4 สัญญาณที่บอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์


ครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อไหร่ ? เป็นคำถามที่เราอยากเตือนให้ฉุกคิด และหันไปเปิดฝากระโปรงตรวจเช็กสภาพของแบตเตอรี่ในรถยนต์กันสักหน่อย ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานหรือไม่ เพราะเชื่อได้เลยว่ามีคนจำนวนไม่น้อยละเลยในการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ จนส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา หากรู้จักสังเกตอาการผิดปกติในการทำงานของระบบไฟฟ้าภายในรถ คงเดาไม่ยากเท่าไหร่ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร โดยเฉพาะผู้ที่ห่างเหินการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์มานานกว่า 1 – 2 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่ทุกประเภทจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1.5 ปีโดยเฉลี่ย ซึ่งมาดูกันว่า 4 สัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์มีอะไรบ้าง อย่ารอช้าเรามาดูอาการต่างๆ ไปพร้อมกันเลย

สตาร์ทยากผิดปกติอยู่บ่อยครั้ง

เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนง่ายๆ ที่รู้ได้ทันทีว่าแบตเตอรี่ใกล้ถึงเวลาปลดประจำการแล้วหรือยัง เมื่อเริ่มสตาร์ทติดยากมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่เป็นประจำ พร้อมกับเสียงดังแชะๆ ตลอดเวลาในขณะที่สตาร์ท รวมไปถึงเสียงเครื่องยนต์ทำงานช้าลงกว่าปกติ นั่นหมายความอาจถึงเวลาที่ต้องหาแบตเตอรี่ลูกใหม่และตรวจเช็กสภาพส่วนต่างๆ อย่างถี่ถ้วนให้ละเอียด เพราะปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในรถค่อนข้างสำคัญกับการทำงานของเครื่องยนต์

ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

เมื่อไหร่ที่วิทยุติดๆ ดับๆ หรือเสียงขาดๆ หายๆ รวมไปถึงกระจกที่เคยกดขึ้นและลงได้อย่างรวดเร็ว กลับช้าผิดปกติกว่าที่เคย รวมไปถึงระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สันนิษฐานได้ทันทีเลยว่า แบตเตอรี่ที่ใช้งานอยู่อาจจะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่เข้าไป เพื่อให้ระบบไฟฟ้ากลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง

ไฟหน้ารถไม่ค่อยสว่างเหมือนแต่ก่อน

เปลี่ยนหลอดไฟใหม่ก็แล้วแต่ทำไมไฟหน้ารถยังไม่สว่างเหมือนแต่ก่อนสักที ปัญหาเหล่านั้นอาจจะไม่เกี่ยวกับหลอดไฟที่ซื้อมา แต่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ของรถที่เสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ทำให้ไม่สามารถส่งพลังไฟฟ้าไปยังระบบได้อย่างเต็มที่

ถามตัวเองว่าเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

อย่างที่บอกไปข้างต้นโดยเฉลี่ยในการใช้งานของแบตเตอรี่แต่ละประเภท จะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลเป็นหลัก ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นโดยส่วนมากแล้วอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 1.5 ถึง 2 ปี หากระยะเวลามากกว่าปกติ แนะนำให้หาแบตเตอรี่มาเปลี่ยนได้แล้ว

เรื่องของระบบไฟฟ้าภายในรถเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางออกไปต่างจังหวัด ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นานหลายปี แนะนำให้หาศูนย์บริการดูแลเปลี่ยนลูกใหม่เข้าไป เพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

Credit url: https://www.cockpit.co.th/product_services/battery

ครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อไหร่ ? เป็นคำถามที่เราอยากเตือนให้ฉุกคิด และหันไปเปิดฝากระโปรงตรวจเช็กสภาพของแบตเตอรี่ในรถยนต์กันสักหน่อย ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานหรือไม่ เพราะเชื่อได้เลยว่ามีคนจำนวนไม่น้อยละเลยในการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ จนส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา หากรู้จักสังเกตอาการผิดปกติในการทำงานของระบบไฟฟ้าภายในรถ คงเดาไม่ยากเท่าไหร่ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร โดยเฉพาะผู้ที่ห่างเหินการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์มานานกว่า 1 - 2 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่ทุกประเภทจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1.5 ปีโดยเฉลี่ย ซึ่งมาดูกันว่า 4 สัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์มีอะไรบ้าง อย่ารอช้าเรามาดูอาการต่างๆ ไปพร้อมกันเลย

สตาร์ทยากผิดปกติอยู่บ่อยครั้ง

เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนง่ายๆ ที่รู้ได้ทันทีว่าแบตเตอรี่ใกล้ถึงเวลาปลดประจำการแล้วหรือยัง เมื่อเริ่มสตาร์ทติดยากมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่เป็นประจำ พร้อมกับเสียงดังแชะๆ ตลอดเวลาในขณะที่สตาร์ท รวมไปถึงเสียงเครื่องยนต์ทำงานช้าลงกว่าปกติ นั่นหมายความอาจถึงเวลาที่ต้องหาแบตเตอรี่ลูกใหม่และตรวจเช็กสภาพส่วนต่างๆ อย่างถี่ถ้วนให้ละเอียด เพราะปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในรถค่อนข้างสำคัญกับการทำงานของเครื่องยนต์

ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

เมื่อไหร่ที่วิทยุติดๆ ดับๆ หรือเสียงขาดๆ หายๆ รวมไปถึงกระจกที่เคยกดขึ้นและลงได้อย่างรวดเร็ว กลับช้าผิดปกติกว่าที่เคย รวมไปถึงระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สันนิษฐานได้ทันทีเลยว่า แบตเตอรี่ที่ใช้งานอยู่อาจจะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่เข้าไป เพื่อให้ระบบไฟฟ้ากลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง

ไฟหน้ารถไม่ค่อยสว่างเหมือนแต่ก่อน เปลี่ยนหลอดไฟใหม่ก็แล้วแต่ทำไมไฟหน้ารถยังไม่สว่างเหมือนแต่ก่อนสักที ปัญหาเหล่านั้นอาจจะไม่เกี่ยวกับหลอดไฟที่ซื้อมา แต่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ของรถที่เสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ทำให้ไม่สามารถส่งพลังไฟฟ้าไปยังระบบได้อย่างเต็มที่

ถามตัวเองว่าเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

อย่างที่บอกไปข้างต้นโดยเฉลี่ยในการใช้งานของแบตเตอรี่แต่ละประเภท จะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลเป็นหลัก ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นโดยส่วนมากแล้วอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 1.5 ถึง 2 ปี หากระยะเวลามากกว่าปกติ แนะนำให้หาแบตเตอรี่มาเปลี่ยนได้แล้ว

เรื่องของระบบไฟฟ้าภายในรถเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางออกไปต่างจังหวัด ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นานหลายปี แนะนำให้หาศูนย์บริการดูแลเปลี่ยนลูกใหม่เข้าไป เพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

Credit url: https://www.cockpit.co.th/product_services/battery

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!