2017 SINGAPORE GRAND PRIX (Round 14) -พลิกล็อค แฮมิลตันทำแฮทช์ทริคหลังจากเฟอร์รารี่ชนสนั่นตั้งแต่สตาร์ท


By : C. Methas - Managing Editor

จากสังเวียนดวลล้อในยุโรปต่อเนื่องหลายสนามกลับมาสู่สนามในเอเซียอีกครั้งกับการหยุดสถิติคว้าโพล โพสิชั่นของ Hamilton สูงสุดในประวัติศาสตร์โดย Vettel ที่ศึก Singapore Grand Prix ซึ่งบรรดาเซียนเอฟ-วันออกมาฟันธง Ferrari คืนฟอร์มกลับมาคว้าแชมป์แน่หลังจาก Mercedes กวาดไป 2 สนามซ้อน

แต่สถานการณ์พลิกล็อคตั้งแต่ออกสตาร์ทเมื่อมีตัวแปรสำคัญอย่าง Verstappen ดาวรุ่งพุ่งแรงนักขับอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ออกสตาร์ทจากอันดับ 2 ซึ่งมีปัญหาไม่จบการแข่งขันหลายสนาม กลายเป็นต้นเหตุของการเฉี่ยวชนต่อเนื่องกัน 3 คันต้องออกจากสนามไปทั้งหมดโดย 2 ใน 3 คันเป็น Ferrari

ท้ายที่สุด Hamilton ที่มีโอกาสไม่มากนักกับแชมป์สนามนี้จากการออกสตาร์ทในอันดับ 5 กวาดแชมป์ไปสามสนามรวดตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังฤดูกาลและกลายเป็นโอกาสครั้งสำคัญกับการป้องกันแชมป์โลกปีนี้หลังจบสนามนี้โดยมีแต้มทิ้งห่างอยู่ 28 แต้ม

จากเหตุการณ์ดังกล่าวช่วงสตาร์ท Vettel เบี่ยงออกมาทางด้านซ้ายคาดว่าเพื่อมาบังไลน์ของ Verstappen ก่อนเข้าโค้งแรกซึ่งเป็นโค้งขวา จังหวะนี้ Raikkonen ที่ออกสตาร์ทจากอันดับ 4 กดคันเร่งขึ้นมาทางซ้ายขณะที่ Verstappen ออกตัวไม่ดีหรือชะลอความเร็วจังหวะที่ Vettel เบี่ยงมาทางซ้าย

ในที่สุดเฉี่ยวชนด้านหลังขวาของ Raikkonen จนรถหมุนและไปกระแทกกับรถของ Vettel แต่ Vettel ยังประคองต่อไปได้จนกระทั่งถึงโค้ง 3 รถหมุนอันเป็นผลจากการปะทะที่โค้งแรกจนต้องออกจากสนามไปเนื่องจากระบบระบายความร้อนเสียหาย

จากอุบัติเหตุดังกล่าวทางคณะกรรมการของ FIA ไม่ตัดสินลงโทษนักขับรายใดโดยได้ออกแถลงการณ์ว่าได้ตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดรวมคำให้การของตัวแทนของทีมและ Sebastian Vettel สรุปความว่า Kimi Raikkonen ออกสตาร์ทได้ดีมากและสามารถแซง Verstappen ขึ้นมาได้จนเกิดเฉี่ยวชนกันอย่างรุนแรงจนรถหมุนไปกระแทกรถของ Vettel

สำหรับสนามนี้นับว่าเป็นโชคช่วย Hamilton นอกจากคว้าแชมป์แล้วยังทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบ 56 ของการแข่งขัน 58 รอบ ส่วน Ricciardo ติดอันดับ 2 และ Bottas ตามมาในอันดับ 3

Daniel Riccardo ออกสตาร์ทจากอันดับ 3 รอดพ้นจากอุบัติเหตุช่วงแรกไปได้และไล่หลังต่อกรกับ Hamilton มาตลอดการแข่งขันจนท้ายที่สุดจบในอันดับ 2 ส่วน Valtteri Bottas สตาร์ทจากอันดับ 6 จบบนโพเดี้ยมในอันดับ 3 ส่วนทีม Toro Rosso ทำผลงานได้ดีที่สุดของปีนี้ด้วยการจบในอันดับ 4 โดย Carlos Sainz Jr. เก็บได้ 12 แต้ม

Recent posts

error: Content is protected !!