The Legends of Automobile : ตอนที่ 14 จากเครื่องติดรถได้ขยายเป็นอุตสาหกรรมไปสู่เรือ, เรือเหาะและบอลลูน


By : C. Methas – Managing Editor

ปีค.ศ. 1885 Daimler และ Maybach ได้ร่วมกันคิดค้นเครื่องยนต์สันดาปภายในพัฒนาไปอีกขั้นซึ่งได้คิดค้นระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์สำหรับเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เครื่องยนต์รุ่นนี้ได้นำไปติดตั้งกับเรือที่มีความยาว 4.5 เมตรในปีค.ศ. 1886 สามารถทำความเร็วได้ 6 น็อตส์หรือ 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรือลำนี้ได้ชื่อว่า Neckar ซึ่งเป็นเรือยนต์ลำแรกของโลกและต่อมาเครื่องยนต์จากโรงงานของ Daimler ได้ผลิตเพื่อนำไปติดในเรือยนต์เป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ Daimler นำเครื่องยนต์ไปติดตั้งกับบอลลูนและได้กลายเป็นเรือเหาะหรือ Airship ลำแรกของโลกที่ออกแบบโดย Dr. Friedrich Hermann Wolfert แห่งเมือง Leipzig โดยทำการขึ้นบินครั้งแรกจากโรงงานของ Daimler สามารถบินเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตรไปยัง Aldingen Parade ใกล้กับเมือง Kornwestheim หลังจากนั้นอีก 2 วัน Gotthilf Wirsum ได้นำไฮโดรเจนเติมเข้าไปในบอลลูนและทำการบินจาก Cannstatt ติดตั้งเครื่องยนต์เข้าไปด้วย

การบินในระยะสั้นครั้งแรกของโลกได้ถูกนำไปเขียนโดย Dr. Friedrich Hermann Wolfert จัดพิมพ์เป็นหนังสือโดยสำนักพิมพ์ของเขาที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1873 ได้รับความสนใจอย่างมากจนกลายเป็นหนังสือขายดีที่สุดทางด้านการบินในยุคนั้น

ส่วนเครื่องยนต์ที่นำมาติดตั้งในบอลลูนเป็นเครื่องที่ Daimler ได้พัฒนาขึ้นใหม่ แบบ 1 ลูกสูบ ขนาด 603 ซีซี. ขับแรงม้าได้ 2 แรงม้าที่ 720 รอบต่อนาทีซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาทั้งเครื่องยนต์และบอลลูนและทำการบินอีก 3 ครั้ง

ส่วนการทดลองบินเมื่อวันที่ 12 เดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 1897 ด้วยบอลลูนลำใหม่ของ Wolfert ใช้ไฮโดรเจนและติดตั้งเครื่องยนต์ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขณะบินอยู่เหนือกรุงเบอร์ลินที่ระดับความสูง 670 ฟุต ทำให้ Dr. Friedrich Hermann Wolfert ทำหน้าที่นักบินและผู้ช่วยเสียชีวิตทั้งคู่

ต่อมาบอลลูนและเรือเหาะได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการติดเครื่องยนต์และอุปกรณ์ควบคุมการเดินทางต่าง ๆ จนสามารถขับเคลื่อนไปได้เป็นระยะทางไกลระดับข้ามทวีปและได้มีการพัฒนาไปใช้สำหรับการสงครามด้วยการนำเรือเหาะติดระเบิดไปทิ้งใส่ฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม แต่เนื่องจากเรือเหาะมีขนาดใหญ่ เคลื่อนตัวได้ช้าในที่สุดมีอันยุติบทบาทลงไปเปิดทางให้เครื่องบินที่มีการพัฒนาได้รวดเร็วและมีความคล่องตัวสูงเข้ามาทำหน้าที่แทน

Gottlieb Daimler เริ่มป่วยเนื่องมาจากโรคหัวใจในวัย 58 ปีช่วงฤดูร้อนระหว่างปี ค.ศ. 1892-1893 แพทย์ได้แนะนำให้เดินทางไปยังเมืองฟลอเรนซ์, อิตาลีเพื่อพักผ่อนและเขาได้พบกับ Lina Hartmann หญิงหม้ายวัย 22 ปีเจ้าของโรงแรมที่เขาพักและได้แต่งงานกันเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1893 ได้เดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เมืองชิคาโก, สหรัฐอเมริกาในระหว่างมีงาน World Fair

ในปี ค.ศ. 1894 ณ โรงแรมเฮอร์มานน์ Maybach ร่วมกับ Daimler และ Paul บุตรชายของเขาออกแบบเครื่องยนต์ใหม่รุ่นที่ 3 เรียกว่า Phoenix เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 ลูกสูบแนวตั้ง เสื้อสูบแบบหล่อชิ้นเดียว มีแคมชาร์ฟควบคุมระบบวาล์วไอเสีย คาร์บูเรเตอร์จ่ายน้ำมันแบบสเปรย์ฉีด

เครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงมากและได้ถูกผลิตส่งไปยังโรงงานผลิตรถยนต์ต่าง ๆ หลายแห่งประกอบด้วย Panhard et Levassor และ Peugeot แห่งฝรั่งเศส, Steinway & Sons บริษัทผลิตเปียโนในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมหุ้นระหว่างอเมริกันและเยอรมนี, Frederick Simms แห่งอังกฤษ (สาขาของเดมเลอร์ มอเตอร์ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็น Daimler Motor Company ในปี ค.ศ. 1896) และ Austro Daimler แห่งออสเตรีย

Gottlieb Daimler ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปี ค.ศ. 1900 ในวัย 65 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1907 Wilhelm Maybach ได้ลาออกจาก Daimler Motoren Gesellschaft

Wilhelm Maybach ได้สร้างรถยนต์ระดับหรูหราสูงสุดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1919 ต่อมาได้เข้าร่วมงานกับเมอเซเดส-เบนซ์และได้สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ไว้ให้กับเมอเซเดส-เบนซ์ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 2002 ทางเมอเซเดส-เบนซ์ได้นำชื่อยี่ห้อ Maybach รื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถยนต์ระดับหรูหราสูงสุดออกมา 2 รุ่น Maybach 57 และ Maybach 62 อีกหนึ่งตำนานรถยนต์สุดหรูซึ่งทางเมอเซเดส-เบนซ์ได้ประกาศจะยุติสายการผลิตลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2011 และได้ยุติการผลิตในปี ค.ศ. 2013

By : C. Methas - Managing Editor

ปีค.ศ. 1885 Daimler และ Maybach ได้ร่วมกันคิดค้นเครื่องยนต์สันดาปภายในพัฒนาไปอีกขั้นซึ่งได้คิดค้นระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์สำหรับเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เครื่องยนต์รุ่นนี้ได้นำไปติดตั้งกับเรือที่มีความยาว 4.5 เมตรในปีค.ศ. 1886 สามารถทำความเร็วได้ 6 น็อตส์หรือ 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรือลำนี้ได้ชื่อว่า Neckar ซึ่งเป็นเรือยนต์ลำแรกของโลกและต่อมาเครื่องยนต์จากโรงงานของ Daimler ได้ผลิตเพื่อนำไปติดในเรือยนต์เป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ Daimler นำเครื่องยนต์ไปติดตั้งกับบอลลูนและได้กลายเป็นเรือเหาะหรือ Airship ลำแรกของโลกที่ออกแบบโดย Dr. Friedrich Hermann Wolfert แห่งเมือง Leipzig โดยทำการขึ้นบินครั้งแรกจากโรงงานของ Daimler สามารถบินเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตรไปยัง Aldingen Parade ใกล้กับเมือง Kornwestheim หลังจากนั้นอีก 2 วัน Gotthilf Wirsum ได้นำไฮโดรเจนเติมเข้าไปในบอลลูนและทำการบินจาก Cannstatt ติดตั้งเครื่องยนต์เข้าไปด้วย

การบินในระยะสั้นครั้งแรกของโลกได้ถูกนำไปเขียนโดย Dr. Friedrich Hermann Wolfert จัดพิมพ์เป็นหนังสือโดยสำนักพิมพ์ของเขาที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1873 ได้รับความสนใจอย่างมากจนกลายเป็นหนังสือขายดีที่สุดทางด้านการบินในยุคนั้น

ส่วนเครื่องยนต์ที่นำมาติดตั้งในบอลลูนเป็นเครื่องที่ Daimler ได้พัฒนาขึ้นใหม่ แบบ 1 ลูกสูบ ขนาด 603 ซีซี. ขับแรงม้าได้ 2 แรงม้าที่ 720 รอบต่อนาทีซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาทั้งเครื่องยนต์และบอลลูนและทำการบินอีก 3 ครั้ง

ส่วนการทดลองบินเมื่อวันที่ 12 เดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 1897 ด้วยบอลลูนลำใหม่ของ Wolfert ใช้ไฮโดรเจนและติดตั้งเครื่องยนต์ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขณะบินอยู่เหนือกรุงเบอร์ลินที่ระดับความสูง 670 ฟุต ทำให้ Dr. Friedrich Hermann Wolfert ทำหน้าที่นักบินและผู้ช่วยเสียชีวิตทั้งคู่

ต่อมาบอลลูนและเรือเหาะได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการติดเครื่องยนต์และอุปกรณ์ควบคุมการเดินทางต่าง ๆ จนสามารถขับเคลื่อนไปได้เป็นระยะทางไกลระดับข้ามทวีปและได้มีการพัฒนาไปใช้สำหรับการสงครามด้วยการนำเรือเหาะติดระเบิดไปทิ้งใส่ฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม แต่เนื่องจากเรือเหาะมีขนาดใหญ่ เคลื่อนตัวได้ช้าในที่สุดมีอันยุติบทบาทลงไปเปิดทางให้เครื่องบินที่มีการพัฒนาได้รวดเร็วและมีความคล่องตัวสูงเข้ามาทำหน้าที่แทน

Gottlieb Daimler เริ่มป่วยเนื่องมาจากโรคหัวใจในวัย 58 ปีช่วงฤดูร้อนระหว่างปี ค.ศ. 1892-1893 แพทย์ได้แนะนำให้เดินทางไปยังเมืองฟลอเรนซ์, อิตาลีเพื่อพักผ่อนและเขาได้พบกับ Lina Hartmann หญิงหม้ายวัย 22 ปีเจ้าของโรงแรมที่เขาพักและได้แต่งงานกันเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1893 ได้เดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เมืองชิคาโก, สหรัฐอเมริกาในระหว่างมีงาน World Fair

ในปี ค.ศ. 1894 ณ โรงแรมเฮอร์มานน์ Maybach ร่วมกับ Daimler และ Paul บุตรชายของเขาออกแบบเครื่องยนต์ใหม่รุ่นที่ 3 เรียกว่า Phoenix เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 ลูกสูบแนวตั้ง เสื้อสูบแบบหล่อชิ้นเดียว มีแคมชาร์ฟควบคุมระบบวาล์วไอเสีย คาร์บูเรเตอร์จ่ายน้ำมันแบบสเปรย์ฉีด

เครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงมากและได้ถูกผลิตส่งไปยังโรงงานผลิตรถยนต์ต่าง ๆ หลายแห่งประกอบด้วย Panhard et Levassor และ Peugeot แห่งฝรั่งเศส, Steinway & Sons บริษัทผลิตเปียโนในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมหุ้นระหว่างอเมริกันและเยอรมนี, Frederick Simms แห่งอังกฤษ (สาขาของเดมเลอร์ มอเตอร์ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็น Daimler Motor Company ในปี ค.ศ. 1896) และ Austro Daimler แห่งออสเตรีย

Gottlieb Daimler ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปี ค.ศ. 1900 ในวัย 65 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1907 Wilhelm Maybach ได้ลาออกจาก Daimler Motoren Gesellschaft

Wilhelm Maybach ได้สร้างรถยนต์ระดับหรูหราสูงสุดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1919 ต่อมาได้เข้าร่วมงานกับเมอเซเดส-เบนซ์และได้สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ไว้ให้กับเมอเซเดส-เบนซ์ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 2002 ทางเมอเซเดส-เบนซ์ได้นำชื่อยี่ห้อ Maybach รื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถยนต์ระดับหรูหราสูงสุดออกมา 2 รุ่น Maybach 57 และ Maybach 62 อีกหนึ่งตำนานรถยนต์สุดหรูซึ่งทางเมอเซเดส-เบนซ์ได้ประกาศจะยุติสายการผลิตลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2011 และได้ยุติการผลิตในปี ค.ศ. 2013

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!