
โดยในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ กองทุน Green Public Welfare Fund ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Shanghai Auto Show 2023 จะมีการจัดการประชุม User Ecological Co-creation Conference เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยภายในงานจะมีการลงนามความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature – IUCN) และแบรนด์ OMODA ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ OMODA ต่อหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมถึงเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศของโลก ตั้งแต่ป่าไม้เขียวชอุ่มไปจนถึงมหาสมุทรแห่งชีวิต ที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญ ที่พวกเราทุกคนบนโลกจำเป็นต้องลงมือร่วมกัน ดูแล ปกป้องและรักษาให้มากยิ่งขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป และถือเป็นภารกิจที่สำคัญของแบรนด์ระดับโลกอย่าง OMODA ในการทุ่มเทและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างระบบนิเวศการเดินทางคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา OMODA ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างยิ่ง ได้ริเริ่ม “โครงการ 8023” ที่เป็นเสมือนวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งถูกนำมาปฏิบัติจริงในงาน Shanghai Auto Show 2023 โดยกลยุทธ์ “8023” มีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ และ NGOs ทั่วโลกกว่า 80 แห่ง ตั้งเป้าหมายลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ผ่านความพยายามปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังที่ไม่ใช่แค่ระดับพื้นที่แต่เป็นระดับโลก อย่างไรก็ตาม ภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่านี้ ยังมุ่งเน้นการจัดการภัยธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้ มหาสมุทร พื้นที่ชุ่มน้ำ และสัตว์ป่า ที่จะครอบคลุมแนวทางการปกป้องโลกของเราและสร้างให้โลกใบนี้เป็น “Oxygen Planet” โฉมใหม่
ความร่วมมือระหว่าง OMODA และ IUCN มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนผ่านแนวทางการอนุรักษ์ธรรมชาติสู่ความยั่งยืนผ่านการลงมือทำ ด้วยวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันคือ การแก้ปัญหาจากธรรมชาติ (Nature-based Solutions) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ และมหาสมุทร เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยใช้ประโยชน์จากธรรมชาติควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำไปสู่เป้าหมายการอยู่ร่วมกันของธรรมชาติและมนุษยชาติอย่างกลมกลืนและยั่งยืน
ในขณะที่สิ่งแวดล้อมกำลังเผชิญความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน OMODA ในฐานะองค์กรระดับโลกจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับในการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือกับ IUCN ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าองค์กรจะต้องผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะท้าทายสำหรับผู้นำอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ ในการดำเนินการก็ตาม แต่ถึงจะท้าทายเพียงใดในทุก ๆ การใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม ย่อมต้องชดเชยกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อโลกที่ยั่งยืน OMODA มุ่งหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบกับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต ในรถยนต์พลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะเข้าถึงกลุ่มผู้ขับขี่รุ่นใหม่ และสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำสมัยให้กับพวกเขา
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1948 เป็นองค์กรที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก มีสมาชิกกว่า 1,400 องค์กร จาก 160 ประเทศ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์การนอกภาครัฐ (NGOs) นักวิทยาศาสตร์ ซึ่ง IUCN มีบทบาทสำคัญต่อนโยบายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศมากมาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปกป้องธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการทำโครงการอนุรักษ์ในพื้นที่ทั่วโลก โดยได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายในการสร้างโลกที่ยั่งยืนและปกป้องความหลากหลายทางธรรมชาติ
ท้ายที่สุดนี้ ผู้ขับขี่รถยนต์จากแบรนด์ OMODA ทุกคน จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการปกป้องโลกใบนี้ของเรา ให้เขียวชอุ่มด้วยพื้นที่ป่าที่มากขึ้น มหาสมุทรที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิต รวมทั้งทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดในบ้านหลังนี้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
เกี่ยวกับ Chery
Chery Automobile Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน Chery มุ่งมั่นเสมอว่าจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศจีน เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และบราซิล นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนายานยนต์ระดับโลกที่มีบุคลากรมากกว่า 5,500 คน และก่อตั้งเทคโนโลยีองค์รวมและระบบ R&D ของผลิตภัณฑ์ ด้วยวิธีนี้ Chery ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ เช่น Arrizo, Tiggo และแบรนด์ EXEED ระดับไฮเอนด์ โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 9.5 ล้านคัน
Chery เป็นที่รู้จักในชื่อ “Technological Chery” นับตั้งแต่การก่อตั้งเพื่อที่จะเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีเป็นหลัก หลังจากกว่า 20 ปีที่ได้ศึกษาในด้านยานยนต์พลังงานใหม่ Chery ได้สร้างความเป็นผู้นำด้วยแพลตฟอร์มประกอบรถยนต์สี่แห่ง ระบบย่อยทั่วไปห้าระบบ และ 7 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ New Energy Vehicle Integration (การบูรณาการยานพาหนะพลังงานใหม่), Vehicle Control Technology (เทคโนโลยีการควบคุมยานพาหนะ), Battery Management and Battery System Design (การจัดการแบตเตอรี่และการออกแบบระบบแบตเตอรี่), PHEV System Design (การออกแบบระบบ PHEV), Lightweight Technology (เทคโนโลยีน้ำหนักเบา), Intelligent Interconnection Design (การออกแบบการเชื่อมต่อโครงข่ายอัจฉริยะ) และ Range Extension and Hydrogen Fuel Technology (เทคโนโลยีการขยายระยะและเทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน)
ในด้านการผลิตอัจฉริยะ Chery ได้เปิดตัวกลยุทธ์ “CHERY LION” โดยค่อยๆ ศึกษาถึงต้นแบบอัจฉริยะครบวงจรของการวิจัยและพัฒนา การผลิต การตลาด และการบริการ ตลอดจนบรรลุการผลิตจำนวนมากและการเปิดตัว L2.5 เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ สำหรับการขยายตลาดทั่วโลก Chery เป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกของจีนที่ส่งออกยานยนต์ ชิ้นส่วน CKD เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์และอุปกรณ์ไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน Chery ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลกครอบคลุม 80 ประเทศ และตั้งโรงงานในต่างประเทศ 10 แห่ง มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในต่างประเทศมากกว่า 1,500 แห่ง มีผู้ใช้เกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้จำนวน 1.95 ล้านคนนอกประเทศจีน นอกจากนี้ Chery ยังครองอันดับหนึ่งในด้านการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากประเทศจีนเป็นเวลา 20 ปีติดต่อกัน

โดยในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ กองทุน Green Public Welfare Fund ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Shanghai Auto Show 2023 จะมีการจัดการประชุม User Ecological Co-creation Conference เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยภายในงานจะมีการลงนามความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature – IUCN) และแบรนด์ OMODA ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ OMODA ต่อหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมถึงเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศของโลก ตั้งแต่ป่าไม้เขียวชอุ่มไปจนถึงมหาสมุทรแห่งชีวิต ที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญ ที่พวกเราทุกคนบนโลกจำเป็นต้องลงมือร่วมกัน ดูแล ปกป้องและรักษาให้มากยิ่งขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป และถือเป็นภารกิจที่สำคัญของแบรนด์ระดับโลกอย่าง OMODA ในการทุ่มเทและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างระบบนิเวศการเดินทางคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา OMODA ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างยิ่ง ได้ริเริ่ม “โครงการ 8023” ที่เป็นเสมือนวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งถูกนำมาปฏิบัติจริงในงาน Shanghai Auto Show 2023 โดยกลยุทธ์ “8023” มีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ และ NGOs ทั่วโลกกว่า 80 แห่ง ตั้งเป้าหมายลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ผ่านความพยายามปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังที่ไม่ใช่แค่ระดับพื้นที่แต่เป็นระดับโลก อย่างไรก็ตาม ภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่านี้ ยังมุ่งเน้นการจัดการภัยธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้ มหาสมุทร พื้นที่ชุ่มน้ำ และสัตว์ป่า ที่จะครอบคลุมแนวทางการปกป้องโลกของเราและสร้างให้โลกใบนี้เป็น “Oxygen Planet” โฉมใหม่
ความร่วมมือระหว่าง OMODA และ IUCN มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนผ่านแนวทางการอนุรักษ์ธรรมชาติสู่ความยั่งยืนผ่านการลงมือทำ ด้วยวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันคือ การแก้ปัญหาจากธรรมชาติ (Nature-based Solutions) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ และมหาสมุทร เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยใช้ประโยชน์จากธรรมชาติควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำไปสู่เป้าหมายการอยู่ร่วมกันของธรรมชาติและมนุษยชาติอย่างกลมกลืนและยั่งยืน
ในขณะที่สิ่งแวดล้อมกำลังเผชิญความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน OMODA ในฐานะองค์กรระดับโลกจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับในการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือกับ IUCN ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าองค์กรจะต้องผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะท้าทายสำหรับผู้นำอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ ในการดำเนินการก็ตาม แต่ถึงจะท้าทายเพียงใดในทุก ๆ การใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม ย่อมต้องชดเชยกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อโลกที่ยั่งยืน OMODA มุ่งหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบกับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต ในรถยนต์พลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะเข้าถึงกลุ่มผู้ขับขี่รุ่นใหม่ และสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำสมัยให้กับพวกเขา
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1948 เป็นองค์กรที่มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก มีสมาชิกกว่า 1,400 องค์กร จาก 160 ประเทศ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์การนอกภาครัฐ (NGOs) นักวิทยาศาสตร์ ซึ่ง IUCN มีบทบาทสำคัญต่อนโยบายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศมากมาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปกป้องธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการทำโครงการอนุรักษ์ในพื้นที่ทั่วโลก โดยได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายในการสร้างโลกที่ยั่งยืนและปกป้องความหลากหลายทางธรรมชาติ
ท้ายที่สุดนี้ ผู้ขับขี่รถยนต์จากแบรนด์ OMODA ทุกคน จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการปกป้องโลกใบนี้ของเรา ให้เขียวชอุ่มด้วยพื้นที่ป่าที่มากขึ้น มหาสมุทรที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิต รวมทั้งทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดในบ้านหลังนี้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
เกี่ยวกับ Chery
Chery Automobile Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน Chery มุ่งมั่นเสมอว่าจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศจีน เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และบราซิล นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนายานยนต์ระดับโลกที่มีบุคลากรมากกว่า 5,500 คน และก่อตั้งเทคโนโลยีองค์รวมและระบบ R&D ของผลิตภัณฑ์ ด้วยวิธีนี้ Chery ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ เช่น Arrizo, Tiggo และแบรนด์ EXEED ระดับไฮเอนด์ โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 9.5 ล้านคัน
Chery เป็นที่รู้จักในชื่อ “Technological Chery” นับตั้งแต่การก่อตั้งเพื่อที่จะเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีเป็นหลัก หลังจากกว่า 20 ปีที่ได้ศึกษาในด้านยานยนต์พลังงานใหม่ Chery ได้สร้างความเป็นผู้นำด้วยแพลตฟอร์มประกอบรถยนต์สี่แห่ง ระบบย่อยทั่วไปห้าระบบ และ 7 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ New Energy Vehicle Integration (การบูรณาการยานพาหนะพลังงานใหม่), Vehicle Control Technology (เทคโนโลยีการควบคุมยานพาหนะ), Battery Management and Battery System Design (การจัดการแบตเตอรี่และการออกแบบระบบแบตเตอรี่), PHEV System Design (การออกแบบระบบ PHEV), Lightweight Technology (เทคโนโลยีน้ำหนักเบา), Intelligent Interconnection Design (การออกแบบการเชื่อมต่อโครงข่ายอัจฉริยะ) และ Range Extension and Hydrogen Fuel Technology (เทคโนโลยีการขยายระยะและเทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน)
ในด้านการผลิตอัจฉริยะ Chery ได้เปิดตัวกลยุทธ์ “CHERY LION” โดยค่อยๆ ศึกษาถึงต้นแบบอัจฉริยะครบวงจรของการวิจัยและพัฒนา การผลิต การตลาด และการบริการ ตลอดจนบรรลุการผลิตจำนวนมากและการเปิดตัว L2.5 เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ สำหรับการขยายตลาดทั่วโลก Chery เป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกของจีนที่ส่งออกยานยนต์ ชิ้นส่วน CKD เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์และอุปกรณ์ไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน Chery ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลกครอบคลุม 80 ประเทศ และตั้งโรงงานในต่างประเทศ 10 แห่ง มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในต่างประเทศมากกว่า 1,500 แห่ง มีผู้ใช้เกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้จำนวน 1.95 ล้านคนนอกประเทศจีน นอกจากนี้ Chery ยังครองอันดับหนึ่งในด้านการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากประเทศจีนเป็นเวลา 20 ปีติดต่อกัน