CADILLAC ATS-สปอร์ตซีดานฉีกแนวคิดเสริมเทคโนโลยี่ขั้นสูง ระบบขับหลัง น้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่ม


By : C. Methas – Executive Editor

สปอร์ตซีดาน รุ่น ATS เปิดตัวที่มหกรรมแสดงรถยนต์ดีทรอยท์ มอเตอร์โชว์อีกแนวคิดของค่ายรถอเมริกันที่วางระบบขับเคลื่อนล้อหลังและลดน้ำหนักเป็นพิเศษได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่โดยอาศัยเทคโนโลยี่ด้านวัสดุศาสตร์รุ่น ปี 2013

เครื่องยนต์พัฒนาเน้นประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ แต่ให้พละกำลังมากกว่า ระบบถ่ายทอดกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ สปอร์ตซีดานระดับหรูขนาดคอมแพคท์ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่มี่น้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มเดียวกัน โดยมีน้ำหนักต่ำกว่า 3,400 ปอนด์หรือ 1,542 กิโลกรัม

เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงมีให้เลือก 2 ขนาดและเครื่องยนต์แบบ วี-6 สูบสำหรับตลาดในอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์พัฒนาเน้นน้ำหนักเบาเพื่อสมรรถนะและประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิงสูงสุด พัฒนาและออกแบบสำหรับวางตลาดทั่วโลกและได้ผ่านการทดสอบที่สนามนัวบวร์กริ่งในเยอรมนีและสนามอื่น ๆ ทั่วโลก

เครื่องยนต์ที่เน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เสริมเทคโนโลยี่ด้านความปลอดภัย, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีกว่าและติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายไว้ครบครัน

เครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียงติดเทอร์โบชาร์จ สามารถขับแรงม้าสูงสุด 270 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 260 ปอนด์-ฟุตที่ 2,400 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตรเท่ากับ 135.1 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้พละกำลังต่อน้ำหนัก 12.6 ปอนด์ต่อแรงม้า

ทางแคดิลแลคกล่าวว่า เครื่องยนต์รุ่นนี้ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 16 % เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรุ่นพื้นฐานและในรุ่นท็อปเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ เกียธรรมดา 6 สปีด มีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดให้เลือก สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงต่ำกว่า 7 วินาที

เครื่องยนต์พื้นฐานให้เลือก แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร รีดแรงม้าสูงสุด 200 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 188 ปอนด์-ฟุต และเครื่องยนต์ แบบ วี-6 สูบ ขนาด 3.6 ลิตร รีดแรงม้าได้ 318 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 267 ปอนด์-ฟุต

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า แบบแมคเฟอร์สัน สตรัท Magnetic Ride Control และเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบ 5-ลิ้งค์ โช๊คอัพและ Magnetic Ride Control ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน ระบบเบรกของ Brembo

แผงกระจังหน้าแนวนอนแผงสปอยเลอร์หน้าที่มีช่องดักอากาศแยกซ้าย-ขวามีไฟแบบ LED กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียว กรอบไฟท้ายรูปทรงเหลี่ยมแนวตั้ง ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว ติดสัญญาณไฟเบรกดวงที่สาม

ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ ระบบปรับตั้งความเร็วคงที่ขณะเดินทางไกล ระบบโทรศัพท์บลูธูทและชุดควบคุมระบบเครื่องเสียงของ Bose

ตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้เสริมด้วยลวดลายไม้ คอนโซลกลางมีจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นสั่งการด้วยสัมผัส จอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ระบบนำร่องผ่านดาวเทียมให้ความละเอียดสูง มีช่องเสียบ iPod/USB และ SD Card พร้อมกับระบบ Head-up display

พัฒนาเน้นให้เป็นรถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ระบบกันสะเทือนควบคุมปรับระดับอัตโนมัติ โครงสร้างตัวถังแบบนิรภัย ติดตั้งระบบวิทยุผ่านดาวเทียม, ระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนช่องทางและระบบกล้องช่วยถอยเข้าจอดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

By : C. Methas - Executive Editor

สปอร์ตซีดาน รุ่น ATS เปิดตัวที่มหกรรมแสดงรถยนต์ดีทรอยท์ มอเตอร์โชว์อีกแนวคิดของค่ายรถอเมริกันที่วางระบบขับเคลื่อนล้อหลังและลดน้ำหนักเป็นพิเศษได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่โดยอาศัยเทคโนโลยี่ด้านวัสดุศาสตร์รุ่น ปี 2013

เครื่องยนต์พัฒนาเน้นประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ แต่ให้พละกำลังมากกว่า ระบบถ่ายทอดกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ สปอร์ตซีดานระดับหรูขนาดคอมแพคท์ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่มี่น้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มเดียวกัน โดยมีน้ำหนักต่ำกว่า 3,400 ปอนด์หรือ 1,542 กิโลกรัม

เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงมีให้เลือก 2 ขนาดและเครื่องยนต์แบบ วี-6 สูบสำหรับตลาดในอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์พัฒนาเน้นน้ำหนักเบาเพื่อสมรรถนะและประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิงสูงสุด พัฒนาและออกแบบสำหรับวางตลาดทั่วโลกและได้ผ่านการทดสอบที่สนามนัวบวร์กริ่งในเยอรมนีและสนามอื่น ๆ ทั่วโลก

เครื่องยนต์ที่เน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เสริมเทคโนโลยี่ด้านความปลอดภัย, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีกว่าและติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายไว้ครบครัน

เครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียงติดเทอร์โบชาร์จ สามารถขับแรงม้าสูงสุด 270 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 260 ปอนด์-ฟุตที่ 2,400 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตรเท่ากับ 135.1 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้พละกำลังต่อน้ำหนัก 12.6 ปอนด์ต่อแรงม้า

ทางแคดิลแลคกล่าวว่า เครื่องยนต์รุ่นนี้ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 16 % เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรุ่นพื้นฐานและในรุ่นท็อปเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ เกียธรรมดา 6 สปีด มีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดให้เลือก สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงต่ำกว่า 7 วินาที

เครื่องยนต์พื้นฐานให้เลือก แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร รีดแรงม้าสูงสุด 200 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 188 ปอนด์-ฟุต และเครื่องยนต์ แบบ วี-6 สูบ ขนาด 3.6 ลิตร รีดแรงม้าได้ 318 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 267 ปอนด์-ฟุต

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า แบบแมคเฟอร์สัน สตรัท Magnetic Ride Control และเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบ 5-ลิ้งค์ โช๊คอัพและ Magnetic Ride Control ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน ระบบเบรกของ Brembo

แผงกระจังหน้าแนวนอนแผงสปอยเลอร์หน้าที่มีช่องดักอากาศแยกซ้าย-ขวามีไฟแบบ LED กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียว กรอบไฟท้ายรูปทรงเหลี่ยมแนวตั้ง ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว ติดสัญญาณไฟเบรกดวงที่สาม

ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ ระบบปรับตั้งความเร็วคงที่ขณะเดินทางไกล ระบบโทรศัพท์บลูธูทและชุดควบคุมระบบเครื่องเสียงของ Bose

ตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้เสริมด้วยลวดลายไม้ คอนโซลกลางมีจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นสั่งการด้วยสัมผัส จอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ระบบนำร่องผ่านดาวเทียมให้ความละเอียดสูง มีช่องเสียบ iPod/USB และ SD Card พร้อมกับระบบ Head-up display

พัฒนาเน้นให้เป็นรถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ระบบกันสะเทือนควบคุมปรับระดับอัตโนมัติ โครงสร้างตัวถังแบบนิรภัย ติดตั้งระบบวิทยุผ่านดาวเทียม, ระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนช่องทางและระบบกล้องช่วยถอยเข้าจอดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!