Ford เผยเคล็ดลับความสนุกสุดเหวี่ยงบนรถ SUV ในวันหยุดสุดสัปดาห์


การได้ขับรถออกไปเดินทางท่องเที่ยวเป็นความรู้สึกที่ยากจะหาอะไรมาเทียบได้ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการขับรถบนเส้นทางออฟโรด ขับเล่นออกไปนอกเมือง หรือขับรถลุยป่าไปตั้งแคมป์ และนอนดูดาวข้างกองไฟ สิ่งที่คุณมองหาคือความผ่อนคลายจากการทำงานหนัก และช่วงเวลาสุดพิเศษที่จะอยู่กับคุณตลอดไป

การเดินทางที่ยอดเยี่ยมต้องมาพร้อมยานพาหนะที่ใช่ การขับรถบนเส้นทางแบบออฟโรด โดยขาดความเข้าใจถึงวิธีการขับขี่ในสภาพพื้นผิวที่แตกต่างกันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ Ford จึงมีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเดินทางในช่วงวันหยุดได้อย่างสนุกสนาน และฝ่าฟันทุกเส้นทางอย่างมั่นใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทาง

สัมผัสเม็ดทรายด้วยล้อรถของคุณ

เมื่อขับรถบนพื้นทราย สิ่งสำคัญคือการคงแรงเคลื่อนของรถ หากล้อรถหยุดหมุน หรือความเร็วรถตกลงมากจนเกินไป รถก็อาจติดหล่มได้ โหมดขับเคลื่อนบนพื้นผิวทราย (Sand mode) ในระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Terrain Management System) ของ Ford Everest ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้ ด้วยการปรับเกียร์สูงให้ช้าลง และลงเกียร์ต่ำให้เร็วขึ้น เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ไว้ในระดับสูง ลดการแทรกแซง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) เพื่อให้ล้อรถหมุนอยู่ตลอดเวลา และคันเร่งจะมีความไวมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณขับขี่บนพื้นทรายได้อย่างราบรื่น

บุกตะลุยโคลน

บนพื้นผิวที่ลื่น เช่น โคลนหรือเลน สิ่งสำคัญคือการควบคุมรถเพื่อป้องกันการลื่นไถล โหมดขับเคลื่อนบนโคลน และหญ้า ของ Ford Everest จะลดความไวของคันเร่ง พร้อมเปลี่ยนเกียร์สูงให้เร็วขึ้นและปรับลดเกียร์ต่ำช้าลง เพื่อป้องกันรอบเครื่องสูงเกินไป ทั้งยังสามารถใช้ควบคู่กับระบบล็อคเฟืองท้าย (Electronic Locking Rear Differential) เพื่อล็อคเพลาท้ายเมื่อจำเป็น นอกจากนี้ ระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด (Torque on Demand) ของ Ford Everest ยังช่วยส่งแรงบิดไปยังแต่ละล้อ เพื่อให้คุณควบคุมรถ และขับขี่ได้อย่างมั่นใจแม้บนสภาพพื้นผิวที่ลื่นที่สุด

ชื่นชมหมู่ดาว

มีคำกล่าวว่า การมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเปรียบเสมือนการสบตากับจักรวาล และยังเป็นหนึ่งในการสิ้นสุดวันแห่งการเดินทางออกนอกเมืองอย่างสมบุกสมบันที่ดีที่สุด หลังคาของ Ford Everest แบบ Panoramic Moon Roof ครอบคลุมเนื้อที่ตั้งแต่เบาะนั่งแถวแรกและแถวที่สอง เปรียบได้กับโทรทัศน์จอไวด์สกรีนขนาด 46 นิ้ว ให้คุณนอนดูดาวอย่างเต็มอิ่ม

เพลิดเพลินไปกับเสียงแห่งธรรมชาติ

ในช่วงเวลารถติด ไม่มีอะไรจะเพิ่มความน่าหงุดหงิดได้เท่ากับเสียงแผดดังของแตรรถ เสียงอึกทึกจากข้างถนนหรือไซต์งานก่อสร้าง แต่อย่างน้อยชีวิตก็ไม่ได้ติดหนึบอยู่บนถนนตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนของ Ford Everest จะช่วยให้การขับรถในเมืองเงียบสงบลง และสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่เมื่อคุณขับรถไปลุยป่า อย่าลืมลดกระจกลงและเพลิดเพลินไปกับเสียงของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสายลมบนยอดเขาหรือเสียงสายน้ำไหล ในขณะที่ลุยน้ำไปด้วยกันกับ Ford Everest ที่สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร

ตื่นเต้นเร้าใจบนทางออฟโรด

เส้นทางวิบากมักทำให้การเดินทางน่าจดจำ เมื่อต้องเจอถนนที่ขรุขระ โดยเฉพาะบนเส้นทางแบบออฟโรด คุณควรทำความคุ้นเคยกับขนาดของรถ สมรรถนะ และที่สำคัญที่สุดคือความสูงจากพื้นรถ เมื่อคุณแน่ใจใน 3 เรื่องนี้แล้ว คุณก็พร้อมออกเดินทางไปสมบุกสมบันได้อย่างสุดเหวี่ยง ถ้าคุณขับ Ford Everest คุณจะได้เปรียบด้วยความสูงจากพื้นรถที่มากถึง 225 มิลลิเมตร ช่วยให้คุณขับปีนข้ามหิน และเส้นทางขรุขระไปได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าเส้นทางจะท้าทายเพียงใดก็ตาม

การได้ขับรถออกไปเดินทางท่องเที่ยวเป็นความรู้สึกที่ยากจะหาอะไรมาเทียบได้ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการขับรถบนเส้นทางออฟโรด ขับเล่นออกไปนอกเมือง หรือขับรถลุยป่าไปตั้งแคมป์ และนอนดูดาวข้างกองไฟ สิ่งที่คุณมองหาคือความผ่อนคลายจากการทำงานหนัก และช่วงเวลาสุดพิเศษที่จะอยู่กับคุณตลอดไป

การเดินทางที่ยอดเยี่ยมต้องมาพร้อมยานพาหนะที่ใช่ การขับรถบนเส้นทางแบบออฟโรด โดยขาดความเข้าใจถึงวิธีการขับขี่ในสภาพพื้นผิวที่แตกต่างกันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ Ford จึงมีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเดินทางในช่วงวันหยุดได้อย่างสนุกสนาน และฝ่าฟันทุกเส้นทางอย่างมั่นใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทาง

สัมผัสเม็ดทรายด้วยล้อรถของคุณ

เมื่อขับรถบนพื้นทราย สิ่งสำคัญคือการคงแรงเคลื่อนของรถ หากล้อรถหยุดหมุน หรือความเร็วรถตกลงมากจนเกินไป รถก็อาจติดหล่มได้ โหมดขับเคลื่อนบนพื้นผิวทราย (Sand mode) ในระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Terrain Management System) ของ Ford Everest ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้ ด้วยการปรับเกียร์สูงให้ช้าลง และลงเกียร์ต่ำให้เร็วขึ้น เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ไว้ในระดับสูง ลดการแทรกแซง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) เพื่อให้ล้อรถหมุนอยู่ตลอดเวลา และคันเร่งจะมีความไวมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณขับขี่บนพื้นทรายได้อย่างราบรื่น

บุกตะลุยโคลน

บนพื้นผิวที่ลื่น เช่น โคลนหรือเลน สิ่งสำคัญคือการควบคุมรถเพื่อป้องกันการลื่นไถล โหมดขับเคลื่อนบนโคลน และหญ้า ของ Ford Everest จะลดความไวของคันเร่ง พร้อมเปลี่ยนเกียร์สูงให้เร็วขึ้นและปรับลดเกียร์ต่ำช้าลง เพื่อป้องกันรอบเครื่องสูงเกินไป ทั้งยังสามารถใช้ควบคู่กับระบบล็อคเฟืองท้าย (Electronic Locking Rear Differential) เพื่อล็อคเพลาท้ายเมื่อจำเป็น นอกจากนี้ ระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด (Torque on Demand) ของ Ford Everest ยังช่วยส่งแรงบิดไปยังแต่ละล้อ เพื่อให้คุณควบคุมรถ และขับขี่ได้อย่างมั่นใจแม้บนสภาพพื้นผิวที่ลื่นที่สุด

ชื่นชมหมู่ดาว

มีคำกล่าวว่า การมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเปรียบเสมือนการสบตากับจักรวาล และยังเป็นหนึ่งในการสิ้นสุดวันแห่งการเดินทางออกนอกเมืองอย่างสมบุกสมบันที่ดีที่สุด หลังคาของ Ford Everest แบบ Panoramic Moon Roof ครอบคลุมเนื้อที่ตั้งแต่เบาะนั่งแถวแรกและแถวที่สอง เปรียบได้กับโทรทัศน์จอไวด์สกรีนขนาด 46 นิ้ว ให้คุณนอนดูดาวอย่างเต็มอิ่ม

เพลิดเพลินไปกับเสียงแห่งธรรมชาติ

ในช่วงเวลารถติด ไม่มีอะไรจะเพิ่มความน่าหงุดหงิดได้เท่ากับเสียงแผดดังของแตรรถ เสียงอึกทึกจากข้างถนนหรือไซต์งานก่อสร้าง แต่อย่างน้อยชีวิตก็ไม่ได้ติดหนึบอยู่บนถนนตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนของ Ford Everest จะช่วยให้การขับรถในเมืองเงียบสงบลง และสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่เมื่อคุณขับรถไปลุยป่า อย่าลืมลดกระจกลงและเพลิดเพลินไปกับเสียงของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสายลมบนยอดเขาหรือเสียงสายน้ำไหล ในขณะที่ลุยน้ำไปด้วยกันกับ Ford Everest ที่สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร

ตื่นเต้นเร้าใจบนทางออฟโรด

เส้นทางวิบากมักทำให้การเดินทางน่าจดจำ เมื่อต้องเจอถนนที่ขรุขระ โดยเฉพาะบนเส้นทางแบบออฟโรด คุณควรทำความคุ้นเคยกับขนาดของรถ สมรรถนะ และที่สำคัญที่สุดคือความสูงจากพื้นรถ เมื่อคุณแน่ใจใน 3 เรื่องนี้แล้ว คุณก็พร้อมออกเดินทางไปสมบุกสมบันได้อย่างสุดเหวี่ยง ถ้าคุณขับ Ford Everest คุณจะได้เปรียบด้วยความสูงจากพื้นรถที่มากถึง 225 มิลลิเมตร ช่วยให้คุณขับปีนข้ามหิน และเส้นทางขรุขระไปได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าเส้นทางจะท้าทายเพียงใดก็ตาม

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!