บอร์ดบีโอไอ ให้ส่งเสริมการลงทุน 3 กิจการใหญ่ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 28,000 ล้านบาท


บอร์ดบีโอไอ ให้ส่งเสริมการลงทุน 3 กิจการใหญ่ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 28,000 ล้านบาท

“ซูบารุ” ขยายการลงทุนในไทย 5 พันล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมเกิดใหม่ในชลบุรี ลงทุนรองรับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ท่ีมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้อนุมัติให้ส่งเสริมการลงทุนจำนวน 3 โครงการมูลค่าเงินลงทุนรวม 28,227 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. บริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ทั่วไป เงินลงทุนท้ังสิ้น 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โดยบริษัทจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยสูงสุดของรถยนต์ซูบารุในประเทศไทย จากเดิมมีฐานการผลิตอยู่แล้วที่มาเลเซีย ได้ขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาส และการเติบโตด้านยอดขายทั้งในไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ เช่น ถุงลมนิรภัย กระจก เบาะนั่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,824 ล้านบาทต่อปี

2. นายเกียรติศักดิ์ เลิศศิริอมร ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการเขตอุตสาหกรรม เงินลงทุนทั้งสิ้น 20,476 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาพื้นที่ขนาด 9,832 ไร่ ตั้งอยู่ท่ีอำเภอบ้านบึง และอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาบริเวณชายฝั่งตะวันออก (Eastern Seaboard) มีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมบริการสาธารณูปโภค หรือ อุตสาหกรรมสนับสนุนและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวมถึงพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์

3. บริษัท เอเชียคอมโพสิตแมททีเรียล (ไทยแลนด์) จำกัด ขยายกิจการผลิตเส้นใยไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Roving) เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,751 ล้านบาท ตั้งอยู่ท่ีนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยเส้นใยไฟเบอร์กลาส เป็นวัสดุเสริมแรงให้กับพลาสติกในการข้ึนรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่นอกจากมีความแข็งแรงยังเป็นฉนวนกันความร้อน ซึ่งระหว่างปี 2558-2563 ความต้องการไฟเบอร์กลาสของตลาดโลก จะเพิ่มข้ึน 7.4% สำหรับผลิตภัณฑ์ตามโครงการน้ีมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับใช้ผลิตท่อที่ต้องการความแข็งแรงสูง หรือใช้ทอเป็นผืนผ้าทำเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการนำไปผลิตใบพัดกังหันลมผลิตไฟฟ้า คาดว่าจะใช้วัตถุดิบในประเทศ เช่น แร่ Pyrophyllite, Quartzsand และ Limestone มูลค่ากว่า 196 ล้านบาทต่อปี

บอร์ดบีโอไอ ให้ส่งเสริมการลงทุน 3 กิจการใหญ่ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 28,000 ล้านบาท

“ซูบารุ” ขยายการลงทุนในไทย 5 พันล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมเกิดใหม่ในชลบุรี ลงทุนรองรับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ท่ีมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้อนุมัติให้ส่งเสริมการลงทุนจำนวน 3 โครงการมูลค่าเงินลงทุนรวม 28,227 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. บริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ทั่วไป เงินลงทุนท้ังสิ้น 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โดยบริษัทจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยสูงสุดของรถยนต์ซูบารุในประเทศไทย จากเดิมมีฐานการผลิตอยู่แล้วที่มาเลเซีย ได้ขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาส และการเติบโตด้านยอดขายทั้งในไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ เช่น ถุงลมนิรภัย กระจก เบาะนั่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,824 ล้านบาทต่อปี

2. นายเกียรติศักดิ์ เลิศศิริอมร ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการเขตอุตสาหกรรม เงินลงทุนทั้งสิ้น 20,476 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาพื้นที่ขนาด 9,832 ไร่ ตั้งอยู่ท่ีอำเภอบ้านบึง และอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาบริเวณชายฝั่งตะวันออก (Eastern Seaboard) มีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมบริการสาธารณูปโภค หรือ อุตสาหกรรมสนับสนุนและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวมถึงพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์

3. บริษัท เอเชียคอมโพสิตแมททีเรียล (ไทยแลนด์) จำกัด ขยายกิจการผลิตเส้นใยไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Roving) เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,751 ล้านบาท ตั้งอยู่ท่ีนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยเส้นใยไฟเบอร์กลาส เป็นวัสดุเสริมแรงให้กับพลาสติกในการข้ึนรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่นอกจากมีความแข็งแรงยังเป็นฉนวนกันความร้อน ซึ่งระหว่างปี 2558-2563 ความต้องการไฟเบอร์กลาสของตลาดโลก จะเพิ่มข้ึน 7.4% สำหรับผลิตภัณฑ์ตามโครงการน้ีมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับใช้ผลิตท่อที่ต้องการความแข็งแรงสูง หรือใช้ทอเป็นผืนผ้าทำเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการนำไปผลิตใบพัดกังหันลมผลิตไฟฟ้า คาดว่าจะใช้วัตถุดิบในประเทศ เช่น แร่ Pyrophyllite, Quartzsand และ Limestone มูลค่ากว่า 196 ล้านบาทต่อปี

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!