สสส.เตือนคนเมืองเสี่ยงโรค’ตึกเป็นพิษ’ ต้นเหตุฝุ่นละออง-เชื้อโรคภายในที่อาศัยอยู่


สสส.เตือนเปิดพฤติกรรมคนเมืองบนตึกสูง สะสมความเครียด-ขาดปฏิสัมพันธ์ผู้อยู่อาศัยด้วยกัน พบฝุ่นละออง-เชื้อโรคภายในตึกอาศัยอยู่ เสี่ยงต่อโรคตึกเป็นพิษ

ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จัดงาน”สุขภาวะชุมชนอาคารชุด สร้างความสุขที่ยั่งยืน” ภายใต้โครงการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการชุมชนต้นแบบเพื่อสุขภาวะของการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในอาคารชุด

นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส. กล่าวว่า วิถีการดูแลสุขภาพของคนเมืองในตึกสูงกลายเป็นโจทย์ใหม่ของการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยอาคารชุดในกรุงเทพฯพบว่า มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบตอนเช้ากลับค่ำส่งผลต่อสภาวะความเครียด ขาดปฏิสัมพันธ์ของผู้อยู่อาศัย ละเลยกฎการอยู่ร่วมกัน มีลักษณะครอบครัวเดี่ยวที่มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงอายุ ขาดการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและเสี่ยงต่อโรคตึกเป็นพิษ โดยจะมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองตา เนื่องจากระบบหมุนเวียนอากาศ ฝุ่นละอองและเชื้อโรคภายในตึกอาศัยอยู่ โดยสิ่งที่ค้นพบสอดคล้องกับผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ในการสำรวจวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดของกรุงเทพฯพบว่า สิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกัน95% มองว่า การไม่ปฏิบัติตามกฎการอยู่รวมกันเป็นปัญหาหลักของวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน ตามด้วยต้องการกำหนดวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันเพื่อความสุขสงบ 79% และความไม่รู้จักกัน ต้องการให้ผู้ดูแลคอนโดดูแลสุขทุกข์ของผู้อยู่อาศัย 67%

นพ.ชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สสส.ได้ร่วมกับกทม. และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อหาโมเดลการบริหารจัดการชุมชนอาคารชุด รวมถึงแนวทางสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยและใช้ชีวิตในอาคารชุด โดยทดลองนำร่องในพื้นที่ตึกสูง 5 ชุมชน พบว่าวิธีที่ได้ผลคือการหาแกนนำในพื้นที่มาขับเคลื่อน โดยอาจเป็นผู้นำกิจกรรมชุมชนอยู่แล้ว เช่น ผู้จัดการโครงการหรือนิติบุคคล โดยพัฒนาให้มีความรู้เรื่องสุขภาพที่ดีทั้ง 4 มิติ ประกอบด้วย กาย ใจ สังคม และปัญญา ทักษะการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ทักษะการฟังเพื่อจัดการความขัดแย้ง เรียนรู้การออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะ นอกจากนี้ จะฝึกออกแบบกิจกรรมจริงในพื้นที่ 5 ชุมชนนำร่อง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน

สสส.เตือนเปิดพฤติกรรมคนเมืองบนตึกสูง สะสมความเครียด-ขาดปฏิสัมพันธ์ผู้อยู่อาศัยด้วยกัน พบฝุ่นละออง-เชื้อโรคภายในตึกอาศัยอยู่ เสี่ยงต่อโรคตึกเป็นพิษ ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จัดงาน"สุขภาวะชุมชนอาคารชุด สร้างความสุขที่ยั่งยืน" ภายใต้โครงการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการชุมชนต้นแบบเพื่อสุขภาวะของการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในอาคารชุด นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส. กล่าวว่า วิถีการดูแลสุขภาพของคนเมืองในตึกสูงกลายเป็นโจทย์ใหม่ของการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยอาคารชุดในกรุงเทพฯพบว่า มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบตอนเช้ากลับค่ำส่งผลต่อสภาวะความเครียด ขาดปฏิสัมพันธ์ของผู้อยู่อาศัย ละเลยกฎการอยู่ร่วมกัน มีลักษณะครอบครัวเดี่ยวที่มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงอายุ ขาดการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและเสี่ยงต่อโรคตึกเป็นพิษ โดยจะมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองตา เนื่องจากระบบหมุนเวียนอากาศ ฝุ่นละอองและเชื้อโรคภายในตึกอาศัยอยู่ โดยสิ่งที่ค้นพบสอดคล้องกับผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ในการสำรวจวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดของกรุงเทพฯพบว่า สิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกัน95% มองว่า การไม่ปฏิบัติตามกฎการอยู่รวมกันเป็นปัญหาหลักของวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน ตามด้วยต้องการกำหนดวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันเพื่อความสุขสงบ 79% และความไม่รู้จักกัน ต้องการให้ผู้ดูแลคอนโดดูแลสุขทุกข์ของผู้อยู่อาศัย 67% นพ.ชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สสส.ได้ร่วมกับกทม. และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อหาโมเดลการบริหารจัดการชุมชนอาคารชุด รวมถึงแนวทางสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยและใช้ชีวิตในอาคารชุด โดยทดลองนำร่องในพื้นที่ตึกสูง 5 ชุมชน พบว่าวิธีที่ได้ผลคือการหาแกนนำในพื้นที่มาขับเคลื่อน โดยอาจเป็นผู้นำกิจกรรมชุมชนอยู่แล้ว เช่น ผู้จัดการโครงการหรือนิติบุคคล โดยพัฒนาให้มีความรู้เรื่องสุขภาพที่ดีทั้ง 4 มิติ ประกอบด้วย กาย ใจ สังคม และปัญญา ทักษะการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ทักษะการฟังเพื่อจัดการความขัดแย้ง เรียนรู้การออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะ นอกจากนี้ จะฝึกออกแบบกิจกรรมจริงในพื้นที่ 5 ชุมชนนำร่อง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!