ่านข้ามภูเขาแอนดรีสที่กั้นระหว่างพรมแดนประเทศอาร์เจนติน่ากับชิลี

ปีนี้ทีมโฟล์คสวาเก้นมีคู่แข่งที่ต้องขับเคี่ยวกันเป็นทีมจากสัญชาติเยอรมนีด้วยกัน ได้แก่ทีมบีเอ็มดับลิว ที่ส่งรถแข่งรุ่น X3 ลงแข่งขัน และสามารถขึ้นไปนำตั้งแต่ช่วงแรก แต่ไปจบการแข่งขันในอันดับ 3-4 โดยสเตฟาน ปีเตอร์ฮันเซ่น อดีตเจ้าของแชมป์ประเภทมอเตอร์ไซค์ในศึกดักการ์ แรลลี่ 8 สมัยซ้อนระหว่างปี 1991-1998 เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 และเกอเลน ชิคเชอริท เพื่อนร่วมทีมตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 โดยทั้งคู่เป็นสองนักขับจากฝรั่งเศส

สำหรับแชมป์ในศึกดักการ์ แรลลี่ปีนี้ยังคงเป็นอดีตแชมป์เก่าที่เคยมาคว้าแชมป์ในรายการนี้ เป็นนักขับระดับแถวหน้าที่เคยกวาดแชมป์มาหลายสมัย สามารถคว้าแชมป์ได้ต่อเนื่องทั้งประเภทมอเตอร์ไซค์และรถบรรทุก ส่วนประเภทรถ ATV ได้แชมป์รายใหม่ มาร์คอส ปาโทรเนลลี่ นักขับเจ้าถิ่นจากอาร์เจนติน่า ส่วนประเภทรถยนต์ คาร์ลอส แซงส์เคยได้รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว และเคยคว้าแชมป์แรลลี่โลกได้สองสมัย เมื่อครั้งสังกัดทีมโตโยต้า

ไซรีล เดสเปรส จากฝรั่งเศสยังคงโชว์ความแข็งแกร่งและเจ้าความเร็วในประเภทมอเตอร์ไซค์ ทำเวลารวมขึ้นนำโอเวอร์ตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทและขึ้นนำมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคว้าแชมป์ให้กับทีมเคทีเอ็ม.ได้สำเร็จ เป็นทีมแข่งจากออสเตรีย เป็นการกวาดแชมป์สมัยที่ 3

ก่อนหน้านี้ไซรีล เดเปรสคว้าแชมป์ในศึกดักการ์ แรลลี่ ได้ในปี 2005 และ 2007 สามารถทำเวลาทิ้งห่างอันดับ 2 พาล อังเดร อัลลิยาลเซเตอร์ เป็นนักแข่งที่ลงแข่งขันเป็นการส่วนตัวโดยใช้รถเคทีเอ็ม เป็นเวลาถึง 1 ชั่วโมงกว่า

ส่วนแชมป์ประเภทรถบรรทุกเป็นอดีตแชมป์เก่าเช่นกัน วลาดิเมียร์ ชากิ้นจากรัสเซีย ครองความเป็นจ้าวแห่งรถบรรทุก โดยคว้าแชมป์ในปีนี้ให้กับทีมคามาซ-มาสเตอร์ เป็นการกวาดแชมป์สมัยที่ 6 ในศึกดักการ์ แรลลี่และเป็นการกวาดแชมป์สมัยที่ 9 ให้กับทีมคามาซ เป็นสถิติสูงสุดในศึกดักการ์ แรลลี่

วลาดิเมียร์ ชากิ้น โชว์ฟอร์มการขับในปีนี้ได้ในแบบไร้คู่แข่ง โดยขึ้นนำตั้งแต่ออกสตาร์ท และสามารถทำเวลาเร็วที่สุดได้ถึง 8 สเตจของการแข่งขัน 14 สเตจ โดยทำเวลาเร็วที่สุดตั้งแต่ออกสตาร์ทได้ 4 สเตจแรก

ส่วนประเภทรถยนต์ ทีมโฟล์คสวาเก้นประสบความสำเร็จอย่างสูงในศึกดักการ์ แรลลี่ครั้งล่าสุด โดยสามารถเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-3 คาร์ลอส แซงส์คว้าแชมป์แรกไปครอง ตามมาด้วยนักขับจากกาตาร์ นัสเซอร์ อัล อัลติยะคว้ารองแชมป์และทีมแข่งจากสหรัฐอเมริกา มาร์ค มิลเลอร์ ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 3

ทีมมิตซูบิชิปีนี้ส่งรถแข่งรุ่น แลนเซอร์ ขับโดย คาร์ลอส เซาซา เข้าเส้นชัยในอันดับ 6 และอันดับ 7 เป็นของจิเนียล เดอ วิลิเยร์ แชมป์ปีที่แล้ว สังกัดทีมโฟล์คสวาเก้นเช่นเดิม

สำหรับผลงานของคาร์ลอส แซงส์ แชมป์ศึกดักการ์ แรลลี่ครั้งล่าสุดทำเวลาได้เร็วที่สุดได้เพียง 2 สเตจเท่านั้น โดยทำเวลาได้เร็วที่สุดในสเตจที่ 10 และ 12 ส่วนอันดับ 2 นัสเซอร์ อัล อัลติยะ รองแชมป์ทำเวลาเร็วที่สุดได้รวม 4 สเตจ แต่เวลารวมตามหลังแชมป์อยู่เพียง 2 นาที 12 วินาทีเท่านั้น อันดับ 3 มาร์ค มิลเลอร์ ทำเวลาเร็วที่สุดได้เพียงสเตจเดียว เวลาตามหลังแชมป์อยู่ 32 นาที 15 วินาที

คาร์ลอส แซงส์ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการคว้าแชมป์แรกให้กับตนเองในศึกดักการ์ แรลลี่ และเป็นักขับรายแรกชาวสเปนที่มาคว้าแชมป์ในรายการนี้

Recent posts

error: Content is protected !!