By : C. Methas – Managing Edition
“มัสแตง” สปอร์ตอเมริกันพันธ์แท้ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นอกเหนือจากต้นแบบแนวคิดก่อนจะผลิตสปอร์ตรุ่นนี้ที่เน้นสมรรถนะ, รูปทรงสวยงามและราคาประหยัด
การโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์และช่วงจังหวะเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้สปอร์ตม้าป่าอเมริกันได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นตั้งแต่เปิดตัวด้วยยอดขายทะลุ 4 แสนคันด้วยตัวเลขที่ 478,812 คันเพียงปีแรกเท่านั้น
การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เริ่มตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวด้วยการโหมโฆษณาในหนังสือสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ อย่างหนักเกือบ 3,000 ฉบับและการโฆษณาทางทีวีไปทั่วสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลา 3 ทุ่มซึ่งเป็นช่วงที่มีคนดูมากที่สุดจนสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านคันภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น
สปอร์ตรุ่นนี้เคยเป้นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฟอร์ด มอเตอร์โดยสามารถทำยอดขายได้เฉลี่ยราว 1 ล้านคันในทุก 18 เดือน
นอกจากนี้ยังเสริมด้วยชุดตกแต่งพิเศษเน้นสมรรถนะจากสำนักเชลบี้ด้วยการเปิดตัวรุ่น Mustang Shelby GT350 อีกหนึ่งตำนานสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์อเมริกันพันธ์เดือด
และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือการโหมโรงต่อเนื่องแม้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้วก็ตามด้วยการนำมัสแตงถอดประกอบขึ้นไปขับบนตึกเอ็มไพร์ สเตจซึ่งในยุคนั้นเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก
ส่วนในปีแรกของการเปิดตัวได้ถูกนำไปเป็นรถยนต์ประกอบภาพยนต์เจมส์ บอนด์เรื่อง “จอมมฤตยู 007” หรือ Goldfinger ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1964
นอกจากนี้ยังมุ่งเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงหรือแม่บ้านเนื่องจากภายหลังสิ้นสุดสงครามเวียตนาม บทบาทของผู้หญิงอเมริกันมีมากขึ้น มัสแตงทำโฆษณาชิ้นหนึ่งในรูปแบบของผู้หญิงขับสปอร์ตมัสแตงไปจ่ายตลาดซึ่งมีคำโฆษณาเด่น ๆ ที่ว่า “มัสแตงมิตรแท้ของการจ่ายตลาด”
การเปิดตัวครั้งแรกของมัสแตงในฐานะรถต้นแบบด้วยการทดสอบในสนามแข่งซึ่งสามารถทำความเร็วเกือบเท่ารถแข่งฟอร์มูล่า-วันในยุคนั้นจนเป็นที่ฮือฮามาก
หลังจากนั้นมัสแตงได้ฝากผลงานอันยิ่งใหญ่ฝากไว้กับวงการแข่งรถทรหดอย่างศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงด้วยรถแข่งโมดิฟายจากสำนักเชลบี้เป็นการคว้าแชมป์โดยเป็นค่ายรถจากสหรัฐอเมริกาที่มาคว้าแชมป์ในรายการดังกล่าวเป็นค่ายแรกเมื่อปี 1965
ส่วนสีสันตัวรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของมัสแตงจากยอดขายทั้งหมดสีแดงทำยอดขายได้ 21 เปอร์เซ็นต์, สีน้ำเงินทำยอดได้ 17 เปอร์เซ็นต์ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงแรก ๆ สีน้ำเงินเป็นสีตัวถังที่ทำยอดขายได้สูงสุดก่อนสีแดงจะทำยอดได้มากกว่า
By : C. Methas - Managing Edition
“มัสแตง” สปอร์ตอเมริกันพันธ์แท้ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นอกเหนือจากต้นแบบแนวคิดก่อนจะผลิตสปอร์ตรุ่นนี้ที่เน้นสมรรถนะ, รูปทรงสวยงามและราคาประหยัด
การโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์และช่วงจังหวะเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้สปอร์ตม้าป่าอเมริกันได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นตั้งแต่เปิดตัวด้วยยอดขายทะลุ 4 แสนคันด้วยตัวเลขที่ 478,812 คันเพียงปีแรกเท่านั้น
การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เริ่มตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวด้วยการโหมโฆษณาในหนังสือสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ อย่างหนักเกือบ 3,000 ฉบับและการโฆษณาทางทีวีไปทั่วสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลา 3 ทุ่มซึ่งเป็นช่วงที่มีคนดูมากที่สุดจนสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านคันภายในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น
สปอร์ตรุ่นนี้เคยเป้นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฟอร์ด มอเตอร์โดยสามารถทำยอดขายได้เฉลี่ยราว 1 ล้านคันในทุก 18 เดือน
นอกจากนี้ยังเสริมด้วยชุดตกแต่งพิเศษเน้นสมรรถนะจากสำนักเชลบี้ด้วยการเปิดตัวรุ่น Mustang Shelby GT350 อีกหนึ่งตำนานสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์อเมริกันพันธ์เดือด
และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือการโหมโรงต่อเนื่องแม้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้วก็ตามด้วยการนำมัสแตงถอดประกอบขึ้นไปขับบนตึกเอ็มไพร์ สเตจซึ่งในยุคนั้นเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก
ส่วนในปีแรกของการเปิดตัวได้ถูกนำไปเป็นรถยนต์ประกอบภาพยนต์เจมส์ บอนด์เรื่อง “จอมมฤตยู 007” หรือ Goldfinger ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1964
นอกจากนี้ยังมุ่งเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงหรือแม่บ้านเนื่องจากภายหลังสิ้นสุดสงครามเวียตนาม บทบาทของผู้หญิงอเมริกันมีมากขึ้น มัสแตงทำโฆษณาชิ้นหนึ่งในรูปแบบของผู้หญิงขับสปอร์ตมัสแตงไปจ่ายตลาดซึ่งมีคำโฆษณาเด่น ๆ ที่ว่า “มัสแตงมิตรแท้ของการจ่ายตลาด”
การเปิดตัวครั้งแรกของมัสแตงในฐานะรถต้นแบบด้วยการทดสอบในสนามแข่งซึ่งสามารถทำความเร็วเกือบเท่ารถแข่งฟอร์มูล่า-วันในยุคนั้นจนเป็นที่ฮือฮามาก
หลังจากนั้นมัสแตงได้ฝากผลงานอันยิ่งใหญ่ฝากไว้กับวงการแข่งรถทรหดอย่างศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงด้วยรถแข่งโมดิฟายจากสำนักเชลบี้เป็นการคว้าแชมป์โดยเป็นค่ายรถจากสหรัฐอเมริกาที่มาคว้าแชมป์ในรายการดังกล่าวเป็นค่ายแรกเมื่อปี 1965
ส่วนสีสันตัวรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของมัสแตงจากยอดขายทั้งหมดสีแดงทำยอดขายได้ 21 เปอร์เซ็นต์, สีน้ำเงินทำยอดได้ 17 เปอร์เซ็นต์ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงแรก ๆ สีน้ำเงินเป็นสีตัวถังที่ทำยอดขายได้สูงสุดก่อนสีแดงจะทำยอดได้มากกว่า