ททท. – พีทีที โกลบอล เคมิคอล – มูลนิธิอีโคอัลฟ์ ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ร่วมแก้ปัญหาขยะในทะเลอย่างยั่งยืนที่ เกาะเสม็ด


พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ นายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ราชอาณาจักรสเปน ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย พร้อมเปิดตัวกิจรรมดำน้ำเก็บขยะในทำเล และเก็บขยะบริเวณชายหาด พร้อมมอบถังขยะและถุงขยะให้กับอุทยานฯ และจังหวัดระยอง เพื่อส่งเสริมการทิ้งขยะและการแยกขยะพลาสติค ซึ่งสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าได้

พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand นับเป็นโครงการหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนภาครัฐจัดการปัญหาขยะ ซึ่งเป็นปัญหาที่ถูกระบุให้เป็น 1 ในยุทธศาสตร์ 10 ด้าน ในเรื่องของทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 และเป็นปัญหาระดับสากล ที่ต้องร่วมกันดำเนินการแก้ไข โดยการเก็บขยะจากแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ชายฝั่งและหมู่เกาะของประเทศไทย มาแปรรูปโดยการเพิ่มมูลค่า ซึ่งโครงการคาดวาจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติคในท้องทะเลไทยไม่น้อยกว่า 10 ตัน ในปี 2560”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. กล่าวว่า “ททท. ร่วมกับ พีทีทีจีซี และมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand เพื่อการจัดการขยะในทะเลไทยอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้เกิดการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsible Tourism อาทิ การทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง การเก็บขยะชายหาดและขยะในทะเล เป็นต้น โดยพื้นทีนำร่องของโครงการ คือ ฝั่งทะเลตะวันออก ได้แก่ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ฝั่งทะเลอ่าวไทย ได้แก่ เกาะเต่าและเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ”

ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า “โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand เป็นโครงการที่บูรณาการแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และแก้ปัญหาในทะเลเพื่อระบบนิเวศที่ดีขึ้น โดยการเก็บขยะพลาสติคในทะเล ได้แก่ ขยะขวดพลาสติคใสหรือขวด PET และขยะจากพลาสติคโพลิเอทิลีน PE เช่น ถุงพลาสติค ขวดพลาสติคทึบ มาแปรรูปด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาเป็นเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นที่มีมูลค่าสูงขึ้น การดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand จึงช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล และสร้างคุณค่าของขยะให้เกิดมูลค่าและประโชน์สูงสุด”

นายฮาเวีย โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ กล่าวว่า “ประเทศไทย นับเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ดำเนินการจัดเก็บขยะในทะเลไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งการจัดเก็บ การแปรรูป และพัฒนาเป็นเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น คาดว่าจะสามารถเก็บรวบรวมขยะพลาสติคที่เกาะเสม็ดตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 และนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบทั้งเส้นใยและเม็ดพลาสติคได้ในช่วงต้นปีหน้า”

โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (2560-3562) โดยในช่วงปีแรกจะมุ่งเน้นการให้ความรู้และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ พร้อมทั้งการติดต่อประสานงานพันธมิตรสำหรับการจัดการขยะ ทั้งการเก็บขยะ แยกขยะ และแปรรูปขยะ ปีที่ 2 จะมุ่งเน้นการแปรรูปขยะด้วยนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเป็นวัตถุดบสำหรับการผลิต และปีที่ 3 จะพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่นที่แปรรูปจากขยะในทะเล

พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ นายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ราชอาณาจักรสเปน ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย พร้อมเปิดตัวกิจรรมดำน้ำเก็บขยะในทำเล และเก็บขยะบริเวณชายหาด พร้อมมอบถังขยะและถุงขยะให้กับอุทยานฯ และจังหวัดระยอง เพื่อส่งเสริมการทิ้งขยะและการแยกขยะพลาสติค ซึ่งสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าได้

พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand นับเป็นโครงการหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนภาครัฐจัดการปัญหาขยะ ซึ่งเป็นปัญหาที่ถูกระบุให้เป็น 1 ในยุทธศาสตร์ 10 ด้าน ในเรื่องของทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 และเป็นปัญหาระดับสากล ที่ต้องร่วมกันดำเนินการแก้ไข โดยการเก็บขยะจากแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ชายฝั่งและหมู่เกาะของประเทศไทย มาแปรรูปโดยการเพิ่มมูลค่า ซึ่งโครงการคาดวาจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติคในท้องทะเลไทยไม่น้อยกว่า 10 ตัน ในปี 2560”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. กล่าวว่า “ททท. ร่วมกับ พีทีทีจีซี และมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand เพื่อการจัดการขยะในทะเลไทยอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้เกิดการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsible Tourism อาทิ การทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง การเก็บขยะชายหาดและขยะในทะเล เป็นต้น โดยพื้นทีนำร่องของโครงการ คือ ฝั่งทะเลตะวันออก ได้แก่ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ฝั่งทะเลอ่าวไทย ได้แก่ เกาะเต่าและเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ”

ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า “โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand เป็นโครงการที่บูรณาการแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และแก้ปัญหาในทะเลเพื่อระบบนิเวศที่ดีขึ้น โดยการเก็บขยะพลาสติคในทะเล ได้แก่ ขยะขวดพลาสติคใสหรือขวด PET และขยะจากพลาสติคโพลิเอทิลีน PE เช่น ถุงพลาสติค ขวดพลาสติคทึบ มาแปรรูปด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาเป็นเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นที่มีมูลค่าสูงขึ้น การดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand จึงช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล และสร้างคุณค่าของขยะให้เกิดมูลค่าและประโชน์สูงสุด”

นายฮาเวีย โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ กล่าวว่า “ประเทศไทย นับเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ดำเนินการจัดเก็บขยะในทะเลไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งการจัดเก็บ การแปรรูป และพัฒนาเป็นเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น คาดว่าจะสามารถเก็บรวบรวมขยะพลาสติคที่เกาะเสม็ดตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 และนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบทั้งเส้นใยและเม็ดพลาสติคได้ในช่วงต้นปีหน้า”

โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (2560-3562) โดยในช่วงปีแรกจะมุ่งเน้นการให้ความรู้และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ พร้อมทั้งการติดต่อประสานงานพันธมิตรสำหรับการจัดการขยะ ทั้งการเก็บขยะ แยกขยะ และแปรรูปขยะ ปีที่ 2 จะมุ่งเน้นการแปรรูปขยะด้วยนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเป็นวัตถุดบสำหรับการผลิต และปีที่ 3 จะพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่นที่แปรรูปจากขยะในทะเล

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!