Motorsport : รถสูตรหนึ่ง – ประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ ปีค.ศ. 1958 (ตอนที่ 2)


By : C. Methas – Managing Editor

ศึกฟอร์มูล่า-วัน ปีค.ศ. 1958 ไมค์ ฮอว์ธอร์นคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก

ศึกโมนาโก กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 2 เซอร์กิตปิดถนนแข่งมีรถแข่งเข้าเส้นชัยเพียง 6 คันเท่านั้นเนื่องจากสนามแห่งนี้มีโค้งแคบๆ จำนวนมากนักแข่งต้องกดคันเร่งอย่างหนักหน่วงและแตะเบรกอย่างรุนแรง รถแข่งออกจากสนามไปถึง 10 คันและไม่ผ่านรอบควอลิฟายถึง 15 คัน
เบอร์นี่ แอคเคิลสโตนที่ดำรงตำแหน่งผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ฟอร์มูล่า-วันจนถึงปี ค.ศ. 2016 ก่อนที่จะลงจากบัลลังก์ได้ลงแข่งขันในรายการนี้เป็นครั้งแรกแต่ไม่ผ่านรอบควอลิฟายโดยลงแข่งให้กับทีม Connaught ทีมแข่งรถและค่ายผลิตรถสปอร์ตแห่งอังกฤษแต่ไม่ประสบความสำเร็จในศึกฟอร์มูล่า-วันส่งทีมลงแข่งครั้งแรกในศึกอังกฤษ กรังด์ปรีซ์เมื่อปีค.ศ. 1952 และลงแข่งครั้งสุดท้ายที่ศึกสหรัฐฯ กรังด์ปรีซ์ในปีค.ศ. 1959

มัวริค ทริงทิคแนนท์มาคว้าแชมป์ได้ที่ศึกโมนาโก กรังด์ปรีซ์ให้กับทีมคูเปอร์หลังจากแข่งขันครบ 100 รอบโดยออกสตาร์ทจากอันดับ 4 ลุยจิ มัสโซ่ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ให้กับทีมเฟอร์รารี่หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 10 และปีเตอร์ คอลลินส์เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ในสังกัดทีมเฟอร์รารี่หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 9 ส่วนไมค์ ฮอว์ธอร์นเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 36 แต่เครื่องยนต์มีปัญหาระบบปั๊มจ่ายน้ำมันต้องออกจากสนามไปในรอบที่ 47 และโทนี่ บรุ๊คส์ที่คว้าโพล โพสิชั่นได้ออกจากสนามไปในรอบที่ 22 หลังจากเครื่องยนต์พัง ส่วนสเตอร์ลิง มอสส์ย้ายสังกัดไปขับให้กับทีมแวนวอลล์ออกจากสนามหลังจากเครื่องยนต์มีปัญหาในรอบที่ 38

ฮอลแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 3 สเตอร์ลิง มอสส์คว้าแชมป์ไปครองเป็นการคว้าแชมป์สนามที่สองของปีนั้นในสังกัดทีมแวนวอลล์หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 2 และเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด ในปีนี้ค่ายพอร์ชได้ส่งรถแข่งลงแข่งขันเป็นสมัยแรกและไปเข้าเส้นชัยในอันดับ 11 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายโดยมีรถแข่งออกจากการแข่งขันไป 6 คัน ทีมบีอาร์เอ็ม. เรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 2-3 เฮนรี่ ชิลล์นักแข่งจากสหรัฐฯ เข้าเส้นชัยในอันดับ 2 และฌอง เบห์ร่าติดอันดับ 3

อินเดียน่าโปลีส สนามที่ 4 จิมมี่ ไบรอันคว้าแชมป์ให้กับทีมซาลิห์ รายการนี้ยังคงเป็นการแข่งขันของทีมและนักแข่งในสหรัฐฯ เท่านั้น ทำการแข่งขันรวม 200 รอบซึ่งมากที่สุดในตารางการแข่งขัน

สนามที่ 5 รายการเบลเยี่ยน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันที่สปา ฟรังโกร์ชองส์ เซอร์กิตรวม 24 รอบ เซอร์กิตแห่งนี้มีความยาวต่อรอบสนามรวม 14.100 กิโลเมตร โทนี่ บรุ๊คส์คว้าแชมป์ให้กับทีมแวนวอลล์ ตามมาด้วยไมค์ ฮอว์ธอร์นซึ่งคว้าโพล โพสิชั่นได้และเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบสุดท้าย สจ๊วต ลิวอิส อีแวนส์ติดอันดับ 3 และคลิฟ อัลลิสันติดอันดับ 4 ซึ่งเป็นการเข้าเส้นชัยใน 4 อันดับแรกของนักขับจากอังกฤษ ส่วนอันดับ 5 เป็นของแฮร์รี่ ชิลล์นักขับจากสหรัฐฯ

ฝรั่งเศส กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 6 ไมค์ ฮอว์ธอร์นสร้างผลงานได้ครบเครื่องหลังจากคว้าโพล โพสิชั่น, ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 45 และคว้าแชมป์ไปครองหลังแข่งครบ 50 รอบ สเตอร์ลิง มอสส์ตามมาเป็นอันดับ 2 และวูล์ฟกัง วอน ทริปส์ติดอันดับ 3 ส่วนฮวน มานูเอล ฟังจิโอเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 และเป็นการลงแข่งขันเป็นสนามสุดท้ายในชีวิตเอฟ-วันของตำนานแชมป์โลก 5 สมัย

สนามต่อมาที่รายการอังกฤษ กรังด์ปรีซ์ นักขับเจ้าถิ่นเรียงแถวเข้าเส้นชัยใน 4 อันดับแรก ปีเตอร์ คอลลินส์คว้าแชมป์ให้กับเฟอร์รารี่และเป็นการเรียงแถวในอันดับ 1-2 ของเฟอร์รารี่โดยไมค์ ฮอว์ธอร์นติดอันดับ 2 และเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 50 ของการแข่งขัน 75 รอบ รอย ซัลวาโดริติดอันดับ 3 ในสังกัดทีมคูเปอร์และสจ๊วต ลิวอิส อีแวนส์เข้าเส้นชัยในอันดับ 4

เยอรมนี กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 8 โทนี่ บรุ๊คส์คว้าแชมป์อีกสนามหลังจากคว้าแชมป์ที่เบลเยี่ยน กรังด์ปรีซ์โดยทำการแข่งขันที่นัวบวร์กริ่ง เซอร์กิตที่มีความยาวต่อรอบยาวที่สุดในตารางการแข่งขันรวม 22.810 กิโลเมตร แข่งขันรวม 15 รอบ ทีมคูเปอร์ติดอันดับ 2-3 รอย ซัลวาโดริเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ตามมาด้วยมัวริค ทริงทิคแนนท์

ปอร์ตุเกส กรังด์ปรีซ์บรรจุเข้าตารางการแข่งขันเป็นสมัยแรก สเตอร์ลิง มอสส์คว้าแชมป์ไปครองหลังจากคว้าโพล โพสิชั่น ตามมาด้วยไมค์ ฮอว์ธอร์นที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 36 ของการแข่งขัน 50 รอบและสจ๊วต ลิวอิส อีแวนส์เข้าเส้นชัยในอันดับ 3

สนามรองสุดท้ายศึกอิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันที่มอนซ่า เซอร์กิต โทนี่ บรุ๊คคว้าแชมป์ได้อีกสนาม ไมค์ ฮอว์ธอร์นติดอันดับ 2 และฟิล ฮิลล์นักแข่งจากสหรัฐฯ เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ให้กับทีมเฟอร์รารี่โดยเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 26 ของการแข่งขัน 70 รอบ

สนามปิดฉากฤดูกาลในศึกมอร็อคโค กรังด์ปรีซ์ซึ่งได้รับการบรรจุเข้ามาเป็นสมัยแรกและเป็นสนามนอกยุโรปสนามแรก(ยกเว้นสหรัฐฯ) ทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม ปีค.ศ. 1958 รวม 53 รอบ สเตอร์ลิง มอสส์คว้าแชมป์ได้เป็นคนแรกและเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 21 ตามมาด้วยไมค์ ฮอว์ธอร์นที่คว้าโพล โพสิชั่นได้และอันดับ 3 เป็นของฟิล ฮิลล์

ศึกฟอร์มูล่า-วัน ปีค.ศ. 1958 ไมค์ ฮอว์ธอร์นคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกก่อนที่จะแขวนพวงมาลัย ในปีต่อมาเขาได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ถนนบายพาสใกล้กับเมืองกิลด์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

ปิดฉากตำนานฟอร์มูล่า-วันในยุคทศวรรษที่ 50 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของเอฟ-วันยุคใหม่ไว้เพียงเท่านี้

By : C. Methas - Managing Editor

ศึกฟอร์มูล่า-วัน ปีค.ศ. 1958 ไมค์ ฮอว์ธอร์นคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก

ศึกโมนาโก กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 2 เซอร์กิตปิดถนนแข่งมีรถแข่งเข้าเส้นชัยเพียง 6 คันเท่านั้นเนื่องจากสนามแห่งนี้มีโค้งแคบๆ จำนวนมากนักแข่งต้องกดคันเร่งอย่างหนักหน่วงและแตะเบรกอย่างรุนแรง รถแข่งออกจากสนามไปถึง 10 คันและไม่ผ่านรอบควอลิฟายถึง 15 คัน เบอร์นี่ แอคเคิลสโตนที่ดำรงตำแหน่งผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ฟอร์มูล่า-วันจนถึงปี ค.ศ. 2016 ก่อนที่จะลงจากบัลลังก์ได้ลงแข่งขันในรายการนี้เป็นครั้งแรกแต่ไม่ผ่านรอบควอลิฟายโดยลงแข่งให้กับทีม Connaught ทีมแข่งรถและค่ายผลิตรถสปอร์ตแห่งอังกฤษแต่ไม่ประสบความสำเร็จในศึกฟอร์มูล่า-วันส่งทีมลงแข่งครั้งแรกในศึกอังกฤษ กรังด์ปรีซ์เมื่อปีค.ศ. 1952 และลงแข่งครั้งสุดท้ายที่ศึกสหรัฐฯ กรังด์ปรีซ์ในปีค.ศ. 1959

มัวริค ทริงทิคแนนท์มาคว้าแชมป์ได้ที่ศึกโมนาโก กรังด์ปรีซ์ให้กับทีมคูเปอร์หลังจากแข่งขันครบ 100 รอบโดยออกสตาร์ทจากอันดับ 4 ลุยจิ มัสโซ่ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ให้กับทีมเฟอร์รารี่หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 10 และปีเตอร์ คอลลินส์เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ในสังกัดทีมเฟอร์รารี่หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 9 ส่วนไมค์ ฮอว์ธอร์นเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 36 แต่เครื่องยนต์มีปัญหาระบบปั๊มจ่ายน้ำมันต้องออกจากสนามไปในรอบที่ 47 และโทนี่ บรุ๊คส์ที่คว้าโพล โพสิชั่นได้ออกจากสนามไปในรอบที่ 22 หลังจากเครื่องยนต์พัง ส่วนสเตอร์ลิง มอสส์ย้ายสังกัดไปขับให้กับทีมแวนวอลล์ออกจากสนามหลังจากเครื่องยนต์มีปัญหาในรอบที่ 38

ฮอลแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 3 สเตอร์ลิง มอสส์คว้าแชมป์ไปครองเป็นการคว้าแชมป์สนามที่สองของปีนั้นในสังกัดทีมแวนวอลล์หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 2 และเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด ในปีนี้ค่ายพอร์ชได้ส่งรถแข่งลงแข่งขันเป็นสมัยแรกและไปเข้าเส้นชัยในอันดับ 11 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายโดยมีรถแข่งออกจากการแข่งขันไป 6 คัน ทีมบีอาร์เอ็ม. เรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 2-3 เฮนรี่ ชิลล์นักแข่งจากสหรัฐฯ เข้าเส้นชัยในอันดับ 2 และฌอง เบห์ร่าติดอันดับ 3

อินเดียน่าโปลีส สนามที่ 4 จิมมี่ ไบรอันคว้าแชมป์ให้กับทีมซาลิห์ รายการนี้ยังคงเป็นการแข่งขันของทีมและนักแข่งในสหรัฐฯ เท่านั้น ทำการแข่งขันรวม 200 รอบซึ่งมากที่สุดในตารางการแข่งขัน

สนามที่ 5 รายการเบลเยี่ยน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันที่สปา ฟรังโกร์ชองส์ เซอร์กิตรวม 24 รอบ เซอร์กิตแห่งนี้มีความยาวต่อรอบสนามรวม 14.100 กิโลเมตร โทนี่ บรุ๊คส์คว้าแชมป์ให้กับทีมแวนวอลล์ ตามมาด้วยไมค์ ฮอว์ธอร์นซึ่งคว้าโพล โพสิชั่นได้และเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบสุดท้าย สจ๊วต ลิวอิส อีแวนส์ติดอันดับ 3 และคลิฟ อัลลิสันติดอันดับ 4 ซึ่งเป็นการเข้าเส้นชัยใน 4 อันดับแรกของนักขับจากอังกฤษ ส่วนอันดับ 5 เป็นของแฮร์รี่ ชิลล์นักขับจากสหรัฐฯ

ฝรั่งเศส กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 6 ไมค์ ฮอว์ธอร์นสร้างผลงานได้ครบเครื่องหลังจากคว้าโพล โพสิชั่น, ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 45 และคว้าแชมป์ไปครองหลังแข่งครบ 50 รอบ สเตอร์ลิง มอสส์ตามมาเป็นอันดับ 2 และวูล์ฟกัง วอน ทริปส์ติดอันดับ 3 ส่วนฮวน มานูเอล ฟังจิโอเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 และเป็นการลงแข่งขันเป็นสนามสุดท้ายในชีวิตเอฟ-วันของตำนานแชมป์โลก 5 สมัย

สนามต่อมาที่รายการอังกฤษ กรังด์ปรีซ์ นักขับเจ้าถิ่นเรียงแถวเข้าเส้นชัยใน 4 อันดับแรก ปีเตอร์ คอลลินส์คว้าแชมป์ให้กับเฟอร์รารี่และเป็นการเรียงแถวในอันดับ 1-2 ของเฟอร์รารี่โดยไมค์ ฮอว์ธอร์นติดอันดับ 2 และเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 50 ของการแข่งขัน 75 รอบ รอย ซัลวาโดริติดอันดับ 3 ในสังกัดทีมคูเปอร์และสจ๊วต ลิวอิส อีแวนส์เข้าเส้นชัยในอันดับ 4

เยอรมนี กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 8 โทนี่ บรุ๊คส์คว้าแชมป์อีกสนามหลังจากคว้าแชมป์ที่เบลเยี่ยน กรังด์ปรีซ์โดยทำการแข่งขันที่นัวบวร์กริ่ง เซอร์กิตที่มีความยาวต่อรอบยาวที่สุดในตารางการแข่งขันรวม 22.810 กิโลเมตร แข่งขันรวม 15 รอบ ทีมคูเปอร์ติดอันดับ 2-3 รอย ซัลวาโดริเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ตามมาด้วยมัวริค ทริงทิคแนนท์

ปอร์ตุเกส กรังด์ปรีซ์บรรจุเข้าตารางการแข่งขันเป็นสมัยแรก สเตอร์ลิง มอสส์คว้าแชมป์ไปครองหลังจากคว้าโพล โพสิชั่น ตามมาด้วยไมค์ ฮอว์ธอร์นที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 36 ของการแข่งขัน 50 รอบและสจ๊วต ลิวอิส อีแวนส์เข้าเส้นชัยในอันดับ 3

สนามรองสุดท้ายศึกอิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันที่มอนซ่า เซอร์กิต โทนี่ บรุ๊คคว้าแชมป์ได้อีกสนาม ไมค์ ฮอว์ธอร์นติดอันดับ 2 และฟิล ฮิลล์นักแข่งจากสหรัฐฯ เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ให้กับทีมเฟอร์รารี่โดยเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 26 ของการแข่งขัน 70 รอบ

สนามปิดฉากฤดูกาลในศึกมอร็อคโค กรังด์ปรีซ์ซึ่งได้รับการบรรจุเข้ามาเป็นสมัยแรกและเป็นสนามนอกยุโรปสนามแรก(ยกเว้นสหรัฐฯ) ทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม ปีค.ศ. 1958 รวม 53 รอบ สเตอร์ลิง มอสส์คว้าแชมป์ได้เป็นคนแรกและเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 21 ตามมาด้วยไมค์ ฮอว์ธอร์นที่คว้าโพล โพสิชั่นได้และอันดับ 3 เป็นของฟิล ฮิลล์

ศึกฟอร์มูล่า-วัน ปีค.ศ. 1958 ไมค์ ฮอว์ธอร์นคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกก่อนที่จะแขวนพวงมาลัย ในปีต่อมาเขาได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ถนนบายพาสใกล้กับเมืองกิลด์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

ปิดฉากตำนานฟอร์มูล่า-วันในยุคทศวรรษที่ 50 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของเอฟ-วันยุคใหม่ไว้เพียงเท่านี้

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!