ปตท.สผ. เข้าซื้อสัดส่วนแหล่งก๊าซฯ บงกช จากเชลล์


บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2561 ปตท.สผ. และบริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ลงนามในสัญญาการโอนสิทธิสัมปทาน (Agreement for the Assignment and Transfer) เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุน 22.2222% ในโครงการบงกช จากบริษัท เชลล์ อินทีเกรทเต็ด แก๊ส ไทยแลนด์ พีทีอี ลิมิเต็ด และบริษัท ไทยเอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเชลล์ (Shell) และเป็นผู้ร่วมทุนในปัจจุบัน

ด้วยมูลค่าก่อนภาษีประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ดอลลาร์ สรอ.) โดยจะส่งผลให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการบงกชเพิ่มขึ้นเป็น 66.6667% ซึ่งการเข้าซื้อสัดส่วนดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญา โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561

“การเข้าซื้อสัดส่วนในโครงการบงกช เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของ ปตท.สผ. ซึ่งให้ความสำคัญกับการแสวงหาสินทรัพย์ที่ผลิตแล้ว หรือที่กำลังเริ่มผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียม ปริมาณสำรองปิโตรเลียม และกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้ทันที” นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าว

หลังจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนครั้งนี้ จะทำให้ปริมาณการขายปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 35,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

แหล่งบงกชเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในอ่าวไทย ประกอบด้วย แปลงบี 15 แปลงบี 16 แปลงบี 17 และแปลงจี 12/48 โดย ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ และมีบริษัท โททาล ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมัน ชั้นนำจากฝรั่งเศสเป็นผู้ร่วมทุน ในสัดส่วน 33.3333% ปัจจุบันมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 860 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคอนเดนเสทประมาณ 26,000 บาร์เรลต่อวัน โดยเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศ ช่วยทดแทนการนำเข้า และลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากโครงการบงกช คิดเป็น 30% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศ

แหล่งบงกชยังเป็นแหล่งก๊าซฯ แห่งแรกที่บริษัทคนไทยเป็นผู้ดำเนินการ โดยกำลังจะครบรอบการผลิต 25 ปีในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของคนไทยในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างมีประสิทธิภาพทัดเทียมบริษัทน้ำมันนานาชาติ

“ปตท.สผ. มุ่งมั่นและเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประมูล เพื่อเป็นผู้ดำเนินการในโครงการบงกชต่อ หลังสัมปทานหมดอายุในปี 2565 และ 2566 เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในอนาคตให้กับประเทศไทยต่อไป” นายสมพร กล่าวเสริม

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2561 ปตท.สผ. และบริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ลงนามในสัญญาการโอนสิทธิสัมปทาน (Agreement for the Assignment and Transfer) เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุน 22.2222% ในโครงการบงกช จากบริษัท เชลล์ อินทีเกรทเต็ด แก๊ส ไทยแลนด์ พีทีอี ลิมิเต็ด และบริษัท ไทยเอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเชลล์ (Shell) และเป็นผู้ร่วมทุนในปัจจุบัน

ด้วยมูลค่าก่อนภาษีประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ดอลลาร์ สรอ.) โดยจะส่งผลให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการบงกชเพิ่มขึ้นเป็น 66.6667% ซึ่งการเข้าซื้อสัดส่วนดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญา โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561

“การเข้าซื้อสัดส่วนในโครงการบงกช เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของ ปตท.สผ. ซึ่งให้ความสำคัญกับการแสวงหาสินทรัพย์ที่ผลิตแล้ว หรือที่กำลังเริ่มผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียม ปริมาณสำรองปิโตรเลียม และกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้ทันที” นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าว

หลังจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนครั้งนี้ จะทำให้ปริมาณการขายปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 35,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

แหล่งบงกชเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในอ่าวไทย ประกอบด้วย แปลงบี 15 แปลงบี 16 แปลงบี 17 และแปลงจี 12/48 โดย ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ และมีบริษัท โททาล ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมัน ชั้นนำจากฝรั่งเศสเป็นผู้ร่วมทุน ในสัดส่วน 33.3333% ปัจจุบันมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 860 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคอนเดนเสทประมาณ 26,000 บาร์เรลต่อวัน โดยเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศ ช่วยทดแทนการนำเข้า และลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากโครงการบงกช คิดเป็น 30% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศ

แหล่งบงกชยังเป็นแหล่งก๊าซฯ แห่งแรกที่บริษัทคนไทยเป็นผู้ดำเนินการ โดยกำลังจะครบรอบการผลิต 25 ปีในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของคนไทยในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างมีประสิทธิภาพทัดเทียมบริษัทน้ำมันนานาชาติ

“ปตท.สผ. มุ่งมั่นและเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประมูล เพื่อเป็นผู้ดำเนินการในโครงการบงกชต่อ หลังสัมปทานหมดอายุในปี 2565 และ 2566 เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในอนาคตให้กับประเทศไทยต่อไป” นายสมพร กล่าวเสริม

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!