By : C. Methas – Executive Editor
สปอร์ตต้นแบบระดับซูเปอร์คาร์จากแอสตัน มาร์ตินเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปีในรูปแบบของสปีดสเตอร์เปิดประทุน รหัสรุ่น CC100 Speedster การออกแบบและผลิตสร้างใช้เวลาน้อยกว่า 6 เดือนที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ของแอสตัน มาร์ตินที่เกย์ดอน, อังกฤษโดยร่วมมือกับ Multimatic Inc, ผู้ผลิตชิ้นส่วนภายใต้การควบคุมดูแลของ Special Project และเดวิด คิง ผู้อำนวยการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต
สปอร์ตสปีดสเตอร์ต้นแบบของแอสตัน มาร์ตินรูปทรงภายนอกยังคงเอกลักษณ์คลาสสิคของแอสตัน มาร์ตินซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพิเศษสืบสานตำนานจากสนามแข่งเลอ มังส์ที่แอสตัน มาร์ติน รุ่น DRB1 เคยสร้างชื่อเสียงเอาไว้ด้วยการคว้าแชมป์ในรายการแข่งขัน 1000 กิโลเมตรเมื่อปี 1959 ที่นัวบวร์กริ่ง เซอร์กิต เมื่อครั้งนั้นขับโดยนักแข่งฟอร์มูล่า-วันในตำนานแห่งอังกฤษ เซอร์สเตอริง มอสส์
CC100 Speedster ต้นแบบสปีดสเตอร์เปิดประทุนทางประธานอำนวยการของแอสตัน มาร์ตินได้ให้ชื่อเล่นว่า DBR100 เนื่องในโอกาสคว้าแชมป์เมื่อปี 1959
สปอร์ตต้นแบบเปิดประทุนรุ่น CC100 Speedster เป็นผลงานการออกแบบของ มาเร็ค รีชแมน ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบและไมลส์ เนิรน์เบอร์เกอร์ ประธานฝ่ายออกแบบรูปทรงภายนอก ซึ่งสปอร์ตต้นแบบรุ่นนี้ได้อาศัยเทคโนโลยี่ด้านวัสดุศาสตร์มีน้ำหนักเบากว่ารุ่น Vantage 400 กิโลกรัม ภายในห้องโดยสารและตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ผลิตชิ้นส่วนเป็นพิเศษจาก Multimatic Inc,
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบของสปอร์ตเปิดประทุนต้นแบบ ขนาด 2 ที่นั่งโค้งมนปราดเปรียวเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ แผงกระจังหน้าขนาดใหญ่เอกลักษณ์ของแอสตัน มาร์ติน กรอบไฟหน้ารูปทรงเรียวยาวเข้ารูปกับซุ้มล้อหน้า ไม่มีแผงกระจกหน้า ประตูเปิด-ปิดแบบเปิดขึ้นด้านบน กรอบไฟท้ายรูปทรงกลม ติดตั้งแผงจัดระเบียบอากาศใต้พื้นรถ ปลายท่อไอเสียแยกซ้าย-ขวารูปทรงไข่ผลิตจากสแตนเลส
ภายในห้องโดยสารออกแบบย้อนยุครถแข่งในอดีต พวงมาลัยแบบรถแข่งติดตั้งระบบชิฟท์เกียร์ผลิตจากคาร์บอนคอมโพรไซท์
เครื่องยนต์ ขนาด 6.0 ลิตร แบบ วี-12 สูบ เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากอะลูมิเนียม 565 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 457 ปอนด์-ฟุตที่ 5,500 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบถ่ายทอดกำลังอัตโนมัติ 6 จังหวะ มีระบบชิฟท์เกียร์ ระบบคลัทช์แบบแผ่นคู่
สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงภายในเวลา 4.2 วินาทีและความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิคส์ไว้ที่ 180 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 289.62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบเบรกแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดิสก์คู่หน้า แคลิเปอร์จำนวน 6 ลูกสูบ ดิสก์คู่หลัง แคลิเปอร์จำนวน 4 ลูกสูบ
By : C. Methas - Executive Editor
สปอร์ตต้นแบบระดับซูเปอร์คาร์จากแอสตัน มาร์ตินเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปีในรูปแบบของสปีดสเตอร์เปิดประทุน รหัสรุ่น CC100 Speedster การออกแบบและผลิตสร้างใช้เวลาน้อยกว่า 6 เดือนที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ของแอสตัน มาร์ตินที่เกย์ดอน, อังกฤษโดยร่วมมือกับ Multimatic Inc, ผู้ผลิตชิ้นส่วนภายใต้การควบคุมดูแลของ Special Project และเดวิด คิง ผู้อำนวยการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต
สปอร์ตสปีดสเตอร์ต้นแบบของแอสตัน มาร์ตินรูปทรงภายนอกยังคงเอกลักษณ์คลาสสิคของแอสตัน มาร์ตินซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพิเศษสืบสานตำนานจากสนามแข่งเลอ มังส์ที่แอสตัน มาร์ติน รุ่น DRB1 เคยสร้างชื่อเสียงเอาไว้ด้วยการคว้าแชมป์ในรายการแข่งขัน 1000 กิโลเมตรเมื่อปี 1959 ที่นัวบวร์กริ่ง เซอร์กิต เมื่อครั้งนั้นขับโดยนักแข่งฟอร์มูล่า-วันในตำนานแห่งอังกฤษ เซอร์สเตอริง มอสส์
CC100 Speedster ต้นแบบสปีดสเตอร์เปิดประทุนทางประธานอำนวยการของแอสตัน มาร์ตินได้ให้ชื่อเล่นว่า DBR100 เนื่องในโอกาสคว้าแชมป์เมื่อปี 1959
สปอร์ตต้นแบบเปิดประทุนรุ่น CC100 Speedster เป็นผลงานการออกแบบของ มาเร็ค รีชแมน ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบและไมลส์ เนิรน์เบอร์เกอร์ ประธานฝ่ายออกแบบรูปทรงภายนอก ซึ่งสปอร์ตต้นแบบรุ่นนี้ได้อาศัยเทคโนโลยี่ด้านวัสดุศาสตร์มีน้ำหนักเบากว่ารุ่น Vantage 400 กิโลกรัม ภายในห้องโดยสารและตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ผลิตชิ้นส่วนเป็นพิเศษจาก Multimatic Inc,
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบของสปอร์ตเปิดประทุนต้นแบบ ขนาด 2 ที่นั่งโค้งมนปราดเปรียวเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ แผงกระจังหน้าขนาดใหญ่เอกลักษณ์ของแอสตัน มาร์ติน กรอบไฟหน้ารูปทรงเรียวยาวเข้ารูปกับซุ้มล้อหน้า ไม่มีแผงกระจกหน้า ประตูเปิด-ปิดแบบเปิดขึ้นด้านบน กรอบไฟท้ายรูปทรงกลม ติดตั้งแผงจัดระเบียบอากาศใต้พื้นรถ ปลายท่อไอเสียแยกซ้าย-ขวารูปทรงไข่ผลิตจากสแตนเลส
ภายในห้องโดยสารออกแบบย้อนยุครถแข่งในอดีต พวงมาลัยแบบรถแข่งติดตั้งระบบชิฟท์เกียร์ผลิตจากคาร์บอนคอมโพรไซท์
เครื่องยนต์ ขนาด 6.0 ลิตร แบบ วี-12 สูบ เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากอะลูมิเนียม 565 แรงม้าที่ 6,750 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 457 ปอนด์-ฟุตที่ 5,500 รอบต่อนาที เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบถ่ายทอดกำลังอัตโนมัติ 6 จังหวะ มีระบบชิฟท์เกียร์ ระบบคลัทช์แบบแผ่นคู่
สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงภายในเวลา 4.2 วินาทีและความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิคส์ไว้ที่ 180 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 289.62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบเบรกแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดิสก์คู่หน้า แคลิเปอร์จำนวน 6 ลูกสูบ ดิสก์คู่หลัง แคลิเปอร์จำนวน 4 ลูกสูบ
