SiteMinder เผยแนวทางการปรับตัวรับ Workations เทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในประเทศไทย โดย นายแบรดลีย์ ไฮนส์ รองประธานฝ่ายภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ของ SiteMinder


กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – หนึ่งในสิ่งที่ผมได้ตระหนักในช่วงกว่า 18 เดือนที่ผ่านมา คือเราไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศแห่งเดียวกัน เพื่อทำงานร่วมกันเสมอไป แม้ภายหลังจากที่กรุงเทพฯ กลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง การได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ SiteMinder ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและการได้พบหน้ากัน ถือเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่สามารถทดแทนได้ หากแต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ได้หลีกเลี่ยงการเดินทางในตอนเช้า และมีโอกาสที่ได้ใช้เวลานั้นรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวที่บ้านมากขึ้นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน

และแน่นอนผมไม่ใช่เพียงคนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ โดยผลจากการศึกษาพบว่า ชาวไทยสามารถปรับตัวรับการทำงานที่ยืดหยุ่น และสามารถประยุกต์การทำงานเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น และจากผลสำรวจล่าสุดจาก Changing Traveller Report พบว่า กว่า 51% ของคนไทย วางแผนที่จะทำงานไปด้วยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งสูงกว่าประเทศในอันดับถัดมาอย่างสหรัฐอเมริกาถึง 10% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ 21% นี่ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์การทำงานร่วมกับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มช่วงเวลาการลาพักร้อนประจำปีได้มากยิ่งขึ้น

ผลสำรวจนี้ เปรียบเสมือนสัญญาณเตือน สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่ต้องการรองรับแขกผู้เข้าพักกลุ่มนี้ ว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่ได้วางแผนการเดินทางเพื่อการพักผ่อนในช่วงวันหยุดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ยังได้เพิ่มการทำงานลงไปในแผนการเดินทางของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลากหลายโรงแรมที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยด้วย ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆในภูมิภาค เริ่มมีการวางแผนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อรองรับการเดินทางในรูปแบบ ‘Workations’ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถทำงานทางไกลได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้เริ่มปรับตัวเพื่อรับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงและจะดำรงอยู่ไปในระยะยาวนี้

ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ ในการเสนอแนวทางต่างๆ ที่เราได้เห็นกลุ่มลูกค้าของเราใช้ เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ที่จะยิ่งเติบโตขึ้นอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเป็นแนวทางให้โรงแรมต่างๆ ใช้ในการปรับตัวได้ทันท่วงที

นายแบรดลีย์ ไฮนส์ รองประธานฝ่ายภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ของ SiteMinder

ประการแรก เมื่อปริมาณของแขกผู้เข้าพักในกลุ่ม Workation เพิ่มมากขึ้น การสร้างข้อเสนอพิเศษสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ตามหลักแล้ว Workations เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวได้นานกว่าการมาพักผ่อนแบบปกติ พร้อมหลักประกันว่าจะยังคงมีรายได้อยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อผู้คนเริ่มปรับตัวเข้ากับการท่องเที่ยวแบบค่อยเป็นค่อยไป ที่กินระยะเวลานานนี้ การสร้างแพ็คเกจพิเศษที่เหมาะ สำหรับการเข้าพักในระยะยาว หรือการเข้าพักอย่างไม่จำกัดระยะเวลา จะยิ่งมีส่วนช่วยในการดึงดูดแขกผู้เข้าพักได้ แต่อย่างไรก็ตามอาจขึ้นอยู่กับที่ตั้งของโรงแรมนั้นๆด้วย ตัวอย่างเช่น หากโรงแรมของคุณตั้งอยู่กลางใจเมือง การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด และต้องการที่พักในเมือง 2-3 คืนในช่วงกลางสัปดาห์ อาจเหมาะสมมากกว่า

ประการที่สอง คือการสร้างพื้นที่ทำงานให้เป็นแรงบันดาลใจในการอยากเดินทางมาเข้าพัก หลากหลายโรงแรมที่เราร่วมงานด้วย ต่างมุ่งเน้นการยกระดับพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working space) ให้ดียิ่งขึ้น โดยแต่ละโรงแรมสามารถเสริมไอเดียไม่ว่าจะเป็น การจัดโต๊ะให้เห็นทัศนียภาพของโรงแรม การปลูกต้นไม้ในร่มเพื่อเพิ่มออกซิเจน หรือสร้างพื้นที่ให้แขกผู้เข้าพักสามารถทำงานในพื้นที่กลางแจ้งได้ รวมไปถึงการนำเสนอจุดขายที่แตกต่าง อย่างเช่น การทำงานกลางแจ้งที่สะดวกสบาย หรือ วิวทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล เป็นต้น ซึ่งนับเป็นข้อดี ที่จะสามารถดึงดูดผู้ที่ทำงานในสถานที่เดิมๆ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน และกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ

ประการที่สาม คือการช่วยค้นหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตัวอย่างเช่น หนึ่งในลูกค้าของเราได้มีการออกแบบเมนูอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (productivity-introducing) หรือบางรายก็มีการจัดหาพ่อบ้าน หรือ work butlers ที่คอยช่วยดูแลด้านงานธุรการต่างๆ อย่างเช่น การปริ้นเอกสาร หรือการสแกนงาน และแม้แต่งานอย่างการจัดหาเสบียง ก็เป็นวิธีที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แขกผู้เข้าพักได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นระหว่างการเข้าพัก

ประการที่สี่ คือการจัดเตรียมรองรับกลุ่มครอบครัว หลากหลายคนที่กำลังสนใจใน Workations อาจจะต้องการการพาครอบครัวไปด้วย ดังนั้น นี่จึงเป็นกลุ่มสำคัญที่ทางโรงแรมต้องคำนึงถึงเช่นกัน ลูกค้าบางโรงแรมของเรา ได้มีการจัดโปรแกรมเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก เพื่อสร้างความสบายใจให้กับผู้ปกครองในระหว่างที่ต้องทำงาน ในขณะที่ลูกค้าบางโรงแรม ก็มีการสร้างแผนการเดินทางสำหรับการทัศนศึกษาในท้องถิ่นที่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆ เพื่อให้เด็กๆได้พักสายตาจากหน้าจอ

ประการที่ห้า คือการทำให้สนุก ถึงแม้ว่าการทำงานอาจจะใช้เวลาไปทั้งวัน แต่สิ่งสำคัญสำหรับแขกผู้เข้าพัก คือการเพลิดเพลินไปกับเวลาส่วนตัวของพวกเขาในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ผมเห็นโรงแรมหลากหลายแห่ง เสนอสิทธิพิเศษ เช่น ออกรอบตีกอล์ฟฟรี หรือชั้นเรียนทำอาหาร เพื่อให้แขกผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายจากการทำงาน

สุดท้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดสำหรับการทำงาน อย่างน้อยที่สุดทางโรงแรมควรจัดเตรียม บริการ Wifi ฟรีและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่รองรับการประชุมทางวิดิโอ เก้าอี้นั่งทำงานที่นั่งสบาย และโต๊ะทำงานที่มีคุณภาพและกว้างขวาง การได้รับรีวิวว่าอินเทอร์เน็ตของโรงแรมคุณช้าและไม่เสถียร เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับลูกค้ากลุ่มนี้

หากมองในมุมระดับประเทศ ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ Workations ทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผลสำรวจจาก Holidu บริษัทจากประเทศเยอรมัน เผยว่า ทั้งกรุงเทพฯและภูเก็ต ถูกจัดอันให้เป็น 1 ใน 10 เมืองชั้นนำจากทั่วโลก สำหรับการ Workations โดยกรุงเทพฯถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 1 รวมถึงประเทศไทยยังมีเมืองตากอากาศสำคัญให้คนในประเทศได้หลีกหนีจากในเมืองหลวงอีกด้วย

สำหรับผม และทีมงานหลายคนที่ SiteMinder เชื่อว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเราไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น Workations จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน และเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภายในประเทศที่ต้องการใช้เวลาพักผ่อนไกลจากที่อยู่อาศัยประจำวัน รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานแบบ Workations ในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้อีกแล้ว

เกี่ยวกับ SiteMinder

SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มระดับโลกด้านโฮเทลคอมเมิร์ซแบบ Open Platform ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยี ที่ช่วยให้โรงแรมทุกแห่งสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ผ่านออนไลน์คอมเมิร์ซ ซึ่งนับเป็นบทบาทสำคัญในฐานะตัวกลางที่ทำให้ SiteMinder ได้รับความไว้วางใจจากโรงแรมหลายหมื่นแห่ง จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ในการเปิดให้จองห้องพัก ทำการตลาด บริหารจัดการและสร้างการเติบโตทางธุรกิจ โดย SiteMinder ถือเป็นบริษัทระดับโลก ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง ซิดนีย์ และสำนักงานย่อยอยู่ทั้งใน กรุงเทพฯ เบอร์ลิน ดัลลัส กัลเวย์ ลอนดอน และ กรุงมะนิลา ซึ่งได้จัดสรรการจองแล้วกว่า 100 ล้านครั้ง สร้างรายได้จากการจองกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.siteminder.com

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - หนึ่งในสิ่งที่ผมได้ตระหนักในช่วงกว่า 18 เดือนที่ผ่านมา คือเราไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศแห่งเดียวกัน เพื่อทำงานร่วมกันเสมอไป แม้ภายหลังจากที่กรุงเทพฯ กลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง การได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ SiteMinder ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและการได้พบหน้ากัน ถือเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่สามารถทดแทนได้ หากแต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ได้หลีกเลี่ยงการเดินทางในตอนเช้า และมีโอกาสที่ได้ใช้เวลานั้นรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวที่บ้านมากขึ้นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน

และแน่นอนผมไม่ใช่เพียงคนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ โดยผลจากการศึกษาพบว่า ชาวไทยสามารถปรับตัวรับการทำงานที่ยืดหยุ่น และสามารถประยุกต์การทำงานเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น และจากผลสำรวจล่าสุดจาก Changing Traveller Report พบว่า กว่า 51% ของคนไทย วางแผนที่จะทำงานไปด้วยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งสูงกว่าประเทศในอันดับถัดมาอย่างสหรัฐอเมริกาถึง 10% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ 21% นี่ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์การทำงานร่วมกับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มช่วงเวลาการลาพักร้อนประจำปีได้มากยิ่งขึ้น

ผลสำรวจนี้ เปรียบเสมือนสัญญาณเตือน สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่ต้องการรองรับแขกผู้เข้าพักกลุ่มนี้ ว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่ได้วางแผนการเดินทางเพื่อการพักผ่อนในช่วงวันหยุดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ยังได้เพิ่มการทำงานลงไปในแผนการเดินทางของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลากหลายโรงแรมที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยด้วย ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆในภูมิภาค เริ่มมีการวางแผนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อรองรับการเดินทางในรูปแบบ ‘Workations’ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถทำงานทางไกลได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้เริ่มปรับตัวเพื่อรับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงและจะดำรงอยู่ไปในระยะยาวนี้

ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ ในการเสนอแนวทางต่างๆ ที่เราได้เห็นกลุ่มลูกค้าของเราใช้ เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ที่จะยิ่งเติบโตขึ้นอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเป็นแนวทางให้โรงแรมต่างๆ ใช้ในการปรับตัวได้ทันท่วงที

นายแบรดลีย์ ไฮนส์ รองประธานฝ่ายภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ของ SiteMinder

ประการแรก เมื่อปริมาณของแขกผู้เข้าพักในกลุ่ม Workation เพิ่มมากขึ้น การสร้างข้อเสนอพิเศษสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ตามหลักแล้ว Workations เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวได้นานกว่าการมาพักผ่อนแบบปกติ พร้อมหลักประกันว่าจะยังคงมีรายได้อยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อผู้คนเริ่มปรับตัวเข้ากับการท่องเที่ยวแบบค่อยเป็นค่อยไป ที่กินระยะเวลานานนี้ การสร้างแพ็คเกจพิเศษที่เหมาะ สำหรับการเข้าพักในระยะยาว หรือการเข้าพักอย่างไม่จำกัดระยะเวลา จะยิ่งมีส่วนช่วยในการดึงดูดแขกผู้เข้าพักได้ แต่อย่างไรก็ตามอาจขึ้นอยู่กับที่ตั้งของโรงแรมนั้นๆด้วย ตัวอย่างเช่น หากโรงแรมของคุณตั้งอยู่กลางใจเมือง การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด และต้องการที่พักในเมือง 2-3 คืนในช่วงกลางสัปดาห์ อาจเหมาะสมมากกว่า

ประการที่สอง คือการสร้างพื้นที่ทำงานให้เป็นแรงบันดาลใจในการอยากเดินทางมาเข้าพัก หลากหลายโรงแรมที่เราร่วมงานด้วย ต่างมุ่งเน้นการยกระดับพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working space) ให้ดียิ่งขึ้น โดยแต่ละโรงแรมสามารถเสริมไอเดียไม่ว่าจะเป็น การจัดโต๊ะให้เห็นทัศนียภาพของโรงแรม การปลูกต้นไม้ในร่มเพื่อเพิ่มออกซิเจน หรือสร้างพื้นที่ให้แขกผู้เข้าพักสามารถทำงานในพื้นที่กลางแจ้งได้ รวมไปถึงการนำเสนอจุดขายที่แตกต่าง อย่างเช่น การทำงานกลางแจ้งที่สะดวกสบาย หรือ วิวทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล เป็นต้น ซึ่งนับเป็นข้อดี ที่จะสามารถดึงดูดผู้ที่ทำงานในสถานที่เดิมๆ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน และกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ

ประการที่สาม คือการช่วยค้นหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตัวอย่างเช่น หนึ่งในลูกค้าของเราได้มีการออกแบบเมนูอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (productivity-introducing) หรือบางรายก็มีการจัดหาพ่อบ้าน หรือ work butlers ที่คอยช่วยดูแลด้านงานธุรการต่างๆ อย่างเช่น การปริ้นเอกสาร หรือการสแกนงาน และแม้แต่งานอย่างการจัดหาเสบียง ก็เป็นวิธีที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แขกผู้เข้าพักได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นระหว่างการเข้าพัก

ประการที่สี่ คือการจัดเตรียมรองรับกลุ่มครอบครัว หลากหลายคนที่กำลังสนใจใน Workations อาจจะต้องการการพาครอบครัวไปด้วย ดังนั้น นี่จึงเป็นกลุ่มสำคัญที่ทางโรงแรมต้องคำนึงถึงเช่นกัน ลูกค้าบางโรงแรมของเรา ได้มีการจัดโปรแกรมเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก เพื่อสร้างความสบายใจให้กับผู้ปกครองในระหว่างที่ต้องทำงาน ในขณะที่ลูกค้าบางโรงแรม ก็มีการสร้างแผนการเดินทางสำหรับการทัศนศึกษาในท้องถิ่นที่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆ เพื่อให้เด็กๆได้พักสายตาจากหน้าจอ

ประการที่ห้า คือการทำให้สนุก ถึงแม้ว่าการทำงานอาจจะใช้เวลาไปทั้งวัน แต่สิ่งสำคัญสำหรับแขกผู้เข้าพัก คือการเพลิดเพลินไปกับเวลาส่วนตัวของพวกเขาในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ผมเห็นโรงแรมหลากหลายแห่ง เสนอสิทธิพิเศษ เช่น ออกรอบตีกอล์ฟฟรี หรือชั้นเรียนทำอาหาร เพื่อให้แขกผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายจากการทำงาน

สุดท้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดสำหรับการทำงาน อย่างน้อยที่สุดทางโรงแรมควรจัดเตรียม บริการ Wifi ฟรีและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่รองรับการประชุมทางวิดิโอ เก้าอี้นั่งทำงานที่นั่งสบาย และโต๊ะทำงานที่มีคุณภาพและกว้างขวาง การได้รับรีวิวว่าอินเทอร์เน็ตของโรงแรมคุณช้าและไม่เสถียร เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับลูกค้ากลุ่มนี้

หากมองในมุมระดับประเทศ ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ Workations ทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผลสำรวจจาก Holidu บริษัทจากประเทศเยอรมัน เผยว่า ทั้งกรุงเทพฯและภูเก็ต ถูกจัดอันให้เป็น 1 ใน 10 เมืองชั้นนำจากทั่วโลก สำหรับการ Workations โดยกรุงเทพฯถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 1 รวมถึงประเทศไทยยังมีเมืองตากอากาศสำคัญให้คนในประเทศได้หลีกหนีจากในเมืองหลวงอีกด้วย

สำหรับผม และทีมงานหลายคนที่ SiteMinder เชื่อว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเราไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น Workations จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน และเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภายในประเทศที่ต้องการใช้เวลาพักผ่อนไกลจากที่อยู่อาศัยประจำวัน รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานแบบ Workations ในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้อีกแล้ว

เกี่ยวกับ SiteMinder

SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มระดับโลกด้านโฮเทลคอมเมิร์ซแบบ Open Platform ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยี ที่ช่วยให้โรงแรมทุกแห่งสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ผ่านออนไลน์คอมเมิร์ซ ซึ่งนับเป็นบทบาทสำคัญในฐานะตัวกลางที่ทำให้ SiteMinder ได้รับความไว้วางใจจากโรงแรมหลายหมื่นแห่ง จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ในการเปิดให้จองห้องพัก ทำการตลาด บริหารจัดการและสร้างการเติบโตทางธุรกิจ โดย SiteMinder ถือเป็นบริษัทระดับโลก ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง ซิดนีย์ และสำนักงานย่อยอยู่ทั้งใน กรุงเทพฯ เบอร์ลิน ดัลลัส กัลเวย์ ลอนดอน และ กรุงมะนิลา ซึ่งได้จัดสรรการจองแล้วกว่า 100 ล้านครั้ง สร้างรายได้จากการจองกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.siteminder.com

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!