By : Saksithi Chompaisal – Foreign Editor
ฟอร์ด มอเตอร์เปิดตัวสปอร์ตซีดานขนาดกลางสไตล์แฮทชแบ็คโฉมใหม่ล่าสุดรุ่น Fusion Sport ปี 2017 รูปทรงภายนอกออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตปราดเปรียว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาและมีเวอร์ชั่นไฮบริดเลือกเน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Fusion Sport สปอร์ตซีดานของฟอร์ดวางเครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่ รหัส EcoBoost ขนาด 2.7 ลิตรให้แรงม้าและแรงบิดมากกว่า ส่วนเวอร์ชั่นไฮบริดมีให้เลือก 2 รุ่น รหัส Fusion Hybrid และ Fusion Energi เป็นรุ่นที่ทำยอดขายได้สูงสุดในตลาดอเมริกาเหนือ
เครื่องยนต์ ขนาด 2.7 ลิตร แบบ วี-6 สูบเทอร์โบชาร์จ 325 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 350 ปอนด์-ฟุต เครื่องยนต์วางด้านหน้า ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
ส่วนรุ่นพลังงานไฮบริดวางเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นแบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เบนซิน ลดขนาดลงจาก 2.5 ลิตรในรุ่นก่อนหน้านี้ ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดสำหรับการขับขี่ในเมือง 47 ไมล์ต่อแกลลอน ความจุถังเชื้อเพลิงสูงสุด 17.5 แกลลอน
ส่วนแบตเตอรี่พัฒนาใหม่เป็นแบบลิเธี่ยม-ไอออนขนาด 7.6 กิโลวัตต์ น้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้านี้ สมรรถนะการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว สามารถทำระยะทางได้ 19 ไมล์และทำความเร็วสูงสุด 85 ไมล์ต่อชั่วโมง
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ SLA และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบ มัลติ-ลิ้งค์ โช๊คอัพและเหล็กกันโคลง ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนด้วยอิเล็กทรอนิคส์
รูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์ปราดเปรียวแบบรถสปอร์ต เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ แผงกระจังหน้าลวดลายรังผึ้ง ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้าย หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า ปลายท่อไอเสียรูปทรงกลมคู่ แยกซ้าย-ขวาผลิตจากสแตนเลส กระทะล้อลวดลาย 5 ก้าน
ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ต แผงหน้าปัดออกแบบเป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน เบาะที่นั่งปรับไฟฟ้า แป้นควบคุมคันเร่งและเบรกผลิตจากอะลูมิเนียม ติดตั้งระบบสั่งการด้วยเสียง SYNC3 พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบ My Ford Touch สั่งการผ่านจอมอนิเตอร์แบบสั่งการด้วยสัมผัส ระบบนำร่องผ่านดาวเทียมแบบสั่งการด้วยเสียงเป็นอุปกรณ์ให้เลือก
Ford Fusion Sport สปอร์ตซีดานโฉมใหม่รถยนต์ที่ออกแบบและพัฒนาเน้นประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมกับเสริมเทคโนโลยี่ด้านความปลอดภัยประกอบด้วยระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนเลน, ระบบปรับตั้งความเร็วคงที่แบบ Adaptive และระบบเซ็นเซอร์ช่วยถอยเข้าจอด
By : Saksithi Chompaisal - Foreign Editor
ฟอร์ด มอเตอร์เปิดตัวสปอร์ตซีดานขนาดกลางสไตล์แฮทชแบ็คโฉมใหม่ล่าสุดรุ่น Fusion Sport ปี 2017 รูปทรงภายนอกออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตปราดเปรียว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาและมีเวอร์ชั่นไฮบริดเลือกเน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Fusion Sport สปอร์ตซีดานของฟอร์ดวางเครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่ รหัส EcoBoost ขนาด 2.7 ลิตรให้แรงม้าและแรงบิดมากกว่า ส่วนเวอร์ชั่นไฮบริดมีให้เลือก 2 รุ่น รหัส Fusion Hybrid และ Fusion Energi เป็นรุ่นที่ทำยอดขายได้สูงสุดในตลาดอเมริกาเหนือ
เครื่องยนต์ ขนาด 2.7 ลิตร แบบ วี-6 สูบเทอร์โบชาร์จ 325 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 350 ปอนด์-ฟุต เครื่องยนต์วางด้านหน้า ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
ส่วนรุ่นพลังงานไฮบริดวางเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นแบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เบนซิน ลดขนาดลงจาก 2.5 ลิตรในรุ่นก่อนหน้านี้ ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดสำหรับการขับขี่ในเมือง 47 ไมล์ต่อแกลลอน ความจุถังเชื้อเพลิงสูงสุด 17.5 แกลลอน
ส่วนแบตเตอรี่พัฒนาใหม่เป็นแบบลิเธี่ยม-ไอออนขนาด 7.6 กิโลวัตต์ น้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้านี้ สมรรถนะการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว สามารถทำระยะทางได้ 19 ไมล์และทำความเร็วสูงสุด 85 ไมล์ต่อชั่วโมง
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ SLA และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบ มัลติ-ลิ้งค์ โช๊คอัพและเหล็กกันโคลง ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนด้วยอิเล็กทรอนิคส์
รูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์ปราดเปรียวแบบรถสปอร์ต เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ แผงกระจังหน้าลวดลายรังผึ้ง ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้าย หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า ปลายท่อไอเสียรูปทรงกลมคู่ แยกซ้าย-ขวาผลิตจากสแตนเลส กระทะล้อลวดลาย 5 ก้าน
ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ต แผงหน้าปัดออกแบบเป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน เบาะที่นั่งปรับไฟฟ้า แป้นควบคุมคันเร่งและเบรกผลิตจากอะลูมิเนียม ติดตั้งระบบสั่งการด้วยเสียง SYNC3 พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบ My Ford Touch สั่งการผ่านจอมอนิเตอร์แบบสั่งการด้วยสัมผัส ระบบนำร่องผ่านดาวเทียมแบบสั่งการด้วยเสียงเป็นอุปกรณ์ให้เลือก
Ford Fusion Sport สปอร์ตซีดานโฉมใหม่รถยนต์ที่ออกแบบและพัฒนาเน้นประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมกับเสริมเทคโนโลยี่ด้านความปลอดภัยประกอบด้วยระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนเลน, ระบบปรับตั้งความเร็วคงที่แบบ Adaptive และระบบเซ็นเซอร์ช่วยถอยเข้าจอด
