จารึกตำนานศึกเลอ มังส์ 24 ชม. – 2011 Le Mans 24 Hrs – ทีมออดี้คว้าแชมป์อีกสมัยอย่างโดดเดี่ยว


By : C. Methas – Managing Editor

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงประจำฤดูกาล 2011 เสร็จสิ้นลงไปด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของทีมออดี้อีกสมัยในแบบโดดเดี่ยว เนื่องจากรถแข่งของทีมประสบอุบัติเหตุต้องออกจากการแข่งขันเหลือเข้าเส้นชัยเพียงคันเดียวและสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยมีทีมเปอโยต์ตามไล่หลังมา 4 คัน

ศึกแข่งขันรถยนต์ทางเรียบหฤโหด 24 ชั่วโมงปีนี้จัดการแข่งขันขึ้นเป็นสมัยที่ 79 ยังคงทำการแข่งขันที่ Circuit de la Sarthe แถบเมืองเลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส ทีมออดี้ยังคงแข็งแกร่งมากวาดแชมป์ออกไปจากรายการนี้ได้อีกสมัยด้วยรถแข่งที่วางเครื่องยนต์แบบดีเซล ซึ่งทีมออดี้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่มาคว้าแชมป์ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อหลายปีก่อน

ส่วนปีนี้ทีมโรงงานของออดี้ได้ส่งรถแข่งรหัสใหม่ล่าสุด R18 TDI สามารถป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย วางเครื่องยนต์แบบดีเซล ขนาด 3.7 ลิตร แบบ วี-6 สูบ ติดเทอร์โบชาร์จ ทำมุม 120 องศา ติดเทอร์โบชาร์จคู่ จำนวน 24 วาล์ว ระบบเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ FSI สามารถขับแรงม้าสูงสุด 553 แรงม้า เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 148.6 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 0.6 แรงม้าต่อกิโลกรัม และรถแข่งมีน้ำหนักรถเปล่า 1984.2 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์มีน้ำหนักเพียง 900 กิโลกรัม

ทีมออดี้ประสบความสำเร็จอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จอีกสมัยเป็นสมัยที่ 10 หลังจากได้ส่งทีมแข่งลงแข่งขันเมื่อปี 1999 และไปสูญเสียแชมป์ให้กับทีมเปอโยต์เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2009

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงในปีนี้ ทีมออดี้ประสบปัญหาตั้งแต่ชั่วโมงแรก รถที่ขับโดยอลัน แมคนิชไปเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่ซึ่งเป็นรถในกลุ่มคลาส จีที. ที่มีความเร็วช้ากว่าจนหลุดโค้งไปพุ่งชนกำแพงอย่างรุนแรงและรถพลิกคว่ำข้ามกำแพงยางไป แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนอลัน แมคนิชสามารถออกมาจากรถได้ แต่ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย

การแข่งขันในปีนี้ทีมออดี้ค่อนข้างจะโชคไม่เข้าข้าง ขณะที่เหลือรถแข่งของทีมออดี้จากโรงงานอยู่ในสนามอีก 2 คันเท่านั้น และในชั่วโมงที่ 8 รถก็เกิดอุบัติเหตุอีกคันจากการไปเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่ที่เบียดเข้ามาและรถหลุดไปพุ่งชนขอบกำแพงด้านข้างสนามรถพังยับเยิน ท้ายที่สุดเหลือรถแข่งอยู่ในสนามเพียงคันเดียวเท่านั้น จากรถที่ลงแข่งขันทั้งหมดรวม 56 คัน แบ่งออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน

ในรอบควอลิฟายทีมออดี้ทำผลงานได้ดีด้วยการคว้าโพล โพสิชั่นไปครองในอันดับ 1-2 คันแรกทำเวลาได้ 3 นาที 25.738 วินาที ส่วนคันที่สองทำเวลาตามหลังเพียง 0.061 วินาทีเท่านั้น

ทีมเปอโยต์เป็นทีมที่มีโอกาสในการคว้าแชมป์สนามนี้มากที่สุด เนื่องจากมีรถแข่งของทีมอยู่ในสนามครบทั้ง 3 คนในรุ่นท็อปสุด และทีมเปอโยต์เคยมาโค่นบัลลังก์แชมป์ของออดี้ได้เมื่อปี 2009 มาแล้ว ปีนี้ได้ส่งรถแข่งรหัส 908 ลงแข่งขัน วางเครื่องยนต์ ขนาด 3.7 ลิตร แบบ วี-12 สูบ ดีเซล HDI ที่ให้แรงม้าสูงสุด 700 แรงม้า.

ออดี้ที่เหลืออยู่ในสนามเพียงคันเดียวสามารถขึ้นนำมาตลอดโดยถูกทีมเปอโยต์กดดันอย่างหนักทั้งวันทั้งคืนเกือบตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วง 2 ชั่วโมงท้ายที่ไล่เข้ามาอย่างกระชั้นชิดและเมื่อครบ 24 ชั่วโมง รถแข่งของทีมออดี้ก็ผ่านธงตราหมากรุกไปเป็นคันแรกด้วยจำนวน 355 รอบสนาม ขับโดยนักขับ 3 ราย ประกอบด้วย Marcel Fassler, Andre Lotterer และ Benoit Treluyer ที่เป็นผู้ขับทำเวลาได้ดีทีสุดในรอบควอลิฟาย

ส่วนทางด้านทีมเปอโยต์ตามเข้าเส้นชัยในแบบเฉียดฉิวด้วยเวลาตามหลังเพียง 13 วินาทีเท่านั้น โดยเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยของทีมเปอโยต์ทั้ง 4 คันในอันดับ 2-5 โดยอันดับที่ 3 เวลาตามหลังถึงสองรอบสนาม

ส่วนในรุ่น LMP2 ซึ่งเป็นรุ่นรองจากรุ่นใหญ่ LMP1 ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับทีม Zytek Motorsport คว้าแชมป์ไปครอง โดยวางเครื่องยนต์จากสำนัก Nismo ของนิสสัน เป็นเครื่องยนต์ ขนาด 4.4 ลิตร แบบ วี-8 สูบ รหัส VK45DE ขับได้รวม 326 รอบสนาม

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงปีนี้มีรถแข่งจบการแข่งขัน 28 คันจากทั้งหมด 56 คันและเป็นความสำเร็จของทีมออดี้อีกสมัยด้วยการคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ

ผลการแข่งขันศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง

อันดับ           รถ            ผู้ขับ          รวมรอบ

1 Audi R18 TDI Joesst Fassler, Andre Lotterer, Benoit Treluver 355

2 Peugeot 908 Sebastien Bourdais, Simon Pagenaud, Pedro Lamy 355

3 Peugeot 908 Stephane Sarrazin, Franck Montagny, Nicolas Misassing 353

4 Peugeot 908 Anthony Davidson, Alexander Wurz, Marc Gene 351

5 Peugeot 908 HDi Nicolas Lapierre, Loic Duval, Olivier Panis 339

6 Lola B10/60 Nicolas Prost, Neel Jani, Jeroen Bleekemolen 338

7 Lola Aston Martin Vanina Icky, Bas Leinders, Maxime Martin 328

By : C. Methas - Managing Editor

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงประจำฤดูกาล 2011 เสร็จสิ้นลงไปด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของทีมออดี้อีกสมัยในแบบโดดเดี่ยว เนื่องจากรถแข่งของทีมประสบอุบัติเหตุต้องออกจากการแข่งขันเหลือเข้าเส้นชัยเพียงคันเดียวและสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยมีทีมเปอโยต์ตามไล่หลังมา 4 คัน

ศึกแข่งขันรถยนต์ทางเรียบหฤโหด 24 ชั่วโมงปีนี้จัดการแข่งขันขึ้นเป็นสมัยที่ 79 ยังคงทำการแข่งขันที่ Circuit de la Sarthe แถบเมืองเลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส ทีมออดี้ยังคงแข็งแกร่งมากวาดแชมป์ออกไปจากรายการนี้ได้อีกสมัยด้วยรถแข่งที่วางเครื่องยนต์แบบดีเซล ซึ่งทีมออดี้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่มาคว้าแชมป์ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อหลายปีก่อน

ส่วนปีนี้ทีมโรงงานของออดี้ได้ส่งรถแข่งรหัสใหม่ล่าสุด R18 TDI สามารถป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย วางเครื่องยนต์แบบดีเซล ขนาด 3.7 ลิตร แบบ วี-6 สูบ ติดเทอร์โบชาร์จ ทำมุม 120 องศา ติดเทอร์โบชาร์จคู่ จำนวน 24 วาล์ว ระบบเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ FSI สามารถขับแรงม้าสูงสุด 553 แรงม้า เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 148.6 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 0.6 แรงม้าต่อกิโลกรัม และรถแข่งมีน้ำหนักรถเปล่า 1984.2 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์มีน้ำหนักเพียง 900 กิโลกรัม

ทีมออดี้ประสบความสำเร็จอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จอีกสมัยเป็นสมัยที่ 10 หลังจากได้ส่งทีมแข่งลงแข่งขันเมื่อปี 1999 และไปสูญเสียแชมป์ให้กับทีมเปอโยต์เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2009

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงในปีนี้ ทีมออดี้ประสบปัญหาตั้งแต่ชั่วโมงแรก รถที่ขับโดยอลัน แมคนิชไปเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่ซึ่งเป็นรถในกลุ่มคลาส จีที. ที่มีความเร็วช้ากว่าจนหลุดโค้งไปพุ่งชนกำแพงอย่างรุนแรงและรถพลิกคว่ำข้ามกำแพงยางไป แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนอลัน แมคนิชสามารถออกมาจากรถได้ แต่ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย

การแข่งขันในปีนี้ทีมออดี้ค่อนข้างจะโชคไม่เข้าข้าง ขณะที่เหลือรถแข่งของทีมออดี้จากโรงงานอยู่ในสนามอีก 2 คันเท่านั้น และในชั่วโมงที่ 8 รถก็เกิดอุบัติเหตุอีกคันจากการไปเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่ที่เบียดเข้ามาและรถหลุดไปพุ่งชนขอบกำแพงด้านข้างสนามรถพังยับเยิน ท้ายที่สุดเหลือรถแข่งอยู่ในสนามเพียงคันเดียวเท่านั้น จากรถที่ลงแข่งขันทั้งหมดรวม 56 คัน แบ่งออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน

ในรอบควอลิฟายทีมออดี้ทำผลงานได้ดีด้วยการคว้าโพล โพสิชั่นไปครองในอันดับ 1-2 คันแรกทำเวลาได้ 3 นาที 25.738 วินาที ส่วนคันที่สองทำเวลาตามหลังเพียง 0.061 วินาทีเท่านั้น

ทีมเปอโยต์เป็นทีมที่มีโอกาสในการคว้าแชมป์สนามนี้มากที่สุด เนื่องจากมีรถแข่งของทีมอยู่ในสนามครบทั้ง 3 คนในรุ่นท็อปสุด และทีมเปอโยต์เคยมาโค่นบัลลังก์แชมป์ของออดี้ได้เมื่อปี 2009 มาแล้ว ปีนี้ได้ส่งรถแข่งรหัส 908 ลงแข่งขัน วางเครื่องยนต์ ขนาด 3.7 ลิตร แบบ วี-12 สูบ ดีเซล HDI ที่ให้แรงม้าสูงสุด 700 แรงม้า.

ออดี้ที่เหลืออยู่ในสนามเพียงคันเดียวสามารถขึ้นนำมาตลอดโดยถูกทีมเปอโยต์กดดันอย่างหนักทั้งวันทั้งคืนเกือบตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วง 2 ชั่วโมงท้ายที่ไล่เข้ามาอย่างกระชั้นชิดและเมื่อครบ 24 ชั่วโมง รถแข่งของทีมออดี้ก็ผ่านธงตราหมากรุกไปเป็นคันแรกด้วยจำนวน 355 รอบสนาม ขับโดยนักขับ 3 ราย ประกอบด้วย Marcel Fassler, Andre Lotterer และ Benoit Treluyer ที่เป็นผู้ขับทำเวลาได้ดีทีสุดในรอบควอลิฟาย

ส่วนทางด้านทีมเปอโยต์ตามเข้าเส้นชัยในแบบเฉียดฉิวด้วยเวลาตามหลังเพียง 13 วินาทีเท่านั้น โดยเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยของทีมเปอโยต์ทั้ง 4 คันในอันดับ 2-5 โดยอันดับที่ 3 เวลาตามหลังถึงสองรอบสนาม

ส่วนในรุ่น LMP2 ซึ่งเป็นรุ่นรองจากรุ่นใหญ่ LMP1 ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับทีม Zytek Motorsport คว้าแชมป์ไปครอง โดยวางเครื่องยนต์จากสำนัก Nismo ของนิสสัน เป็นเครื่องยนต์ ขนาด 4.4 ลิตร แบบ วี-8 สูบ รหัส VK45DE ขับได้รวม 326 รอบสนาม

ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงปีนี้มีรถแข่งจบการแข่งขัน 28 คันจากทั้งหมด 56 คันและเป็นความสำเร็จของทีมออดี้อีกสมัยด้วยการคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ

ผลการแข่งขันศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง

อันดับ           รถ            ผู้ขับ          รวมรอบ

1 Audi R18 TDI Joesst Fassler, Andre Lotterer, Benoit Treluver 355

2 Peugeot 908 Sebastien Bourdais, Simon Pagenaud, Pedro Lamy 355

3 Peugeot 908 Stephane Sarrazin, Franck Montagny, Nicolas Misassing 353

4 Peugeot 908 Anthony Davidson, Alexander Wurz, Marc Gene 351

5 Peugeot 908 HDi Nicolas Lapierre, Loic Duval, Olivier Panis 339

6 Lola B10/60 Nicolas Prost, Neel Jani, Jeroen Bleekemolen 338

7 Lola Aston Martin Vanina Icky, Bas Leinders, Maxime Martin 328

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!