The Legends of Automobile : ตอนที่ 1 ก่อนกำเนิดรถยนต์คันแรกของโลก


By : C. Methas – Managing Edition

รถยนต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ ทั้งด้านวัฒนธรรม, ประเพณีและสังคม เป็นการ “ปฏิวัติ” วิถีการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลกในอดีตที่เป็นสังคมแบบเกษตรกรรมได้เปลี่ยนไปสู่สังคมแบบอุตสาหกรรม

ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอารยธรรมต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองนั้นคาดว่ามีมานับหมื่นปี อีกหนึ่งแหล่งอารยธรรมโบราณของชาว “อินคา” ที่มีภาษาท้องถิ่นเป็นของตนเองเรียกว่า ภาษาไอย์มารา การก่อสร้างปิรามิดต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “ล้อ” และ “ล้อเลื่อน” ซึ่งมีสัญลักษณ์ให้เห็นอยู่บนกำแพงของปิรามิด ปัจจุบันยังมีสิ่งปลูกสร้างโบราณต่าง ๆ มากมาย ล่าสุดได้มีการค้นพบปิรามิดอันใหม่ในเม็กซิโก

โบราณสถานที่เป็นแหล่งอารยธรรมของชนเผ่า “อินคา” ที่ Machu Picchu, Cuzco เมืองโบราณบนเทือกเขาสูง ชนเผ่าอินคา ได้ชื่อว่า เป็นชนเผ่าที่มีอารยธรรมสูง เป็นอาณาจักรของจักรวรรดิอินคาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ 20,000 ปี (ขณะที่ปิรามิดในอียิปต์มีอายุราว 4,600 ปีเท่านั้น) ได้มีการค้นพบถ้ำที่ Piquimachay และมีการค้นพบผลงานด้านเครื่องปั้นดินเผา เครื่องโลหะและเสื้อผ้าถักทอก่อนที่จะมาเป็นอาณาจักรอินคาที่ยิ่งใหญ่ มีศูนย์กลางการบริหาร, การทหารและการเมืองอยู่ที่ Cuzco ก่อนที่สเปนเข้ามาครอบครอง ซึ่งเปรูเป็นอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดของสเปนในอเมริกา

อินคา มีความหมายว่า “พระเจ้าบนพื้นโลก” เป็นสังคมที่รักสันติภาพและความสงบสุบ แตกต่างกันชนเผ่า แอสแทค ที่ได้ชื่อว่าเป็นชนเผ่านักรบ ปัจจุบันยังมีบทเพลงของชาวอินคาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน และมีนักร้องที่มีเชื้อสายของชาวอินคาในอดีตที่ได้รับการบันทึกเสียงตามบทเพลงในอดีต ซึ่งเปรูมีเอกลักษณ์ของดนตรีเฉพาะตัว ที่เรียกว่า Andean Peruvian Music และมีเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์หลายชนิดด้วยกัน เช่นกีต้าร์ Cajon เพลงที่โด่งดังได้แก่บทเพลง El Condor Pasa

อาณาจักรอินคาเปรียบเสมือนสังคม “ยูโทเปียน” ของยุโรป ซึ่งเป็นสังคมในจินตนาการ

ก่อนจะมาเป็นรถยนต์ซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันตั้งแต่ยุค “การปฏิวัติอุตสาหกรรม” ระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1750-1850 เครื่องจักรกลต่าง ๆ ได้รับการประดิษฐ์สร้างขึ้นมารองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ

ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม สังคมมนุษย์ได้ผ่านขบวนการพัฒนาตามยุคสมัยต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ได้เริ่มคิดประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ผ่านการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์และอารยธรรมได้เริ่มเกิดขึ้นตามแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่ยุคหินเก่าวิวัฒนาการสู่ยุคหินใหม่

ในยุคหินใหม่ได้แบ่งออกเป็นยุคสมัยโลหะและยุคสมัยเหล็กที่ได้มีการนำวัสดุที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อการทำเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบกว่ายุคก่อนที่ดำรงชีวิตแบบเร่ร่อนและอาศัยอยู่ตามถ้ำ

นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาเป็นอาวุธต่าง ๆ เนื่องจากได้เริ่มมีการจัดตั้งกองกำลังเพื่อขยายดินแดนอาณาเขตและกลายเป็นอาณาจักร

หลังจากการพบแหล่งแร่ฐาตุทองแดง, ดีบุกและเหล็ก ต่อมาได้นำมาถลุงเพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องมือต่าง ๆ โดยเครื่องมือเครื่องใช้มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก นักโบราณคดีได้พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป

หลังจากมนุษย์ได้คิดค้นประดิษฐ์อักษรขึ้นมาเป็นครั้งแรกที่เรียกว่า “อักษรคูนิฟอร์ม” โดยกลุ่มชนในยุคเมโสโปเตเมียที่ตั้งอยู่แถบลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรติส วิทยาการต่าง ๆ ได้รับการถ่ายทอดและขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ขณะทางแถบเอเชียที่ประเทศจีนได้คิดค้นการผลิตกระดาษและการพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก

ในยุคสมัยศิลปะวิทยาการ (Renaissance) เป็นการฟื้นฟูความคิดและศิลปกรรมของกรีก-โรมัน วิทยาการต่าง ๆ ได้แผ่ขยายไปอย่างรวดเร็วซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติอีกครั้ง

อิทธิพลความเชื่อทางศาสนามีบทบาทลดลง แนวคิดทางเหตุผลและวิทยาศาสตร์มีมากขึ้นที่ได้ส่งผลต่อมาให้เกิดการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะบทบาทของเซอร์ไอแซก นิวตันที่ต่อมาได้รับการยอมรับว่าเป็นนักคิดที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อ “ปฏิวัติโลก” ในประวัติศาสตร์

ระบบเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนไปสู่ระบบเสรีนิยมและกระบวนการผลิตได้พัฒนาเป็นแบบอุตสาหกรรม การกำเนิดรถยนต์ได้เริ่มก่อร่างขึ้นมาในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการคมนาคมขนส่งและเทคโนโลยี่โดยเริ่มต้นที่สหราชอาณาจักรและต่อมาได้ขยายวงกว้างออกไปทั่วโลกและส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร

เครื่องจักรไอน้ำได้ถูกสร้างขึ้นมาในยุคนี้โดยเจมส์ วัตต์ จุดประสงค์แรกเพื่อนำไปสูบน้ำออกจากเหมือง ซึ่งต่อมาได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยเครื่องจักรไอน้ำได้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมโรงงานและได้มีการพัฒนานำเครื่องจักรไอน้ำไปเป็นขุมพลังให้กับเรือกลไฟ, รถไฟและรถยนต์ในเวลาต่อมา เป็นการยุติบทบาทของแรงงานมนุษย์, พลังงานจากน้ำ, พลังงานจากลมและแรงงานจากสัตว์ที่ใช้ลากหรือบรรทุกสัมภาระ เช่น ม้า, ลา, ล่อ, วัว, ควาย, กวางและอูฐเป็นต้น

ก่อนจะมาเป็นรถยนต์ดังเช่นในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากเริ่มแรกที่ยังไม่มีการประดิษฐ์ล้อโดยใช้ม้าลากไม้ 2 ท่อนที่ต่อด้านท้ายและติดลั๋วไว้ด้านบนเพื่อใส่สัมภาระดังจะเห็นได้จากชนชาติพี้นเมือง Cheyenne ชนเผ่าอินเดียแดงในอเมริกาเหนือ

ต่อมาได้พัฒนาเป็น “เลื่อน” รูปแบบคล้ายกับเลื่อนที่ใช้กันในแถบภูมิภาคที่มีหิมะ ต่อมาได้พัฒนาเป็น “รถลาก” ซึ่งมีหลายรูปแบบที่ใช้ทั้งแรงงานคนและแรงงานสัตว์สำหรับลากรถซึ่งพบมากในแถบเอเซียโดยได้พัฒนามาในยุคใกล้เคียงกับ “เกวียน”

“รถลาก” ได้ถูกค้นพบในแถบกลุ่มเซลติคยุคก่อนประวัติศาสตร์ทางยุโรป ส่วนในประเทศญี่ปุ่นพบรถลากในราวปี ค.ศ. 1868 ในยุคสมัยเมจิโดยเป็นพาหนะสำหรับพวกมิชชันนารีที่เข้าไปเผยแพร่ศาสนาในญี่ปุ่นและได้รับความนิยมมากกว่า “เกี้ยว” ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการใช้แรงงานคนลากรถมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้แรงงานสัตว์ เนื่องจากสัตว์ต่าง ๆ ต้องรับการเลี้ยงดูที่ยุ่งยากมากกว่า

“รถม้า” ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้มีการใช้ตั้งแต่ยุคเมโสโปเตเมีย ต่อมาได้พัฒนานำไปใช้สำหรับการทำศึกสงครามโดยเทียบม้า 1-2 ตัวเพื่อการเดินทางส่งนักรบไปสู่สมรภูมิได้อย่างรวดเร็ว(แบบเดียวกับรถศึกในภาพยนตร์เรื่อง “เบนเฮอร์”)

ส่วนในจีนมีการประดิษฐ์รถม้าในยุคราชวงศ์โจวซึ่งได้มีการใช้เทคนิคที่ทันสมัย ต่อมา “รถม้า” ได้มีการพัฒนาไปหลากหลายรูปแบบเพื่อสนองตอบต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ล่าสุดได้พัฒนาเป็นรถโดยสารที่มีประตูเปิดด้านข้าง ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ ที่นั่งผู้ขับอยู่ทางด้านหน้าและรูปทรงภายนอกได้มีการตกแต่งอย่างหรูหราเป็นผลงานเชิงศิลป์โดยในช่วงยุคศตวรรษที่ 18 ถนนหนทางเริ่มมีการก่อสร้างได้ดีขึ้นและถนนได้ถูกขยายออกไปในวงกว้าง ระบบกันสะเทือนได้นำนวัตกรรมสปริงขดมาใช้เพิ่มความนุ่มนวลมากขึ้น

ระบบบังคับเลี้ยวได้มีการพัฒนาต่อมาอย่างแท้จริงโดยนายแพทย์อีราสทัส ดาร์วิน แพทย์หนุ่มที่ต้องเดินทางด้วยรถม้าประมาณ 10,000 ไมล์ต่อปีเพื่อเยี่ยมผู้ป่วยทั่วเกาะอังกฤษ พบว่าคานด้านหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับระบบบังคับเลี้ยวมีปัญหาจากการกระแทกกับหลุมบ่อตามท้องถนนจึงได้มีการปรับปรุงใหม่โดยย้ายระบบบังคับเลี้ยวมาอยู่ด้านหลังของคานหน้า นอกจากนี้ยังส่งผลให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลงโดยระบบนี้เรียกว่า Ackerman Steering

By : C. Methas - Managing Edition

รถยนต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ ทั้งด้านวัฒนธรรม, ประเพณีและสังคม เป็นการ “ปฏิวัติ” วิถีการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลกในอดีตที่เป็นสังคมแบบเกษตรกรรมได้เปลี่ยนไปสู่สังคมแบบอุตสาหกรรม

ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอารยธรรมต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองนั้นคาดว่ามีมานับหมื่นปี อีกหนึ่งแหล่งอารยธรรมโบราณของชาว “อินคา” ที่มีภาษาท้องถิ่นเป็นของตนเองเรียกว่า ภาษาไอย์มารา การก่อสร้างปิรามิดต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “ล้อ” และ “ล้อเลื่อน” ซึ่งมีสัญลักษณ์ให้เห็นอยู่บนกำแพงของปิรามิด ปัจจุบันยังมีสิ่งปลูกสร้างโบราณต่าง ๆ มากมาย ล่าสุดได้มีการค้นพบปิรามิดอันใหม่ในเม็กซิโก

โบราณสถานที่เป็นแหล่งอารยธรรมของชนเผ่า “อินคา” ที่ Machu Picchu, Cuzco เมืองโบราณบนเทือกเขาสูง ชนเผ่าอินคา ได้ชื่อว่า เป็นชนเผ่าที่มีอารยธรรมสูง เป็นอาณาจักรของจักรวรรดิอินคาที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ 20,000 ปี (ขณะที่ปิรามิดในอียิปต์มีอายุราว 4,600 ปีเท่านั้น) ได้มีการค้นพบถ้ำที่ Piquimachay และมีการค้นพบผลงานด้านเครื่องปั้นดินเผา เครื่องโลหะและเสื้อผ้าถักทอก่อนที่จะมาเป็นอาณาจักรอินคาที่ยิ่งใหญ่ มีศูนย์กลางการบริหาร, การทหารและการเมืองอยู่ที่ Cuzco ก่อนที่สเปนเข้ามาครอบครอง ซึ่งเปรูเป็นอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดของสเปนในอเมริกา

อินคา มีความหมายว่า “พระเจ้าบนพื้นโลก” เป็นสังคมที่รักสันติภาพและความสงบสุบ แตกต่างกันชนเผ่า แอสแทค ที่ได้ชื่อว่าเป็นชนเผ่านักรบ ปัจจุบันยังมีบทเพลงของชาวอินคาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน และมีนักร้องที่มีเชื้อสายของชาวอินคาในอดีตที่ได้รับการบันทึกเสียงตามบทเพลงในอดีต ซึ่งเปรูมีเอกลักษณ์ของดนตรีเฉพาะตัว ที่เรียกว่า Andean Peruvian Music และมีเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์หลายชนิดด้วยกัน เช่นกีต้าร์ Cajon เพลงที่โด่งดังได้แก่บทเพลง El Condor Pasa

อาณาจักรอินคาเปรียบเสมือนสังคม “ยูโทเปียน” ของยุโรป ซึ่งเป็นสังคมในจินตนาการ

ก่อนจะมาเป็นรถยนต์ซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันตั้งแต่ยุค “การปฏิวัติอุตสาหกรรม” ระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1750-1850 เครื่องจักรกลต่าง ๆ ได้รับการประดิษฐ์สร้างขึ้นมารองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ

ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม สังคมมนุษย์ได้ผ่านขบวนการพัฒนาตามยุคสมัยต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ได้เริ่มคิดประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ผ่านการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์และอารยธรรมได้เริ่มเกิดขึ้นตามแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่ยุคหินเก่าวิวัฒนาการสู่ยุคหินใหม่

ในยุคหินใหม่ได้แบ่งออกเป็นยุคสมัยโลหะและยุคสมัยเหล็กที่ได้มีการนำวัสดุที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อการทำเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบกว่ายุคก่อนที่ดำรงชีวิตแบบเร่ร่อนและอาศัยอยู่ตามถ้ำ

นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาเป็นอาวุธต่าง ๆ เนื่องจากได้เริ่มมีการจัดตั้งกองกำลังเพื่อขยายดินแดนอาณาเขตและกลายเป็นอาณาจักร

หลังจากการพบแหล่งแร่ฐาตุทองแดง, ดีบุกและเหล็ก ต่อมาได้นำมาถลุงเพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องมือต่าง ๆ โดยเครื่องมือเครื่องใช้มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก นักโบราณคดีได้พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป

หลังจากมนุษย์ได้คิดค้นประดิษฐ์อักษรขึ้นมาเป็นครั้งแรกที่เรียกว่า “อักษรคูนิฟอร์ม” โดยกลุ่มชนในยุคเมโสโปเตเมียที่ตั้งอยู่แถบลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรติส วิทยาการต่าง ๆ ได้รับการถ่ายทอดและขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ขณะทางแถบเอเชียที่ประเทศจีนได้คิดค้นการผลิตกระดาษและการพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก

ในยุคสมัยศิลปะวิทยาการ (Renaissance) เป็นการฟื้นฟูความคิดและศิลปกรรมของกรีก-โรมัน วิทยาการต่าง ๆ ได้แผ่ขยายไปอย่างรวดเร็วซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติอีกครั้ง

อิทธิพลความเชื่อทางศาสนามีบทบาทลดลง แนวคิดทางเหตุผลและวิทยาศาสตร์มีมากขึ้นที่ได้ส่งผลต่อมาให้เกิดการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะบทบาทของเซอร์ไอแซก นิวตันที่ต่อมาได้รับการยอมรับว่าเป็นนักคิดที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อ “ปฏิวัติโลก” ในประวัติศาสตร์

ระบบเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนไปสู่ระบบเสรีนิยมและกระบวนการผลิตได้พัฒนาเป็นแบบอุตสาหกรรม การกำเนิดรถยนต์ได้เริ่มก่อร่างขึ้นมาในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการคมนาคมขนส่งและเทคโนโลยี่โดยเริ่มต้นที่สหราชอาณาจักรและต่อมาได้ขยายวงกว้างออกไปทั่วโลกและส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร

เครื่องจักรไอน้ำได้ถูกสร้างขึ้นมาในยุคนี้โดยเจมส์ วัตต์ จุดประสงค์แรกเพื่อนำไปสูบน้ำออกจากเหมือง ซึ่งต่อมาได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยเครื่องจักรไอน้ำได้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมโรงงานและได้มีการพัฒนานำเครื่องจักรไอน้ำไปเป็นขุมพลังให้กับเรือกลไฟ, รถไฟและรถยนต์ในเวลาต่อมา เป็นการยุติบทบาทของแรงงานมนุษย์, พลังงานจากน้ำ, พลังงานจากลมและแรงงานจากสัตว์ที่ใช้ลากหรือบรรทุกสัมภาระ เช่น ม้า, ลา, ล่อ, วัว, ควาย, กวางและอูฐเป็นต้น

ก่อนจะมาเป็นรถยนต์ดังเช่นในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากเริ่มแรกที่ยังไม่มีการประดิษฐ์ล้อโดยใช้ม้าลากไม้ 2 ท่อนที่ต่อด้านท้ายและติดลั๋วไว้ด้านบนเพื่อใส่สัมภาระดังจะเห็นได้จากชนชาติพี้นเมือง Cheyenne ชนเผ่าอินเดียแดงในอเมริกาเหนือ

ต่อมาได้พัฒนาเป็น “เลื่อน” รูปแบบคล้ายกับเลื่อนที่ใช้กันในแถบภูมิภาคที่มีหิมะ ต่อมาได้พัฒนาเป็น “รถลาก” ซึ่งมีหลายรูปแบบที่ใช้ทั้งแรงงานคนและแรงงานสัตว์สำหรับลากรถซึ่งพบมากในแถบเอเซียโดยได้พัฒนามาในยุคใกล้เคียงกับ “เกวียน”

“รถลาก” ได้ถูกค้นพบในแถบกลุ่มเซลติคยุคก่อนประวัติศาสตร์ทางยุโรป ส่วนในประเทศญี่ปุ่นพบรถลากในราวปี ค.ศ. 1868 ในยุคสมัยเมจิโดยเป็นพาหนะสำหรับพวกมิชชันนารีที่เข้าไปเผยแพร่ศาสนาในญี่ปุ่นและได้รับความนิยมมากกว่า “เกี้ยว” ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการใช้แรงงานคนลากรถมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้แรงงานสัตว์ เนื่องจากสัตว์ต่าง ๆ ต้องรับการเลี้ยงดูที่ยุ่งยากมากกว่า

“รถม้า” ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้มีการใช้ตั้งแต่ยุคเมโสโปเตเมีย ต่อมาได้พัฒนานำไปใช้สำหรับการทำศึกสงครามโดยเทียบม้า 1-2 ตัวเพื่อการเดินทางส่งนักรบไปสู่สมรภูมิได้อย่างรวดเร็ว(แบบเดียวกับรถศึกในภาพยนตร์เรื่อง “เบนเฮอร์”)

ส่วนในจีนมีการประดิษฐ์รถม้าในยุคราชวงศ์โจวซึ่งได้มีการใช้เทคนิคที่ทันสมัย ต่อมา “รถม้า” ได้มีการพัฒนาไปหลากหลายรูปแบบเพื่อสนองตอบต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ล่าสุดได้พัฒนาเป็นรถโดยสารที่มีประตูเปิดด้านข้าง ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ ที่นั่งผู้ขับอยู่ทางด้านหน้าและรูปทรงภายนอกได้มีการตกแต่งอย่างหรูหราเป็นผลงานเชิงศิลป์โดยในช่วงยุคศตวรรษที่ 18 ถนนหนทางเริ่มมีการก่อสร้างได้ดีขึ้นและถนนได้ถูกขยายออกไปในวงกว้าง ระบบกันสะเทือนได้นำนวัตกรรมสปริงขดมาใช้เพิ่มความนุ่มนวลมากขึ้น

ระบบบังคับเลี้ยวได้มีการพัฒนาต่อมาอย่างแท้จริงโดยนายแพทย์อีราสทัส ดาร์วิน แพทย์หนุ่มที่ต้องเดินทางด้วยรถม้าประมาณ 10,000 ไมล์ต่อปีเพื่อเยี่ยมผู้ป่วยทั่วเกาะอังกฤษ พบว่าคานด้านหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับระบบบังคับเลี้ยวมีปัญหาจากการกระแทกกับหลุมบ่อตามท้องถนนจึงได้มีการปรับปรุงใหม่โดยย้ายระบบบังคับเลี้ยวมาอยู่ด้านหลังของคานหน้า นอกจากนี้ยังส่งผลให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลงโดยระบบนี้เรียกว่า Ackerman Steering

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!