ฮอนด้าทุ่ม 6 ล้านบาท เปิดตัวต้นแบบ150SS Racer


เอ.พี.ฮอนด้า เผยโฉมรถต้นแบบ150SS Racer ที่ใช้งบการพัฒนากว่า 6 ล้านบาท พร้อมยกทัพรถโมเดลใหม่เปิดตัวแบบจัดเต็ม 4 รุ่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017

โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานถึง 28 ปีซ้อน และบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการพัฒนา และผลิตรถจักรยานยนต์เพื่อตอบสนองไ ลฟ์ไตล์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ดังนั้น จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ตามที่ประจักษ์สู่ สายตาผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง

“จากความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยที่มีความเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยม แต่เดิมที่ใช้รถในชีวิตประจำวันสู่การขับขี่ในเชิงสันทนาการ และต่อยอดสู่รูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ เราจึงออกแบบและสร้างบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ Honda Hub of Lifester หรือศูนย์รวมของผู้ที่รักการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ”

“นอกจากนี้เรายังได้จำลอง New Concept Store ร้านมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ภายใต้ชื่อ C.U.B. House (คับ เฮ้าส์) โดยมีแนวคิดให้ช้อปแห่งนี้เป็น House of Creation ที่ไม่ใช่แค่ร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้ามามีส่วนร่วมออกแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเองกับฮอนด้าได้อีกด้วย”

ในส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยนต์ไฮไลท์สำคัญของงาน ได้แก่ รถต้นแบบ Honda 150SS Racer ที่ใช้งบการพัฒนากว่า 6 ล้านบาท คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนา ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Street Sport Racing รวมความเท่และร่วมสมัยในสไตล์ Modern Café Racer ผสานความเร็ว แรง และปราดเปรียวจากสนามแข่งสู่สุดยอดแรงบันดาลใจแห่งการขับขี่ในโลกอนาคต

ตามด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ All New Honda Scoopy i รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทยที่ได้รับการออกแบบใหม่ในสไตล์มินิมอล นำเทรนด์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี เครื่องยนต์ eSP ขนาด 110 ซีซี. 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะ (idling stop system) เทคโนโลยีกระจายแรงเบรค (Combi Brake system) และครั้งแรกของรถจักรยานยนต์กับฟั่งก์ชั่นใหม่ ไฟแจ้งเตือน Eco Mode เมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบประยัดน้ำมัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Ring Light ไฟท้ายแบบบิ้วท์อินติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว เพิ่มที่ชาร์จ AC Socket ใต้คอนโซลหน้า และพื้นที่เก็บของใต้เบาะ U- box แบบจุใจถึง 15.4 ลิตร ราคาแนะนำเริ่มต้นโดยประมาณที่ 51,100 บาทในรุ่น Club 12, 48,600 ในรุ่น Prestige และ 48,100 ในรุ่น Urban team

ขณะที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ นำทัพโดย รถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ New Honda X-ADV ที่ได้รับการพัฒนามาจากแนวคิด Go Everywhere with Excited feeling พกพาคุณสมบัติเด่นด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี. พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการส่งกำลังด้วยระบบ DCT แบบคลัตซ์คู่ สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ตลอดจนรูปแบบออนโร้ดหรือออฟโร้ด เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ราคา 415,000 บาท

ถัดมาเป็นการเปิดตัวคลาสสิกไบค์ระดับตำนาน All New Honda CB1100 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 1,140 ซีซี. โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งเป็นโฉมที่ได้รับการพัฒนาด้านรูปลักษณ์ให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้น จากถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ที่มีความปราดเปรียว ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED เช่นเดียวกับสมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้น จากการรีดน้ำหนักตัวรถโดยรวมที่ลดลง 5 กิโลกรัม พร้อมกับการลดแรงบีบคลัทช์ลง 16% ช่วยให้ขับขี่ง่ายขึ้น พร้อมวางจำหน่ายราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว โดยมี 2 รุ่นให้เลือก CB1100EX ราคา 549,000 บาท และรุ่นใหม่ CB1100RS ราคา 559,000 บาท

สำหรับอีกหนึ่งรุ่นสำคัญ คือ All New Honda CBR1000RR ซูเปอร์สปอร์ตไบค์ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่บนท้องถนน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,000 ซีซี. ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ที่ 13,000 รอบต่อนาที พร้อมวางจำหน่าย ราคา 643,000 บาท รวมถึงยังมีเวอร์ชั่น SP ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่อัพเกรดสมรรถนะเทียบเท่ารถที่ใช้ในการแข่งขัน จัดแสดงพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ราคา 779,000 บาท

ขณะเดียวกันฮอนด้ายังจัดแสดงรถที่จะใช้ลงทำการแข่งขัน รายการ Suzuka 4 Hrs Endurance ตามที่เคยประกาศนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2017 ไปแล้วว่า ต้องการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งนักแข่งและทีมช่างโค้ชรวมถึงสมาชิกในทีมแข่งอย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวสู่รายการแข่งขันระดับโลก และยังได้ผสานความร่วมมือกับ Kushitani แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญการผลิตชุดเรซซิ่งสูทในการออกแบบชุดแข่งให้กับทีม A.P. Honda Racing Thailand สำหรับลงชิงชัยในเกมการแข่งขันที่ทรหดที่สุดรายการนี้อีกด้วย

เอ.พี.ฮอนด้า เผยโฉมรถต้นแบบ150SS Racer ที่ใช้งบการพัฒนากว่า 6 ล้านบาท พร้อมยกทัพรถโมเดลใหม่เปิดตัวแบบจัดเต็ม 4 รุ่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017

โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานถึง 28 ปีซ้อน และบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการพัฒนา และผลิตรถจักรยานยนต์เพื่อตอบสนองไ ลฟ์ไตล์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ดังนั้น จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ตามที่ประจักษ์สู่ สายตาผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง

“จากความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยที่มีความเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยม แต่เดิมที่ใช้รถในชีวิตประจำวันสู่การขับขี่ในเชิงสันทนาการ และต่อยอดสู่รูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ เราจึงออกแบบและสร้างบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ Honda Hub of Lifester หรือศูนย์รวมของผู้ที่รักการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ”

“นอกจากนี้เรายังได้จำลอง New Concept Store ร้านมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ภายใต้ชื่อ C.U.B. House (คับ เฮ้าส์) โดยมีแนวคิดให้ช้อปแห่งนี้เป็น House of Creation ที่ไม่ใช่แค่ร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้ามามีส่วนร่วมออกแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเองกับฮอนด้าได้อีกด้วย”

ในส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยนต์ไฮไลท์สำคัญของงาน ได้แก่ รถต้นแบบ Honda 150SS Racer ที่ใช้งบการพัฒนากว่า 6 ล้านบาท คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนา ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Street Sport Racing รวมความเท่และร่วมสมัยในสไตล์ Modern Café Racer ผสานความเร็ว แรง และปราดเปรียวจากสนามแข่งสู่สุดยอดแรงบันดาลใจแห่งการขับขี่ในโลกอนาคต

ตามด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ All New Honda Scoopy i รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทยที่ได้รับการออกแบบใหม่ในสไตล์มินิมอล นำเทรนด์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี เครื่องยนต์ eSP ขนาด 110 ซีซี. 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะ (idling stop system) เทคโนโลยีกระจายแรงเบรค (Combi Brake system) และครั้งแรกของรถจักรยานยนต์กับฟั่งก์ชั่นใหม่ ไฟแจ้งเตือน Eco Mode เมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบประยัดน้ำมัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Ring Light ไฟท้ายแบบบิ้วท์อินติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว เพิ่มที่ชาร์จ AC Socket ใต้คอนโซลหน้า และพื้นที่เก็บของใต้เบาะ U- box แบบจุใจถึง 15.4 ลิตร ราคาแนะนำเริ่มต้นโดยประมาณที่ 51,100 บาทในรุ่น Club 12, 48,600 ในรุ่น Prestige และ 48,100 ในรุ่น Urban team

ขณะที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ นำทัพโดย รถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ New Honda X-ADV ที่ได้รับการพัฒนามาจากแนวคิด Go Everywhere with Excited feeling พกพาคุณสมบัติเด่นด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี. พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการส่งกำลังด้วยระบบ DCT แบบคลัตซ์คู่ สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ตลอดจนรูปแบบออนโร้ดหรือออฟโร้ด เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ราคา 415,000 บาท

ถัดมาเป็นการเปิดตัวคลาสสิกไบค์ระดับตำนาน All New Honda CB1100 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 1,140 ซีซี. โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งเป็นโฉมที่ได้รับการพัฒนาด้านรูปลักษณ์ให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้น จากถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ที่มีความปราดเปรียว ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED เช่นเดียวกับสมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้น จากการรีดน้ำหนักตัวรถโดยรวมที่ลดลง 5 กิโลกรัม พร้อมกับการลดแรงบีบคลัทช์ลง 16% ช่วยให้ขับขี่ง่ายขึ้น พร้อมวางจำหน่ายราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว โดยมี 2 รุ่นให้เลือก CB1100EX ราคา 549,000 บาท และรุ่นใหม่ CB1100RS ราคา 559,000 บาท

สำหรับอีกหนึ่งรุ่นสำคัญ คือ All New Honda CBR1000RR ซูเปอร์สปอร์ตไบค์ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่บนท้องถนน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,000 ซีซี. ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ที่ 13,000 รอบต่อนาที พร้อมวางจำหน่าย ราคา 643,000 บาท รวมถึงยังมีเวอร์ชั่น SP ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่อัพเกรดสมรรถนะเทียบเท่ารถที่ใช้ในการแข่งขัน จัดแสดงพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ราคา 779,000 บาท

ขณะเดียวกันฮอนด้ายังจัดแสดงรถที่จะใช้ลงทำการแข่งขัน รายการ Suzuka 4 Hrs Endurance ตามที่เคยประกาศนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2017 ไปแล้วว่า ต้องการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งนักแข่งและทีมช่างโค้ชรวมถึงสมาชิกในทีมแข่งอย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวสู่รายการแข่งขันระดับโลก และยังได้ผสานความร่วมมือกับ Kushitani แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญการผลิตชุดเรซซิ่งสูทในการออกแบบชุดแข่งให้กับทีม A.P. Honda Racing Thailand สำหรับลงชิงชัยในเกมการแข่งขันที่ทรหดที่สุดรายการนี้อีกด้วย

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!