INDIA-ดินแดนแห่งวัฒนธรรมความหลายหลาก ต้นกำเนิดของศาสนาหลายศาสนาและหลายนิกาย


By : C. Methas – Managing Editor

ประเทศอินเดียหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India) ตั้งอยู่ในเอเชียใต้ เป็นประเทศที่ประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีประชากรมากกว่า 1 พันล้านคน และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีภาษาพูดรวมกันประมาณ 800 ภาษา

ประชากรอินเดียมีประมาณ 1,000 ล้านคน โดยมีเชื้อชาติ อินโด-อารยัน ร้อยละ 72 ดราวิเดียน ร้อยละ 25 มองโกลอยด์ ร้อยละ 2 และอื่น ๆ ร้อยละ 1

ชาวอินเดียมีความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์และวัฒนธรรมอย่างมากมาย ส่งผลให้มีสถานทางศาสนาเป็ฯจำนวนมากเนื่องจากเป็นต้นกำเนิดของศาสนาหลายศาสนาและหลายนิกาย

ปัจจุบันสถาปัตยกรรมโบราณได้รับการอนุรักษ์ไว้มากมาย มีภาษาหลักใช้พูดถึง 16 ภาษา เช่น ภาษาฮินดี ภาษาอังกฤษ ภาษาเบงกาลี ภาษาอูรดู ฯลฯ และมีภาษาถิ่นมากกว่า 100 ภาษา

ภาษาฮินดี เป็นภาษาประจำชาติ เพราะคนอินเดียกว่าร้อยละ 30 ใช้ภาษานี้ คนอินเดียที่อาศัยอยู่รัฐทางตอนเหนือและรัฐทางตอนใต้นอกจากจะใช้ภาษาที่แตกต่างกันแล้ว การแต่งกาย อาหารแตกต่างกันออกไปด้วย

อาณาเขตของประเทศอินเดียทางทิศเหนือติดกับจีน เนปาล และภูฏาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับปากีสถาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดพม่า ทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้จรดมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันออกติดบังกลาเทศ ใหญ่กว่าไทยประมาณ 6 เท่า มีพื้นที่ 3,287,590 ตารางกิโลเมตร

ประวัติศาสตร์ของประเทศอินเดียมีความเป็นมาอันยาวนาน และมีอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมากต่อประเทศต่าง ๆ กำเนิดของอินเดียประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสต์กาล ชาวดราวิเดียน (Dravidian) และชาวอารยัน (Aryan) เริ่มกำเนิดอารยธรรมต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำสินธุ

ต่อมาในสมัยอาณาจักรเมารยะ ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล มีดินแดนในตอนเหนือตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำสินธุจรดอ่าวเบงกอล พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างความรุ่งเรืองในการปกครอง ตลอดจนการสนับสนุนการเผยแพร่พุทธศาสนาในสมัยราชวงศ์โมกุล เป็นสมัยที่มีการแพร่ขยายอิทธิพล วัฒนธรรมโมกุลอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม

อังกฤษได้เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอินเดีย ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยได้เข้ามาค้าขายพร้อม ๆ กับครอบครองดินแดนและแทรกแซงในการเมืองท้องถิ่น จนทำให้อินเดียตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ

ต่อมาได้เกิดการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของอังกฤษ และได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1947 และได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดียในปี ค.ศ. 1950
เศรษฐกิจ การขยายตัวของผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น มีการขยายตัวอย่างมาก และมีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก ในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี่สื่อสารข้อมูล

ประเทศคู่ค้าสำคัญของอินเดียประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ซาอุดีอาระเบีย และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้อินเดียยังมีสินค้าออกที่สำคัญ ได้แก่อัญมณี และกึ่งอัญมณี ไข่มุก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ชา และกาแฟ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าเข้าที่สำคัญ น้ำมันปิโตรเลียม เครื่องจักร อัญมณีและกึ่งอัญมณี แร่เหล็ก

ด้านเศรษฐกิจ อินเดียกำลังก้าวขึ้นสู่ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ซิ่งมีอัตราการเติบโตเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ในกลุ่มประเทศในเอเชีย และปัจจุบันมีอำนาจการซื้อมากเป็นอันดับ 4 ของโลก

ส่วนทางด้านการทหารเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพทางการทหารสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์การทหารจากรัฐบาล และได้พัฒนาทั้งในเรื่องของอาวุธยุโธปกรณ์ รวมไปถึงทางด้านอวกาศและอาวุธนิวเคลียร์

By : C. Methas - Managing Editor

ประเทศอินเดียหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India) ตั้งอยู่ในเอเชียใต้ เป็นประเทศที่ประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีประชากรมากกว่า 1 พันล้านคน และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีภาษาพูดรวมกันประมาณ 800 ภาษา

ประชากรอินเดียมีประมาณ 1,000 ล้านคน โดยมีเชื้อชาติ อินโด-อารยัน ร้อยละ 72 ดราวิเดียน ร้อยละ 25 มองโกลอยด์ ร้อยละ 2 และอื่น ๆ ร้อยละ 1

ชาวอินเดียมีความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์และวัฒนธรรมอย่างมากมาย ส่งผลให้มีสถานทางศาสนาเป็ฯจำนวนมากเนื่องจากเป็นต้นกำเนิดของศาสนาหลายศาสนาและหลายนิกาย

ปัจจุบันสถาปัตยกรรมโบราณได้รับการอนุรักษ์ไว้มากมาย มีภาษาหลักใช้พูดถึง 16 ภาษา เช่น ภาษาฮินดี ภาษาอังกฤษ ภาษาเบงกาลี ภาษาอูรดู ฯลฯ และมีภาษาถิ่นมากกว่า 100 ภาษา

ภาษาฮินดี เป็นภาษาประจำชาติ เพราะคนอินเดียกว่าร้อยละ 30 ใช้ภาษานี้ คนอินเดียที่อาศัยอยู่รัฐทางตอนเหนือและรัฐทางตอนใต้นอกจากจะใช้ภาษาที่แตกต่างกันแล้ว การแต่งกาย อาหารแตกต่างกันออกไปด้วย

อาณาเขตของประเทศอินเดียทางทิศเหนือติดกับจีน เนปาล และภูฏาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับปากีสถาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดพม่า ทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้จรดมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันออกติดบังกลาเทศ ใหญ่กว่าไทยประมาณ 6 เท่า มีพื้นที่ 3,287,590 ตารางกิโลเมตร

ประวัติศาสตร์ของประเทศอินเดียมีความเป็นมาอันยาวนาน และมีอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมากต่อประเทศต่าง ๆ กำเนิดของอินเดียประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสต์กาล ชาวดราวิเดียน (Dravidian) และชาวอารยัน (Aryan) เริ่มกำเนิดอารยธรรมต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำสินธุ

ต่อมาในสมัยอาณาจักรเมารยะ ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล มีดินแดนในตอนเหนือตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำสินธุจรดอ่าวเบงกอล พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างความรุ่งเรืองในการปกครอง ตลอดจนการสนับสนุนการเผยแพร่พุทธศาสนาในสมัยราชวงศ์โมกุล เป็นสมัยที่มีการแพร่ขยายอิทธิพล วัฒนธรรมโมกุลอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม

อังกฤษได้เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอินเดีย ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยได้เข้ามาค้าขายพร้อม ๆ กับครอบครองดินแดนและแทรกแซงในการเมืองท้องถิ่น จนทำให้อินเดียตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ

ต่อมาได้เกิดการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของอังกฤษ และได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1947 และได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดียในปี ค.ศ. 1950 เศรษฐกิจ การขยายตัวของผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น มีการขยายตัวอย่างมาก และมีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก ในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี่สื่อสารข้อมูล

ประเทศคู่ค้าสำคัญของอินเดียประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ซาอุดีอาระเบีย และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้อินเดียยังมีสินค้าออกที่สำคัญ ได้แก่อัญมณี และกึ่งอัญมณี ไข่มุก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ชา และกาแฟ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าเข้าที่สำคัญ น้ำมันปิโตรเลียม เครื่องจักร อัญมณีและกึ่งอัญมณี แร่เหล็ก

ด้านเศรษฐกิจ อินเดียกำลังก้าวขึ้นสู่ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ซิ่งมีอัตราการเติบโตเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ในกลุ่มประเทศในเอเชีย และปัจจุบันมีอำนาจการซื้อมากเป็นอันดับ 4 ของโลก

ส่วนทางด้านการทหารเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพทางการทหารสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์การทหารจากรัฐบาล และได้พัฒนาทั้งในเรื่องของอาวุธยุโธปกรณ์ รวมไปถึงทางด้านอวกาศและอาวุธนิวเคลียร์

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!