อาแมนดิโอ พัลฮาเรส และโจเซล ปินเฮโร สามีภรรยาชาวบราซิลหยุดพักในประเทศไทยระหว่างการเดินทางกว่า 70,000 กม. จากบราซิลสู่เมืองจีนในรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ โดยทั้งคู่ออกเดินทางจากงานเซาเปาโล ออโต้โชว์ ในบราซิลตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
การเดินทางครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง หลังจากทั้งคู่เคยเดินทางเป็นระยะทางกว่า 65,000 กม. ด้วยรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด เริ่มต้นจากโกไอเนียในประเทศบราซิล ถึงรัฐอลาสกาของประเทศสหรัฐอเมริกา
การผจญภัย “เชฟโรเลต โคโลราโด ตะลุยทั่วโลก” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 12 เดือน ผ่านหลายประเทศ ทั้งอาร์เจนติน่า ชิลี เปรู โบลิเวีย ปารากวัย อุรุกวัย มาเลเซีย สิงคโปร์ ประเทศไทย กัมพูชา ลาวก่อนเดินทางถึงจุดหมายปลายทางที่ประเทศจีน
การเดินทางในเอเชีย เริ่มต้นในมาเลเซียและหยุดพักในสิงคโปร์ก่อนเดินทางถึงเมืองไทย ทั้งสองคนใช้รถกระบะโคโลราโด LTZ รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร ทั้งคู่ได้ให้ความไว้วางใจมอบรถเชฟโรเลต โคโลราโด มาให้อยู่ในความดูแลของเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพดูแลบำรุงรักษารถให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกลต่อไป ด้วยการตรวจเช็คตามโปรแกรมพีดีไอ (PDI – Pre-Delivery Inspection) ที่จะตรวจสอบทุกความพร้อมของรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์สูงสุด เพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกลที่รออยู่
“รถกระบะรุ่นใหม่ปี 2017 มีทั้งความสะดวกสบายมากขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในรถเกือบ 1 ปีเต็มเพื่อขับขี่ไปรอบโลก” พัลฮาเรสกล่าว
“ผมขอขอบคุณเชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย ที่ช่วยดูแลรถของเราเป็นอย่างดี ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของโคโลราโดรุ่นใหม่ เราสามารถเดินทางผ่านความท้าทายทุกรูปแบบซึ่งเน้นย้ำสโลแกนของเชฟโรเลต Find New Roads หรือค้นหาเส้นทางใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี”
รถกระบะคันดังกล่าวได้รับการติดตั้ง “บ้าน” บนพื้นกระบะหลังซึ่งมีทั้งเตียงหลังใหญ่ ห้องน้ำ และห้องครัวที่ครบครันทั้งเตาทำอาหารและตู้เย็น บนพื้นที่รวมทั้งหมด 4 ตารางเมตร ผู้สนใจสามารถติดตามการเดินทางของทั้งคู่ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.viajandonos4x4.com.br หรือทางอินสตาแกรม viajandonos4x4 และเฟซบุ๊ก viajandonos4x4
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่ผจญภัย พัลฮาเรส และปินเฮโร แบ่งปันเคล็ดลับสำหรับผู้ที่ต้องการออกเดินทางค้นหาเส้นทางใหม่ด้วยตนเอง
มีรถที่เหมาะสมกับการเดินทาง ซึ่งเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางระยะไกลและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
อาแมนดิโอ พัลฮาเรส และโจเซล ปินเฮโร สามีภรรยาชาวบราซิลหยุดพักในประเทศไทยระหว่างการเดินทางกว่า 70,000 กม. จากบราซิลสู่เมืองจีนในรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ โดยทั้งคู่ออกเดินทางจากงานเซาเปาโล ออโต้โชว์ ในบราซิลตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
การเดินทางครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง หลังจากทั้งคู่เคยเดินทางเป็นระยะทางกว่า 65,000 กม. ด้วยรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด เริ่มต้นจากโกไอเนียในประเทศบราซิล ถึงรัฐอลาสกาของประเทศสหรัฐอเมริกา
การผจญภัย “เชฟโรเลต โคโลราโด ตะลุยทั่วโลก” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 12 เดือน ผ่านหลายประเทศ ทั้งอาร์เจนติน่า ชิลี เปรู โบลิเวีย ปารากวัย อุรุกวัย มาเลเซีย สิงคโปร์ ประเทศไทย กัมพูชา ลาวก่อนเดินทางถึงจุดหมายปลายทางที่ประเทศจีน
การเดินทางในเอเชีย เริ่มต้นในมาเลเซียและหยุดพักในสิงคโปร์ก่อนเดินทางถึงเมืองไทย ทั้งสองคนใช้รถกระบะโคโลราโด LTZ รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร ทั้งคู่ได้ให้ความไว้วางใจมอบรถเชฟโรเลต โคโลราโด มาให้อยู่ในความดูแลของเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพดูแลบำรุงรักษารถให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกลต่อไป ด้วยการตรวจเช็คตามโปรแกรมพีดีไอ (PDI – Pre-Delivery Inspection) ที่จะตรวจสอบทุกความพร้อมของรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์สูงสุด เพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกลที่รออยู่
“รถกระบะรุ่นใหม่ปี 2017 มีทั้งความสะดวกสบายมากขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในรถเกือบ 1 ปีเต็มเพื่อขับขี่ไปรอบโลก” พัลฮาเรสกล่าว “ผมขอขอบคุณเชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย ที่ช่วยดูแลรถของเราเป็นอย่างดี ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของโคโลราโดรุ่นใหม่ เราสามารถเดินทางผ่านความท้าทายทุกรูปแบบซึ่งเน้นย้ำสโลแกนของเชฟโรเลต Find New Roads หรือค้นหาเส้นทางใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี”
รถกระบะคันดังกล่าวได้รับการติดตั้ง “บ้าน” บนพื้นกระบะหลังซึ่งมีทั้งเตียงหลังใหญ่ ห้องน้ำ และห้องครัวที่ครบครันทั้งเตาทำอาหารและตู้เย็น บนพื้นที่รวมทั้งหมด 4 ตารางเมตร ผู้สนใจสามารถติดตามการเดินทางของทั้งคู่ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.viajandonos4x4.com.br หรือทางอินสตาแกรม viajandonos4x4 และเฟซบุ๊ก viajandonos4x4
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่ผจญภัย พัลฮาเรส และปินเฮโร แบ่งปันเคล็ดลับสำหรับผู้ที่ต้องการออกเดินทางค้นหาเส้นทางใหม่ด้วยตนเอง มีรถที่เหมาะสมกับการเดินทาง ซึ่งเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางระยะไกลและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
