จีนชูนโยบาย “การเมืองนำธุรกิจ” สกัดบริษัทเอกชนรายใหญ่ขนเงินลงทุนต่างประเทศ


หลายปีมานี้ บริษัทขนาดใหญ่จากจีนได้ทุ่มเงินลงทุนเพื่อซื้อกิจการต่างๆ ในหลายประเทศ ตั้งแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงธุรกิจด้านกีฬาและบันเทิง ทำให้มีเงินทุนไหลออกนอกประเทศจีนหลายแสนล้านดอลลาร์

หลังจากมีเงินทุนไหลออกนอกประเทศเป็นปริมาณมหาศาลตลอดหลายปีมานี้ จนส่งผลต่อปริมาณเงินสดสำรองระหว่างประเทศของรัฐบาลจีน ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเริ่มจับตาการทำข้อตกลงซื้อขายกิจการขนาดใหญ่ระหว่างประเทศมากขึ้น โดยระบุว่าอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้ออกมาระบุถึงความเสี่ยงของการทำข้อตกลงขนาดใหญ่ระหว่างบริษัทเอกชนจีนกับบริษัทต่างชาติ ส่งผลให้การลงทุนของจีนในต่างประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว

กรณีแรกที่ทำให้มาตรการควบคุมการทำข้อตกลงขนาดใหญ่ถูกพูดถึง เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เมื่อนายเสี่ยว เจี้ยนหัว มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้มีเครือข่ายความสัมพันธ์แนบแน่นกับนักการเมืองระดับสูง ถูกจับกุมที่โรงแรมของเขาเองที่ฮ่องกง

รายงานระบุว่านายเจี้ยนหัวผู้นี้คือนายหน้าผู้มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีจีน เจียง เจ๋อหมิน โดยหนังสื่อพิมพ์ NY Times เรียกเขาว่าเป็น “นายธนาคารของชนชั้นผู้นำจีน” และเมื่อปี ค.ศ. 2013 NY Times รายงานด้วยว่านายเจี้ยนหัวได้ลงทุน 2,400,000 ดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้นในบริษัทเพื่อการลงทุนของน้องเขยและน้องสาวของ ปธน.สี จิ้นผิง ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานแน่ชัดว่ามหาเศรษฐีผู้นี้ถูกจับกุมเพราะเหตุใด และถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหน

ไม่กี่เดือนต่อมา นายหวู เสี่ยวหุย ประธานบริษัทการเงินและประกันภัยรายใหญ่ Anbang ได้ถูกทางการจีนควบคุมตัวเช่นกัน ซึ่งนายเสี่ยวหุยผู้นี้คือหลานเขยของอดีตผู้นำจีน เติ้ง เสี่ยวผิง ด้วย

บริษัท Anbang ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยได้ลงทุนซื้อกิจการโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งในหลายประเทศ รวมทั้ง Waldorf Astoria และ JW Marriott Essex House ในย่านแมนฮัตตัน ใจกลางมหานครนิวยอร์ก

สำหรับบริษัทจีนรายล่าสุดที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังถูกทางการจีนควบคุมด้านการลงทุนในต่างประเทศ คือ Dalian Wanda Group ซึ่งเข้าไปลงทุนซื้อสโมสรกีฬาและธุรกิจบันเทิง ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้

โดยตั้งแต่มีข่าวออกมา บริษัท Dalian Wanda ได้ขายกิจการไปแล้วหลายอย่างตั้งแต่เดือน ก.ค. รวมทั้งโรงแรม 77 แห่ง และสวนสนุก 13 แห่ง เพื่อนำเงินไปชดใช้หนี้ราว 10,000 ล้านดอลลาร์

หลายปีมานี้ บริษัทขนาดใหญ่จากจีนได้ทุ่มเงินลงทุนเพื่อซื้อกิจการต่างๆ ในหลายประเทศ ตั้งแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงธุรกิจด้านกีฬาและบันเทิง ทำให้มีเงินทุนไหลออกนอกประเทศจีนหลายแสนล้านดอลลาร์

หลังจากมีเงินทุนไหลออกนอกประเทศเป็นปริมาณมหาศาลตลอดหลายปีมานี้ จนส่งผลต่อปริมาณเงินสดสำรองระหว่างประเทศของรัฐบาลจีน ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเริ่มจับตาการทำข้อตกลงซื้อขายกิจการขนาดใหญ่ระหว่างประเทศมากขึ้น โดยระบุว่าอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้ออกมาระบุถึงความเสี่ยงของการทำข้อตกลงขนาดใหญ่ระหว่างบริษัทเอกชนจีนกับบริษัทต่างชาติ ส่งผลให้การลงทุนของจีนในต่างประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว

กรณีแรกที่ทำให้มาตรการควบคุมการทำข้อตกลงขนาดใหญ่ถูกพูดถึง เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เมื่อนายเสี่ยว เจี้ยนหัว มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้มีเครือข่ายความสัมพันธ์แนบแน่นกับนักการเมืองระดับสูง ถูกจับกุมที่โรงแรมของเขาเองที่ฮ่องกง

รายงานระบุว่านายเจี้ยนหัวผู้นี้คือนายหน้าผู้มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีจีน เจียง เจ๋อหมิน โดยหนังสื่อพิมพ์ NY Times เรียกเขาว่าเป็น “นายธนาคารของชนชั้นผู้นำจีน” และเมื่อปี ค.ศ. 2013 NY Times รายงานด้วยว่านายเจี้ยนหัวได้ลงทุน 2,400,000 ดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้นในบริษัทเพื่อการลงทุนของน้องเขยและน้องสาวของ ปธน.สี จิ้นผิง ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานแน่ชัดว่ามหาเศรษฐีผู้นี้ถูกจับกุมเพราะเหตุใด และถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหน

ไม่กี่เดือนต่อมา นายหวู เสี่ยวหุย ประธานบริษัทการเงินและประกันภัยรายใหญ่ Anbang ได้ถูกทางการจีนควบคุมตัวเช่นกัน ซึ่งนายเสี่ยวหุยผู้นี้คือหลานเขยของอดีตผู้นำจีน เติ้ง เสี่ยวผิง ด้วย

บริษัท Anbang ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยได้ลงทุนซื้อกิจการโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งในหลายประเทศ รวมทั้ง Waldorf Astoria และ JW Marriott Essex House ในย่านแมนฮัตตัน ใจกลางมหานครนิวยอร์ก

สำหรับบริษัทจีนรายล่าสุดที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังถูกทางการจีนควบคุมด้านการลงทุนในต่างประเทศ คือ Dalian Wanda Group ซึ่งเข้าไปลงทุนซื้อสโมสรกีฬาและธุรกิจบันเทิง ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้

โดยตั้งแต่มีข่าวออกมา บริษัท Dalian Wanda ได้ขายกิจการไปแล้วหลายอย่างตั้งแต่เดือน ก.ค. รวมทั้งโรงแรม 77 แห่ง และสวนสนุก 13 แห่ง เพื่อนำเงินไปชดใช้หนี้ราว 10,000 ล้านดอลลาร์

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!