SIKORSKY CH-53E SUPER STALLION-เฮลิคอปเตอร์ยุทธวิธีขนาดใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดของนาวิกโยธินสหรัฐฯ 


By : C. Methas – Managing Editor

SIKORSKY CH-53E SUPER STALLION เฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อการขนส่งของกองทัพสหรัฐฯ ออกแบบให้สามารถปฏิบัติการได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขนส่งอาวุธยุโธปกรณ์ขนาดใหญ่และการโจมตีทั้งทางภาคพื้นดินและทางทะเล การลาดตระเวนค้นหาเครื่องบินรบ การให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน

SIKORSKY CH-53E SUPER STALLION เฮลิคอปเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่ยังคงพัฒนาต่อเนื่องและปฏิบัติการถึงปัจจุบันทำการบินทดสอบครั้งแรกเมื่อปี 1974 และเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1981 จำนวน 172 ลำ ปฏิบัติการทั้งในแถบแปซิฟิคและแอตแลนติค

ปฏิบัติการทั้งกำลังสำรองของกองทัพเรือ, เครื่องบินฝึกและการทดลองการปฏิบัติการให้กับกองเรือรบ ส่งมอบเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2003

เครื่องยนต์แบบเทอร์โบแฟนของเจเนอรัล อิเล็กทริค รุ่น T64-GE-416 ให้กำลังขับ 3,266 กิโลวัตต์หรือ 4379.778 แรงม้า โรเตอร์หลัก 24.08 เมตร โรเตอร์ท้าย 6.1 เมตร

ความยาวตัวเครื่อง 30.19 เมตร ความสูงตัวเครื่อง 5.32 เมตร ความกว้างตัวเครื่อง 2.69 เมตร น้ำหนักตัวเครื่อง 15,072 กิโลกรัม น้ำหนัก Take Off 33,340 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุกภายใน 13,607 กิโลกรัมและน้ำหนักบรรทุกภายนอก 14,515 กิโลกรัม ความจุถังเชื้อเพลิงสูงสุด 1,192 ลิตร และถังเชื้อเพลิงเสริมภายนอก 4,921 ลิตร

สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุด 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รัศมีทำการบิน 2,074 กิโลเมตรและเพดานบินปกติ 5,640 เมตร อาวุธประจำเครื่องประกอบด้วยปืนกลขนาด 0.50 จำนวน 2 ชุด ติดตั้งที่ด้านข้างหน้าต่างตัวเครื่องและมีชุดติดตั้งปืนที่บริเวณบันไดที่สามารถปรับเปลี่ยนอาวุธได้หลายขนาด สามารถติดตั้งปืนกล M3M ความเร็ว 1,100 นัดต่อนาที

ภายในตัวเครื่องมีที่นั่งจำนวน 55 ที่นั่งแบบปรับพับได้ สำหรับรองรับการเคลื่อนย้ายกำลังพลรบในหลายรูปแบบรวมทั้งเคลื่อนกำลังพลนาวิกโยธินและการบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ

ห้องนักบินติดจอมอนิเตอร์มัลติฟังก์ชั่น ขนาด 152 x 152 มิลลิเมตร และ Head-up display ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติและระบบนำร่องผ่านดาวเทียม GPS 3 A ของ Rockwell Collins สามารถปฏิบัติการบินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีระบบ Night Vision System

ปี 2000 กองทัพเรือสหรัฐฯ เพิ่มโปรแกรมยกระดับคุณภาพเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้สามารถเข้าประจำการได้ถึงปี 2025 ประกอบด้วยติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ เพิ่มปริมาณการบรรทุกมากขึ้น

โรเตอร์ผลิตจากวัสดุคอมโพรไซท์ กระจกห้องนักบินไฟเบอร์และระบบควบคุมการบินแบบ Fly-by-wire ตัวเครื่องผลิตจากอัลลอยน้ำหนักเบา โครงสร้างผลิตจากเหล็กและไททาเนียม

SIKORSKY CH-53E Super Stallion เฮลิคอปเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ พัฒนามาจาก CH-53 ซีสตัลเลียน เพิ่มเครื่องยนต์ที่สามเข้าไป กะลาสีและนาวิกโยธินมักเรียกมันว่า”ตัวสร้างเฮอร์ริเคน” เพราะทำให้เกิดกำแพงลมขณะบินขึ้น สร้างขึ้นโดยซิคอร์สกี้ แอร์คราฟท์ให้กับนาวิกโยธินสหรัฐ

อีกรุ่นหนึ่งคือเอ็มเอช-53อี ซีดรากอน (MH-53E Sea Dragon) ซึ่งเป็นของกองทัพเรือสหรัฐเพื่อใช้ในการกวาดทุ่นระเบิดและบรรทุกของหนัก ซีเอช-53อี/เอ็มเอช-53อีถูกเรียกว่า”เอส-80″โดยซิคอร์สกี้

ปัจจุบันกำลังพัฒนา ซีเอช-53เค ซึ่งจะติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ ใบพัดที่ใช้วัสดุผสม และภายในที่กว้างขึ้น

By : C. Methas - Managing Editor

SIKORSKY CH-53E SUPER STALLION เฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อการขนส่งของกองทัพสหรัฐฯ ออกแบบให้สามารถปฏิบัติการได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขนส่งอาวุธยุโธปกรณ์ขนาดใหญ่และการโจมตีทั้งทางภาคพื้นดินและทางทะเล การลาดตระเวนค้นหาเครื่องบินรบ การให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน

SIKORSKY CH-53E SUPER STALLION เฮลิคอปเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่ยังคงพัฒนาต่อเนื่องและปฏิบัติการถึงปัจจุบันทำการบินทดสอบครั้งแรกเมื่อปี 1974 และเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1981 จำนวน 172 ลำ ปฏิบัติการทั้งในแถบแปซิฟิคและแอตแลนติค

ปฏิบัติการทั้งกำลังสำรองของกองทัพเรือ, เครื่องบินฝึกและการทดลองการปฏิบัติการให้กับกองเรือรบ ส่งมอบเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2003

เครื่องยนต์แบบเทอร์โบแฟนของเจเนอรัล อิเล็กทริค รุ่น T64-GE-416 ให้กำลังขับ 3,266 กิโลวัตต์หรือ 4379.778 แรงม้า โรเตอร์หลัก 24.08 เมตร โรเตอร์ท้าย 6.1 เมตร

ความยาวตัวเครื่อง 30.19 เมตร ความสูงตัวเครื่อง 5.32 เมตร ความกว้างตัวเครื่อง 2.69 เมตร น้ำหนักตัวเครื่อง 15,072 กิโลกรัม น้ำหนัก Take Off 33,340 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุกภายใน 13,607 กิโลกรัมและน้ำหนักบรรทุกภายนอก 14,515 กิโลกรัม ความจุถังเชื้อเพลิงสูงสุด 1,192 ลิตร และถังเชื้อเพลิงเสริมภายนอก 4,921 ลิตร

สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุด 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รัศมีทำการบิน 2,074 กิโลเมตรและเพดานบินปกติ 5,640 เมตร อาวุธประจำเครื่องประกอบด้วยปืนกลขนาด 0.50 จำนวน 2 ชุด ติดตั้งที่ด้านข้างหน้าต่างตัวเครื่องและมีชุดติดตั้งปืนที่บริเวณบันไดที่สามารถปรับเปลี่ยนอาวุธได้หลายขนาด สามารถติดตั้งปืนกล M3M ความเร็ว 1,100 นัดต่อนาที

ภายในตัวเครื่องมีที่นั่งจำนวน 55 ที่นั่งแบบปรับพับได้ สำหรับรองรับการเคลื่อนย้ายกำลังพลรบในหลายรูปแบบรวมทั้งเคลื่อนกำลังพลนาวิกโยธินและการบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ

ห้องนักบินติดจอมอนิเตอร์มัลติฟังก์ชั่น ขนาด 152 x 152 มิลลิเมตร และ Head-up display ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติและระบบนำร่องผ่านดาวเทียม GPS 3 A ของ Rockwell Collins สามารถปฏิบัติการบินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีระบบ Night Vision System

ปี 2000 กองทัพเรือสหรัฐฯ เพิ่มโปรแกรมยกระดับคุณภาพเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้สามารถเข้าประจำการได้ถึงปี 2025 ประกอบด้วยติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ เพิ่มปริมาณการบรรทุกมากขึ้น

โรเตอร์ผลิตจากวัสดุคอมโพรไซท์ กระจกห้องนักบินไฟเบอร์และระบบควบคุมการบินแบบ Fly-by-wire ตัวเครื่องผลิตจากอัลลอยน้ำหนักเบา โครงสร้างผลิตจากเหล็กและไททาเนียม

SIKORSKY CH-53E Super Stallion เฮลิคอปเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ พัฒนามาจาก CH-53 ซีสตัลเลียน เพิ่มเครื่องยนต์ที่สามเข้าไป กะลาสีและนาวิกโยธินมักเรียกมันว่า"ตัวสร้างเฮอร์ริเคน" เพราะทำให้เกิดกำแพงลมขณะบินขึ้น สร้างขึ้นโดยซิคอร์สกี้ แอร์คราฟท์ให้กับนาวิกโยธินสหรัฐ

อีกรุ่นหนึ่งคือเอ็มเอช-53อี ซีดรากอน (MH-53E Sea Dragon) ซึ่งเป็นของกองทัพเรือสหรัฐเพื่อใช้ในการกวาดทุ่นระเบิดและบรรทุกของหนัก ซีเอช-53อี/เอ็มเอช-53อีถูกเรียกว่า"เอส-80"โดยซิคอร์สกี้

ปัจจุบันกำลังพัฒนา ซีเอช-53เค ซึ่งจะติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ ใบพัดที่ใช้วัสดุผสม และภายในที่กว้างขึ้น

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!