INFINITI Q70L-อินฟินิตี้เวอร์ชั่นฐานล้อยาวยกระดับอัครยานยนต์สำหรับอังกฤษ


By : C. Methas – Managing Editor

สปอร์ตซีดานระดับหรูหรารุ่นฐานล้อยาวพิเศษจากอินฟินิตี้ Infiniti Q70L สำหรับตลาดในอังกฤษมีให้เลือกรุ่นพื้นฐานและรุ่นพลังงานไฮบริด ขับเคลื่อนเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาให้เลือก

รูปทรงภายนอกค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.27 แผงกระจังหน้าแบบรังผึ้ง ปลายท่อไอเสียรูปวงรีแยกซ้าย-ขวา กระทะล้อลวดลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้วติดตั้งยาง ขนาด 245/40R2 โดยมีน้ำหนักรถเปล่า 3,957 ปอนด์

ภายในห้องโดยสารตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้ สีสันทู-โทนเสริมด้วยลวดลายไม้และอะลูมิเนียม มาตรวัดรูปทรงกลมไฟเรืองแสง คอนโซลกลางติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น มีระบบนำร่องผ่านดาวเทียมให้ความละเอียดสูง พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หุ้มหนังแท้ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ ควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบโทรศัพท์บลูธูทและระบบปรับตั้งความเร็วคงที่ขณะเดินทางไกล

ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ Bose แบบดิจิตอล 5.1 แชนแนลพร้อมลำโพงจำนวน 16 ตัว ห้องโดยสารลดเสียงรบกวนด้วยระบบ Active Noise Control ด้านหน้าและด้านท้ายติดเซ็นเซอร์ช่วยเข้าจอดพร้อมกับเชื่อมต่อกับระบบนำร่องผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ได้ติดตั้งกล้องในมุมอับรอบคันและระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนช่องทาง

Q70L เสริมเทคโนโลยี่การขับขี่โดยมีโหมดให้เลือก 4 โหมด ประกอบด้วย Standard, Eco, Sport และ Snow ผลิตสร้างบนโครงฐานแชสซีส์ Front Mid-ship(FM) ตำแหน่งการวางเครื่องยนต์เยื้องไปทางด้านท้ายเพื่อผลทางด้านการกระจายน้ำหนักระหว่างหน้า-หลัง
เครื่องยนต์เบนซิน แบบวี-6 สูบ ขนาด 3.7 ลิตร 330 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 270 ปอนด์-ฟุตที่ 5,200 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 18 ไมล์ต่อแกลลอนและนอกเมือง 26 ไมล์ต่อแกลลอน

เครื่องยนต์ให้เลือกเน้นประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด แบบดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง อัตราส่วนกำลังอัด 16.2:1 ให้แรงม้าสูงสุด 170 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 295 ปอนด์-ฟุตระหว่าง 1,600-2,800 รอบต่อนาที ปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 129 กรัมต่อกิโลเมตร

รุ่นพลังงานไฮบริดวางเครื่องยนต์ แบบ วี-6 สูบ ขนาด 3.5 ลิตร จำนวน 4 วาล์วต่อสูบ เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ รีดแรงม้าสูงสุด 302 แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 258 ปอนด์-ฟุตที่ 5,000 รอบต่อนาทีปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 1 ชุด 57 กิโลวัตต์ให้แรงม้าสูงสุด 67 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 214 ปอนด์-ฟุต สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 5.3 วินาทีและปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 145 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์วางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนรุ่นท็อปสุดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะมีระบบชิฟท์เกียร์ติดตั้งไว้ที่พวงมาลัยผลิตจากแม็กนีเซี่ยม ระบบคลัทช์แบบแผ่นคู

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนกคู่ สปริงขดและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ สปริงขดและเหล็กกันโคลง ระบบพวงมาลัยเป็นแบบฟันเฟืองและตัวหนอน มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบแปรผันตามความเร็วควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 36.7 ฟุต
ระบบเบรกแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ติดตั้งระบบเบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรกกรณีฉุกเฉินและระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิคส์

Infiniti Q70L สปอร์ตซีดานระดับหรูหราสูงสุดของค่ายอินฟินิตี้ รุ่นฐานล้อยาวพิเศษตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 32,650 ปอนด์หรือ 43,705 ยูโรสำหรับรุ่น Q70 Premium วางเครื่องยนต์ ขนาด 2.2 ลิตรแบบดีเซลซึ่งได้รับความร่วมมือจากค่ายเมอเซเดส-เบนซ์ ส่วนรุ่นท็อปสุดเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริด ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 46,600 ปอนด์หรือ 62,380 ยูโร

By : C. Methas - Managing Editor

สปอร์ตซีดานระดับหรูหรารุ่นฐานล้อยาวพิเศษจากอินฟินิตี้ Infiniti Q70L สำหรับตลาดในอังกฤษมีให้เลือกรุ่นพื้นฐานและรุ่นพลังงานไฮบริด ขับเคลื่อนเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาให้เลือก

รูปทรงภายนอกค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.27 แผงกระจังหน้าแบบรังผึ้ง ปลายท่อไอเสียรูปวงรีแยกซ้าย-ขวา กระทะล้อลวดลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้วติดตั้งยาง ขนาด 245/40R2 โดยมีน้ำหนักรถเปล่า 3,957 ปอนด์

ภายในห้องโดยสารตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้ สีสันทู-โทนเสริมด้วยลวดลายไม้และอะลูมิเนียม มาตรวัดรูปทรงกลมไฟเรืองแสง คอนโซลกลางติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น มีระบบนำร่องผ่านดาวเทียมให้ความละเอียดสูง พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หุ้มหนังแท้ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ ควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบโทรศัพท์บลูธูทและระบบปรับตั้งความเร็วคงที่ขณะเดินทางไกล

ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ Bose แบบดิจิตอล 5.1 แชนแนลพร้อมลำโพงจำนวน 16 ตัว ห้องโดยสารลดเสียงรบกวนด้วยระบบ Active Noise Control ด้านหน้าและด้านท้ายติดเซ็นเซอร์ช่วยเข้าจอดพร้อมกับเชื่อมต่อกับระบบนำร่องผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ได้ติดตั้งกล้องในมุมอับรอบคันและระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนช่องทาง

Q70L เสริมเทคโนโลยี่การขับขี่โดยมีโหมดให้เลือก 4 โหมด ประกอบด้วย Standard, Eco, Sport และ Snow ผลิตสร้างบนโครงฐานแชสซีส์ Front Mid-ship(FM) ตำแหน่งการวางเครื่องยนต์เยื้องไปทางด้านท้ายเพื่อผลทางด้านการกระจายน้ำหนักระหว่างหน้า-หลัง เครื่องยนต์เบนซิน แบบวี-6 สูบ ขนาด 3.7 ลิตร 330 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 270 ปอนด์-ฟุตที่ 5,200 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 18 ไมล์ต่อแกลลอนและนอกเมือง 26 ไมล์ต่อแกลลอน

เครื่องยนต์ให้เลือกเน้นประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด แบบดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง อัตราส่วนกำลังอัด 16.2:1 ให้แรงม้าสูงสุด 170 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 295 ปอนด์-ฟุตระหว่าง 1,600-2,800 รอบต่อนาที ปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 129 กรัมต่อกิโลเมตร

รุ่นพลังงานไฮบริดวางเครื่องยนต์ แบบ วี-6 สูบ ขนาด 3.5 ลิตร จำนวน 4 วาล์วต่อสูบ เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ รีดแรงม้าสูงสุด 302 แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 258 ปอนด์-ฟุตที่ 5,000 รอบต่อนาทีปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 1 ชุด 57 กิโลวัตต์ให้แรงม้าสูงสุด 67 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 214 ปอนด์-ฟุต สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 5.3 วินาทีและปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 145 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์วางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนรุ่นท็อปสุดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะมีระบบชิฟท์เกียร์ติดตั้งไว้ที่พวงมาลัยผลิตจากแม็กนีเซี่ยม ระบบคลัทช์แบบแผ่นคู

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนกคู่ สปริงขดและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ สปริงขดและเหล็กกันโคลง ระบบพวงมาลัยเป็นแบบฟันเฟืองและตัวหนอน มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบแปรผันตามความเร็วควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 36.7 ฟุต ระบบเบรกแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ติดตั้งระบบเบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรกกรณีฉุกเฉินและระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิคส์

Infiniti Q70L สปอร์ตซีดานระดับหรูหราสูงสุดของค่ายอินฟินิตี้ รุ่นฐานล้อยาวพิเศษตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 32,650 ปอนด์หรือ 43,705 ยูโรสำหรับรุ่น Q70 Premium วางเครื่องยนต์ ขนาด 2.2 ลิตรแบบดีเซลซึ่งได้รับความร่วมมือจากค่ายเมอเซเดส-เบนซ์ ส่วนรุ่นท็อปสุดเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริด ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 46,600 ปอนด์หรือ 62,380 ยูโร

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!