By : C. Methas – Managing Editor
ศึกดักการ์ แรลลี่สเตจที่ 11 สเตจรองสุดท้าย เซบาสเตียง โล๊ปทำความเร็วในสเตจนี้ได้เร็วที่สุด ทำการแข่งขันเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา เส้นทางจากเมืองซาน ฮวนไปยังเมืองริโอ คูอาร์โต้ในประเทศอาร์เจนติน่า ระยะทาง 759 กิโลเมตร ระยะทางจับเวลาพิเศษ 292 กิโลเมตรเป็นเส้นทางแข่งขันแบบออฟโรดเส้นทางสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่สเตจสุดท้ายอย่างแท้จริงที่เป็นทางฝุ่นลูกรังสไตล์แรลลี่โลก
เซบาสเตียง โล๊ปใช้โอกาสสุดท้ายสำหรับการลุ้นแชมป์ครั้งแรกในศึกดักการ์ แรลลี่ด้วยการออกสตาร์ทอย่างดูเดือนและสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุดด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 21 นาที 15 วินาที ปีเตอร์อองเซลยังคงรักษาสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด เวลาตามหลังสเตจนี้ห่างเพียง 0.18 วินาทีเท่านั้น
การคว้าแชมป์สเตจนี้รวม 4 สเตจของการแข่งขันดักการ์ แรลลี่เป็นสมัยที่ 2 แต่สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลเจ้าของแชมป์ดักการ์ แรลลี่ 7 สมัยยังครองอันดับโอเวอร์ออล ขณะที่สเตจปิดเกมส์ระยะทางเพียง 64 กิโลเมตรเท่านั้น
สเตจที่11 ก่อนออกสตาร์ท เซบาสเตียง โล๊ปเวลาตามหลังผู้นำอยู่ 5 นาที 50 วินาทีหลังจากสเตฟาน ปีเตอร์อองเซลได้รับการตัดสินจากกรรมการไม่ปรับเวลาที่สูญเสียไปให้กับการช่วยเหลือเพื่อนนักบิดที่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เวลาได้กลับคืนมาและคว้าแชมป์ประจำสเตจรวมทั้งเวลารวมโอเวอร์ออล
โล๊ปออกสตาร์ทอย่างร้อนแรงสามารถในช่วงพาร์ทแรกสามารถตีคืนเวลามาได้รวมทั้งสิ้น 18 วินาที ส่วนปีเตอร์อองเซลในช่วงสองทำได้ดีเช่นกันจนกระทั่งจบการแข่งขันยังครองอันดับโอเวอร์ออลไว้ได้ ส่วนเวลารวมตัวเลขที่เซบาสเตียง โล๊ปต้องทำการบ้านอย่างหนักยังคงห่างมากถึง 5 นาที 32 วินาที
ปีเตอร์อองเซลมีโอกาสกวาดแชมป์ครั้งที่ 13 (รวมประเภทมอเตอร์ไซค์) ในศึกดักการ์ แรลลี่ปีนี้เป็นสมัยที่ 7 ประเภทรถยนต์โดยทำเวลารวมทั้งหมด 11 สเตจได้ 28 ชั่วโมง 20 นาที 16 วินาที, เซบาสเตียง โล๊ป ตามหลัง 5 นาที 32 วินาทีและไซรีล เดเปรซทีมเปอโยต์เช่นกันตามหลัง 32 นาที 54 วินาที ส่วนอันดับ 4-5 เป็นของสองนักขับจากทีมโตโยต้า นานี่ โรม่าและไซรีล เดเปรซ
ประเภทมอเตอร์ไซค์ Paulo Goncalves คว้าแชมปสเตจแรก Sam Sunderlan สังกัดทีม KTM ครองหัวแถวเช่นเดิม เวลารวมนำห่าง Matthias Walkner เพื่อนร่วมทีมอยู่ 33 นาที 09 วินาที ส่วนประเภทรถบรรทุกแชมป์สเตจที่แล้วร้อนแรงต่อเนื่อง Eduard Nikolaev ทำเวลาเร็วสุดกวาดสองสเตจซ้อนมีโอกาสลุ้นแชมป์ดักการ์ แรลลี่อีกสมัยด้วยเวลานำห่าง 17 นาที 09 วินาทีโดยนำห่าง Dmitry Sothikov เพื่อนร่วมทีม Kamaz
By : C. Methas - Managing Editor
ศึกดักการ์ แรลลี่สเตจที่ 11 สเตจรองสุดท้าย เซบาสเตียง โล๊ปทำความเร็วในสเตจนี้ได้เร็วที่สุด ทำการแข่งขันเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา เส้นทางจากเมืองซาน ฮวนไปยังเมืองริโอ คูอาร์โต้ในประเทศอาร์เจนติน่า ระยะทาง 759 กิโลเมตร ระยะทางจับเวลาพิเศษ 292 กิโลเมตรเป็นเส้นทางแข่งขันแบบออฟโรดเส้นทางสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่สเตจสุดท้ายอย่างแท้จริงที่เป็นทางฝุ่นลูกรังสไตล์แรลลี่โลก
เซบาสเตียง โล๊ปใช้โอกาสสุดท้ายสำหรับการลุ้นแชมป์ครั้งแรกในศึกดักการ์ แรลลี่ด้วยการออกสตาร์ทอย่างดูเดือนและสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุดด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 21 นาที 15 วินาที ปีเตอร์อองเซลยังคงรักษาสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมด เวลาตามหลังสเตจนี้ห่างเพียง 0.18 วินาทีเท่านั้น
การคว้าแชมป์สเตจนี้รวม 4 สเตจของการแข่งขันดักการ์ แรลลี่เป็นสมัยที่ 2 แต่สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลเจ้าของแชมป์ดักการ์ แรลลี่ 7 สมัยยังครองอันดับโอเวอร์ออล ขณะที่สเตจปิดเกมส์ระยะทางเพียง 64 กิโลเมตรเท่านั้น
สเตจที่11 ก่อนออกสตาร์ท เซบาสเตียง โล๊ปเวลาตามหลังผู้นำอยู่ 5 นาที 50 วินาทีหลังจากสเตฟาน ปีเตอร์อองเซลได้รับการตัดสินจากกรรมการไม่ปรับเวลาที่สูญเสียไปให้กับการช่วยเหลือเพื่อนนักบิดที่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เวลาได้กลับคืนมาและคว้าแชมป์ประจำสเตจรวมทั้งเวลารวมโอเวอร์ออล
โล๊ปออกสตาร์ทอย่างร้อนแรงสามารถในช่วงพาร์ทแรกสามารถตีคืนเวลามาได้รวมทั้งสิ้น 18 วินาที ส่วนปีเตอร์อองเซลในช่วงสองทำได้ดีเช่นกันจนกระทั่งจบการแข่งขันยังครองอันดับโอเวอร์ออลไว้ได้ ส่วนเวลารวมตัวเลขที่เซบาสเตียง โล๊ปต้องทำการบ้านอย่างหนักยังคงห่างมากถึง 5 นาที 32 วินาที
ปีเตอร์อองเซลมีโอกาสกวาดแชมป์ครั้งที่ 13 (รวมประเภทมอเตอร์ไซค์) ในศึกดักการ์ แรลลี่ปีนี้เป็นสมัยที่ 7 ประเภทรถยนต์โดยทำเวลารวมทั้งหมด 11 สเตจได้ 28 ชั่วโมง 20 นาที 16 วินาที, เซบาสเตียง โล๊ป ตามหลัง 5 นาที 32 วินาทีและไซรีล เดเปรซทีมเปอโยต์เช่นกันตามหลัง 32 นาที 54 วินาที ส่วนอันดับ 4-5 เป็นของสองนักขับจากทีมโตโยต้า นานี่ โรม่าและไซรีล เดเปรซ
ประเภทมอเตอร์ไซค์ Paulo Goncalves คว้าแชมปสเตจแรก Sam Sunderlan สังกัดทีม KTM ครองหัวแถวเช่นเดิม เวลารวมนำห่าง Matthias Walkner เพื่อนร่วมทีมอยู่ 33 นาที 09 วินาที ส่วนประเภทรถบรรทุกแชมป์สเตจที่แล้วร้อนแรงต่อเนื่อง Eduard Nikolaev ทำเวลาเร็วสุดกวาดสองสเตจซ้อนมีโอกาสลุ้นแชมป์ดักการ์ แรลลี่อีกสมัยด้วยเวลานำห่าง 17 นาที 09 วินาทีโดยนำห่าง Dmitry Sothikov เพื่อนร่วมทีม Kamaz
