AUTOPAIR ได้รับเงินทุนสนับสนุน Pre-Series A จาก บริษัทซัมมิท ออโต บอดี้ อินดัสตรี้ จำกัด


เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านกิจการอู่ซ่อมรถของไทยไปสู่ระบบดิจิทัล
การระดมทุนรอบนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตภาคยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของไทยในเข้าลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ถือเป็นการจุดประกายกิจการออโต้เทคในประเทศไทย

ประเทศไทย วันที่ 9 มิถุนายน 2564 – Autopair Co. Ltd (Autopair) บริษัทค้าชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ในประเทศไทย ที่ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ (SaaS: Software-as-a-Services) ด้านการบริหารจัดการและการจัดซื้อ สำหรับกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการรระดมทุนสนับสนุน Pre-Series A จากบริษัท ซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย การเข้าลงทุนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัท ซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้ จำกัด ได้เข้าลงทุนในกิจการด้านเทคโนโลยียานยนต์

อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจไทยโดยมีอัตราส่วนรายได้สูงถึง 70% ของรายได้รวมจากภาคอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะตกต่ำลงซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด -19 แต่ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้ก็ได้รับการชดเชยจากความต้องการการบำรุงรักษารถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอู่ซ่อมรถอิสระกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้อย่างเต็มที่เนื่องจากพวกเขาต่างดำเนินการกิจการในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ในรูปแบบที่ยังล้าสมัยและขาดประสิทธิภาพ

นายกรกฤช จุฬางกูร ประธานบริษัทซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้จำกัด ได้เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้นำของกลุ่มผู้ประกอบการผลิตยานยนต์ในอาเซียน เราตระหนักถึงความจำเป็นในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างรวดเร็วและความต่อเนื่องของรูปแบบธุรกิจรุ่นใหม่ ผมเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในอนาคตที่ไม่แน่นอนในห้วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนในปัจจุบัน กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการร่วมเกาะไปกับกระแส disruption มากกว่าที่จะไปต่อต้าน Autopair ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมหลังการขายของกลุ่มยานยนต์เป็นรูปแบบดิจิทัลในปัจจุบันทำให้เราสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงภาคอุตสาหกรรมและระบบนิเวศเป็นอย่างดี เราเชื่อว่าเราสามารถช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานของ Autopair ให้ก้าวไปข้างหน้าได้”
สำหรับ Autopair ที่ซึ่งก่อนหน้านี้มุ่งเน้นการให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์แบบ B2B (แบบธุรกิจกับธุรกิจ)ใน 29 จังหวัดของไทย จะใช้เงินทุนใหม่นี้เพื่อช่วยให้อู่ซ่อมรถอิสระประมาณ 1,000 แห่ง เปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ โดยการนำโซลูชั่น SaaS มาขยายขนาดและปรับใช้ ทำให้ Autopair สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการจัดซื้อและการบริหารค่าใช้จ่ายของอู่ซ่อมรถเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

นายสันติ วจนพานิช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของ Autopair ได้เปิดเผยว่า “มูลค่าตลาดสำหรับการบำรุงรักษารถยนต์ของอู่ซ่อมรถ ถูกประมาณไว้ที่มากกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยปกติอู่ซ่อมรถในรูปแบบกลุ่มบริษัทจะครองส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 10 แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในขณะที่อู่ซ่อมรถอิสระที่ครองส่วนแบ่งร้อยละ 80 ในปัจจุบันจะค่อย ๆลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาจะยังสามารถแข่งขันได้หากพวกเขาสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ทางเทคโนโลยี มันจึงเป็นพันธกิจของ Autopair ในการจัดหาเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของพวกเขา การสนับสนุนจากบริษัท ซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้ จำกัด เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของพันธกิจนี้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลังการขายของกลุ่มยานยนต์ของไทยไปสู่ยุคดิจิทัล”

แพลตฟอร์มการซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ของ และแพลตฟอร์มการบริหารอู่ซ่อมรถแบบใหม่ ของ Autopair เป็นหัวใจสำคัญของความพยายามในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบดิจิทัล แพลตฟอร์มตัวแรกทำหน้าที่เป็นคลังชิ้นส่วนเสมือนจริงและกิจการค้าส่งที่มีส่วนลด ตลอดจนการบริการจัดส่งชิ้นส่วนที่ปราศจากการสัมผัสภายใน 90 นาทีทั่วประเทศไทยในราคาที่แข่งขันได้ เป็นการช่วยให้อู่ซ่อมรถได้มุ่งเน้นไปที่การให้บริการบำรุงรักษาได้อย่างเต็มที่แทนที่จะเสียเวลาไปกับการจัดหาชิ้นส่วน

ในขณะที่แพลตฟอร์มตัวหลัง ซึ่งเป็นโซลูชั่น SaaS ใหม่ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจัดวางนัดหมาย ติดตามและจัดการประสิทธิภาพการทำงาน อัตรากำไร ตลอดจนการบริการเครื่องมือในการบริหารจัดการด้านสินค้าคงคลัง และด้านลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เพื่อการประมาณการค่าใช้จ่ายและออกเอกสารให้แก่ลูกค้า ด้วยการติดตั้งใช้งานโซลูชั่นนี้ที่ไม่ต้องมีสัญญาหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ Autopair หวังว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย จะช่วยให้การอู่ซ่อมรถอิสระต่าง ๆ ยังสามารถแข่งขันกับอู่ซ่อมรถที่เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินการแบบออนไลน์ได้

Autopair ซึ่งมีอัตราการเติบโตประจำปี (CGAR) ที่สูงกว่า 385 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้ให้บริการกับอู่ซ่อมรถทั่วประเทศไทยด้วยคู่ค้าชั้นนำในอุตสาหกรรม อาทิ Bridgestone Corporation, Toyo Tyres, Nitto Automotive Inc. และ Nankang Tyres บริษัทฯ มุ่งหวังในการเร่งเป้าหมายในการให้บริการแก่อู่ซ่อมรถอิสระทั่วประเทศไทยให้ได้ถึง 10,000 แห่ง ภายในปี 2567 และวางแผนที่จะขยายไปยังตลาดยานยนต์ที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซียและมาเลเซีย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Autopair โปรดไปที่ www.autopair.co.th

เกี่ยวกับ Autopair

Autopair ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2561 โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมหลังการขายกลุ่มยานยนต์ไปสู่รูปแบบดิจิทัล โดยใช้แพลตฟอร์มการสั่งชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ และเครื่องมือดิจิทัลในการบริหารอู่ซ่อมรถ บริษัทฯ ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่มีคุณลักษณะโดดเด่น เช่น “ระบบจัดซื้ออัจฉริยะ” (Smart Procurement) และ “ระบบอู่ซ่อมรถอัจฉริยะ” (Smart Workshop) ช่วยให้อู่ซ่อมรถทำงานแบบเป็นระบบดิจิทัล จัดการบริการงานได้อย่างคล่องตัวเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้ประโยชน์จากต้นทุนในราคาขายส่งและการจัดส่งชิ้นส่วนที่รวดเร็ว ปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนสินค้า (SKUs) รูปแบบเสมือน มากกว่า 50,000 รายการ และให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของบริษัทใน 29 จังหวัดของไทย

เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านกิจการอู่ซ่อมรถของไทยไปสู่ระบบดิจิทัล การระดมทุนรอบนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตภาคยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของไทยในเข้าลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ถือเป็นการจุดประกายกิจการออโต้เทคในประเทศไทย

ประเทศไทย วันที่ 9 มิถุนายน 2564 - Autopair Co. Ltd (Autopair) บริษัทค้าชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ในประเทศไทย ที่ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ (SaaS: Software-as-a-Services) ด้านการบริหารจัดการและการจัดซื้อ สำหรับกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการรระดมทุนสนับสนุน Pre-Series A จากบริษัท ซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย การเข้าลงทุนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัท ซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้ จำกัด ได้เข้าลงทุนในกิจการด้านเทคโนโลยียานยนต์

อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจไทยโดยมีอัตราส่วนรายได้สูงถึง 70% ของรายได้รวมจากภาคอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะตกต่ำลงซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด -19 แต่ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้ก็ได้รับการชดเชยจากความต้องการการบำรุงรักษารถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอู่ซ่อมรถอิสระกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้อย่างเต็มที่เนื่องจากพวกเขาต่างดำเนินการกิจการในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ในรูปแบบที่ยังล้าสมัยและขาดประสิทธิภาพ

นายกรกฤช จุฬางกูร ประธานบริษัทซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้จำกัด ได้เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้นำของกลุ่มผู้ประกอบการผลิตยานยนต์ในอาเซียน เราตระหนักถึงความจำเป็นในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างรวดเร็วและความต่อเนื่องของรูปแบบธุรกิจรุ่นใหม่ ผมเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในอนาคตที่ไม่แน่นอนในห้วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนในปัจจุบัน กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการร่วมเกาะไปกับกระแส disruption มากกว่าที่จะไปต่อต้าน Autopair ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมหลังการขายของกลุ่มยานยนต์เป็นรูปแบบดิจิทัลในปัจจุบันทำให้เราสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงภาคอุตสาหกรรมและระบบนิเวศเป็นอย่างดี เราเชื่อว่าเราสามารถช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานของ Autopair ให้ก้าวไปข้างหน้าได้” สำหรับ Autopair ที่ซึ่งก่อนหน้านี้มุ่งเน้นการให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์แบบ B2B (แบบธุรกิจกับธุรกิจ)ใน 29 จังหวัดของไทย จะใช้เงินทุนใหม่นี้เพื่อช่วยให้อู่ซ่อมรถอิสระประมาณ 1,000 แห่ง เปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ โดยการนำโซลูชั่น SaaS มาขยายขนาดและปรับใช้ ทำให้ Autopair สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการจัดซื้อและการบริหารค่าใช้จ่ายของอู่ซ่อมรถเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

นายสันติ วจนพานิช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของ Autopair ได้เปิดเผยว่า “มูลค่าตลาดสำหรับการบำรุงรักษารถยนต์ของอู่ซ่อมรถ ถูกประมาณไว้ที่มากกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยปกติอู่ซ่อมรถในรูปแบบกลุ่มบริษัทจะครองส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 10 แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในขณะที่อู่ซ่อมรถอิสระที่ครองส่วนแบ่งร้อยละ 80 ในปัจจุบันจะค่อย ๆลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาจะยังสามารถแข่งขันได้หากพวกเขาสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ทางเทคโนโลยี มันจึงเป็นพันธกิจของ Autopair ในการจัดหาเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของพวกเขา การสนับสนุนจากบริษัท ซัมมิทออโต้บอดี้อินดัสตรี้ จำกัด เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของพันธกิจนี้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลังการขายของกลุ่มยานยนต์ของไทยไปสู่ยุคดิจิทัล”

แพลตฟอร์มการซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ของ และแพลตฟอร์มการบริหารอู่ซ่อมรถแบบใหม่ ของ Autopair เป็นหัวใจสำคัญของความพยายามในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบดิจิทัล แพลตฟอร์มตัวแรกทำหน้าที่เป็นคลังชิ้นส่วนเสมือนจริงและกิจการค้าส่งที่มีส่วนลด ตลอดจนการบริการจัดส่งชิ้นส่วนที่ปราศจากการสัมผัสภายใน 90 นาทีทั่วประเทศไทยในราคาที่แข่งขันได้ เป็นการช่วยให้อู่ซ่อมรถได้มุ่งเน้นไปที่การให้บริการบำรุงรักษาได้อย่างเต็มที่แทนที่จะเสียเวลาไปกับการจัดหาชิ้นส่วน

ในขณะที่แพลตฟอร์มตัวหลัง ซึ่งเป็นโซลูชั่น SaaS ใหม่ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจัดวางนัดหมาย ติดตามและจัดการประสิทธิภาพการทำงาน อัตรากำไร ตลอดจนการบริการเครื่องมือในการบริหารจัดการด้านสินค้าคงคลัง และด้านลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เพื่อการประมาณการค่าใช้จ่ายและออกเอกสารให้แก่ลูกค้า ด้วยการติดตั้งใช้งานโซลูชั่นนี้ที่ไม่ต้องมีสัญญาหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ Autopair หวังว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย จะช่วยให้การอู่ซ่อมรถอิสระต่าง ๆ ยังสามารถแข่งขันกับอู่ซ่อมรถที่เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินการแบบออนไลน์ได้

Autopair ซึ่งมีอัตราการเติบโตประจำปี (CGAR) ที่สูงกว่า 385 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้ให้บริการกับอู่ซ่อมรถทั่วประเทศไทยด้วยคู่ค้าชั้นนำในอุตสาหกรรม อาทิ Bridgestone Corporation, Toyo Tyres, Nitto Automotive Inc. และ Nankang Tyres บริษัทฯ มุ่งหวังในการเร่งเป้าหมายในการให้บริการแก่อู่ซ่อมรถอิสระทั่วประเทศไทยให้ได้ถึง 10,000 แห่ง ภายในปี 2567 และวางแผนที่จะขยายไปยังตลาดยานยนต์ที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซียและมาเลเซีย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Autopair โปรดไปที่ www.autopair.co.th

เกี่ยวกับ Autopair

Autopair ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2561 โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมหลังการขายกลุ่มยานยนต์ไปสู่รูปแบบดิจิทัล โดยใช้แพลตฟอร์มการสั่งชิ้นส่วนยานยนต์ออนไลน์ และเครื่องมือดิจิทัลในการบริหารอู่ซ่อมรถ บริษัทฯ ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่มีคุณลักษณะโดดเด่น เช่น “ระบบจัดซื้ออัจฉริยะ” (Smart Procurement) และ “ระบบอู่ซ่อมรถอัจฉริยะ” (Smart Workshop) ช่วยให้อู่ซ่อมรถทำงานแบบเป็นระบบดิจิทัล จัดการบริการงานได้อย่างคล่องตัวเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้ประโยชน์จากต้นทุนในราคาขายส่งและการจัดส่งชิ้นส่วนที่รวดเร็ว ปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนสินค้า (SKUs) รูปแบบเสมือน มากกว่า 50,000 รายการ และให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของบริษัทใน 29 จังหวัดของไทย

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!