รัสเซียเผยภาพโดรนติดอาวุธที่โจมตีฐานทัพของรัสเซียเมื่อหลายวันก่อนโดยช่วงเช้าของวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมาโดรนจำนวน 13 ลำของผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีฐานทัพอากาศเฮไมมีมของรัสเซียที่ตั้งอยู่ในจังหวัดลาตาเกียของซีเรีย และฐานทัพเรือของรัสเซียในเมืองท่าTartus ซึ่งเป็นการถูกบุกโจมตีด้วยโดรนเป็นครั้งแรก
ขณะเกิดเหตุทหารด้านวิทยุรัสเซียได้ใช้เทคนิคเพื่อควบคุมโดรนดังกล่าว จนสามารถควบคุมโดรนไว้ได้ 6 ลำและบังคับให้ 3 ลำในนั้นบินออกไปตกยังนอกค่าย อีก 3 ลำพังตอนตกลงพื้น ส่วน 7 ลำที่เหลือถูกระบบ Pantsir S1 หรือที่นาโตเรียกว่า SA-22 Greyhound ยิงร่วง
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและพัฒนาโดรนของรัสเซียกล่าวว่า โดรนเหล่านี้ติดตั้งระเบิดไว้ราว 10 ลูกต่อหนึ่งลำ ระเบิดแต่ละลูกน้ำหนักประมาณ 400 กรัม ส่วนสารประกอบอินทรีย์ของวัตถุระเบิดเหล่านี้คือ Pentaerythritol tetranitrate (PETN) พร้อมกล่าวว่า ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการรับสัญญาณของโดรนสังหารเหล่านี้มีความแม่นยำในเรื่องพิกัดสูง และเป็นไปไม่ได้ที่จะมาจากข้อมูลสาธารณะอย่างข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต อีกทั้งสารประกอบระเบิดที่พบก็เป็นสารที่ไม่สามารถประกอบกันเองในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือได้ และยังเป็นสารที่ไม่สามารถสกัดออกมาจากวัตถุระเบิดที่มาจากกระสุนปืนหรืออาวุธอื่นๆ ได้อีกด้วย
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เป็นไปได้ว่าเทคนิคการโจมตีใหม่ๆ ของผู้ก่อการร้ายนี้จะมาจากประเทศที่มีระบบนำทางผ่านดาวเทียมและเทคนิคการควบคุมระยะไกลที่ทันสมัยเท่านั้น
สำหรับเรื่องนี้ เพนตากอนกล่าวว่า โดรนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการโจมตีสถานที่ทางทหารของรัสเซียครั้งนี้ หาได้ไม่ยากตามตลาดเปิดทั่วไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่การทหารระดับสูงของรัสเซียกล่าวกับสื่อในกรุงมอสโกว่า หลังจากการตรวจสอบและศึกษา จึงได้ข้อสรุปว่า โดรนติดระเบิดเหล่านี้มีความแม่นยำสูงมากและไม่สามารถผลิตได้เองในครัวเรือน นอกจากนี้ผู้ที่สามารถควบคุมโดรนเหล่านี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมในประเทศที่ผลิตโดรนและมีการใช้งานโดรนอีกด้วย
รัสเซียเผยภาพโดรนติดอาวุธที่โจมตีฐานทัพของรัสเซียเมื่อหลายวันก่อนโดยช่วงเช้าของวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมาโดรนจำนวน 13 ลำของผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีฐานทัพอากาศเฮไมมีมของรัสเซียที่ตั้งอยู่ในจังหวัดลาตาเกียของซีเรีย และฐานทัพเรือของรัสเซียในเมืองท่าTartus ซึ่งเป็นการถูกบุกโจมตีด้วยโดรนเป็นครั้งแรก
ขณะเกิดเหตุทหารด้านวิทยุรัสเซียได้ใช้เทคนิคเพื่อควบคุมโดรนดังกล่าว จนสามารถควบคุมโดรนไว้ได้ 6 ลำและบังคับให้ 3 ลำในนั้นบินออกไปตกยังนอกค่าย อีก 3 ลำพังตอนตกลงพื้น ส่วน 7 ลำที่เหลือถูกระบบ Pantsir S1 หรือที่นาโตเรียกว่า SA-22 Greyhound ยิงร่วง
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและพัฒนาโดรนของรัสเซียกล่าวว่า โดรนเหล่านี้ติดตั้งระเบิดไว้ราว 10 ลูกต่อหนึ่งลำ ระเบิดแต่ละลูกน้ำหนักประมาณ 400 กรัม ส่วนสารประกอบอินทรีย์ของวัตถุระเบิดเหล่านี้คือ Pentaerythritol tetranitrate (PETN) พร้อมกล่าวว่า ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการรับสัญญาณของโดรนสังหารเหล่านี้มีความแม่นยำในเรื่องพิกัดสูง และเป็นไปไม่ได้ที่จะมาจากข้อมูลสาธารณะอย่างข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต อีกทั้งสารประกอบระเบิดที่พบก็เป็นสารที่ไม่สามารถประกอบกันเองในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือได้ และยังเป็นสารที่ไม่สามารถสกัดออกมาจากวัตถุระเบิดที่มาจากกระสุนปืนหรืออาวุธอื่นๆ ได้อีกด้วย
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เป็นไปได้ว่าเทคนิคการโจมตีใหม่ๆ ของผู้ก่อการร้ายนี้จะมาจากประเทศที่มีระบบนำทางผ่านดาวเทียมและเทคนิคการควบคุมระยะไกลที่ทันสมัยเท่านั้น
สำหรับเรื่องนี้ เพนตากอนกล่าวว่า โดรนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการโจมตีสถานที่ทางทหารของรัสเซียครั้งนี้ หาได้ไม่ยากตามตลาดเปิดทั่วไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่การทหารระดับสูงของรัสเซียกล่าวกับสื่อในกรุงมอสโกว่า หลังจากการตรวจสอบและศึกษา จึงได้ข้อสรุปว่า โดรนติดระเบิดเหล่านี้มีความแม่นยำสูงมากและไม่สามารถผลิตได้เองในครัวเรือน นอกจากนี้ผู้ที่สามารถควบคุมโดรนเหล่านี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมในประเทศที่ผลิตโดรนและมีการใช้งานโดรนอีกด้วย
