ข้อมูลจากงาน SNEC เผยผู้ผลิตทั่วโลกเกาะติดเทรนด์โมดูล 600W+ โดยมี “ทรินา โซลาร์” เป็นผู้นำโมดูล n-type กำลังการผลิตไฟฟ้าสูง


เซี่ยงไฮ้–16 มิถุนายน 2566–พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

ในการประชุมและนิทรรศการว่าด้วยการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริยะนานาชาติ (International Photovoltaic Power Generation and Smart Energy Conference and Exhibition หรือ SNEC) ครั้งที่ 16 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ได้พร้อมใจกันเปิดตัวโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ 600W+ รุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมดูล 600W+ ขนาด 210 มม. ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% ของโมดูลที่จัดแสดงทั้งหมด สำหรับในส่วนของเทคโนโลยี PERC, TOPCon และ HJT นั้น พบว่าโมดูล 600W+ ราว 81% ใช้เทคโนโลยีสองตัวแรก ขณะที่โมดูล 600W+ และโมดูลเทคโนโลยี i-TOPCon ขนาด 210 มม. กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

ผู้ผลิตรายใหญ่เกาะติดเทรนด์โมดูล 600W+ โดยขนาด 210 มม. ครองสัดส่วนถึง 60%

ผู้ผลิตโมดูล 82% ภายในงานได้จัดแสดงโมดูล 600W+ รวมเกือบ 100 รุ่นภายในงาน สำหรับในแง่ของขนาดเซลล์ที่ประกอบเป็นโมดูลนั้น พบว่าโมดูลราว 90% โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมดูล 600W+ ใช้เซลล์ขนาด 210 มม. 182 มม. และเซลล์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในจำนวนนี้ เซลล์ขนาด 210 มม. ครองสัดส่วนมากที่สุดถึง 60% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโมดูลขนาดใหญ่และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงกำลังเป็นเทรนด์ที่ครองความนิยมในอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้สูงสุด ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ติดตั้งโมดูลและพื้นที่ระหว่างเซลล์ที่ประกอบเป็นโมดูล บริษัท ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ได้บุกเบิกเทคโนโลยีเซลล์ทรงสี่เหลี่ยนผืนผ้า ซึ่งสร้างเทรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรม

*หมายเหตุ: ไม่ใช่ข้อมูลสถิติทั้งหมดของโมดูล 600W+ ที่จัดแสดงภายในงาน

TOPCon และ PERC ครองสัดส่วน 80% ด้านเทคโนโลยี n-type ขนาด 210 มม. เป็นกระแสหลักของโมดูล 600W+

ในแง่ของเทคโนโลยีนั้น จากการวิเคราะห์โมดูล 279 รุ่น จากผู้ผลิต 68 รายภายในงาน พบว่าโมดูลกำลังสูง 600W+ มีการจัดแสดงเป็นจำนวนมากและใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างหลากหลาย ได้แก่ PERC, TOPCon และ HJT โดยโมดูล PERC คิดเป็นสัดส่วน 44.8%, โมดูล TOPCon คิดเป็นสัดส่วน 36.5% และโมดูล HJT คิดเป็นสัดส่วน 17.7% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่าเทคโนโลยี n-type ถูกนำไปใช้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องในเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นใหม่ ๆ และตอกย้ำความเป็นตัวเลือกยอดนิยมของตลาดเซลล์แสงอาทิตย์

ยิ่งไปกว่านั้น การใช้เทคโนโลยี n-type ได้ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของโมดูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในงาน SNEC นั้น โมดูลเกือบ 20 รุ่นมีกำลังสูง 700W+ และทั้งหมดใช้เทคโนโลยี 210 มม. ในจำนวนนี้ โมดูล 12 รุ่นใช้เทคโนโลยี HJT และ 6 รุ่นใช้เทคโนโลยี TOPCon

ทรินา โซลาร์ เป็นผู้นำด้านโมดูลกำลังสูงที่ใช้เวเฟอร์ขนาด 210 มม. และเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมไปสู่ยุคโมดูล 600W+ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตาในงาน SNEC ขณะเดียวกัน ภายในงานยังเน้นย้ำเทรนด์ n-type ด้วยเช่นกัน ซึ่งในโอกาสนี้ ทรินา โซลาร์ ได้อวดโฉมเทคโนโลยีขั้นสูง n-type i-TOPCon สู่สายตาทั่วโลก นอกจากนั้นยังเตรียมอัปเกรดโมดูลรุ่น Vertex N เพื่อให้โมดูลที่ผลิตในปริมาณมากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 700W ในปีหน้า

เซี่ยงไฮ้--16 มิถุนายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต

ในการประชุมและนิทรรศการว่าด้วยการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริยะนานาชาติ (International Photovoltaic Power Generation and Smart Energy Conference and Exhibition หรือ SNEC) ครั้งที่ 16 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ได้พร้อมใจกันเปิดตัวโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ 600W+ รุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมดูล 600W+ ขนาด 210 มม. ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% ของโมดูลที่จัดแสดงทั้งหมด สำหรับในส่วนของเทคโนโลยี PERC, TOPCon และ HJT นั้น พบว่าโมดูล 600W+ ราว 81% ใช้เทคโนโลยีสองตัวแรก ขณะที่โมดูล 600W+ และโมดูลเทคโนโลยี i-TOPCon ขนาด 210 มม. กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

ผู้ผลิตรายใหญ่เกาะติดเทรนด์โมดูล 600W+ โดยขนาด 210 มม. ครองสัดส่วนถึง 60%

ผู้ผลิตโมดูล 82% ภายในงานได้จัดแสดงโมดูล 600W+ รวมเกือบ 100 รุ่นภายในงาน สำหรับในแง่ของขนาดเซลล์ที่ประกอบเป็นโมดูลนั้น พบว่าโมดูลราว 90% โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมดูล 600W+ ใช้เซลล์ขนาด 210 มม. 182 มม. และเซลล์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในจำนวนนี้ เซลล์ขนาด 210 มม. ครองสัดส่วนมากที่สุดถึง 60% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโมดูลขนาดใหญ่และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงกำลังเป็นเทรนด์ที่ครองความนิยมในอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้สูงสุด ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ติดตั้งโมดูลและพื้นที่ระหว่างเซลล์ที่ประกอบเป็นโมดูล บริษัท ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ได้บุกเบิกเทคโนโลยีเซลล์ทรงสี่เหลี่ยนผืนผ้า ซึ่งสร้างเทรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรม

*หมายเหตุ: ไม่ใช่ข้อมูลสถิติทั้งหมดของโมดูล 600W+ ที่จัดแสดงภายในงาน

TOPCon และ PERC ครองสัดส่วน 80% ด้านเทคโนโลยี n-type ขนาด 210 มม. เป็นกระแสหลักของโมดูล 600W+

ในแง่ของเทคโนโลยีนั้น จากการวิเคราะห์โมดูล 279 รุ่น จากผู้ผลิต 68 รายภายในงาน พบว่าโมดูลกำลังสูง 600W+ มีการจัดแสดงเป็นจำนวนมากและใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างหลากหลาย ได้แก่ PERC, TOPCon และ HJT โดยโมดูล PERC คิดเป็นสัดส่วน 44.8%, โมดูล TOPCon คิดเป็นสัดส่วน 36.5% และโมดูล HJT คิดเป็นสัดส่วน 17.7% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่าเทคโนโลยี n-type ถูกนำไปใช้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องในเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นใหม่ ๆ และตอกย้ำความเป็นตัวเลือกยอดนิยมของตลาดเซลล์แสงอาทิตย์

ยิ่งไปกว่านั้น การใช้เทคโนโลยี n-type ได้ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของโมดูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในงาน SNEC นั้น โมดูลเกือบ 20 รุ่นมีกำลังสูง 700W+ และทั้งหมดใช้เทคโนโลยี 210 มม. ในจำนวนนี้ โมดูล 12 รุ่นใช้เทคโนโลยี HJT และ 6 รุ่นใช้เทคโนโลยี TOPCon

ทรินา โซลาร์ เป็นผู้นำด้านโมดูลกำลังสูงที่ใช้เวเฟอร์ขนาด 210 มม. และเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมไปสู่ยุคโมดูล 600W+ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตาในงาน SNEC ขณะเดียวกัน ภายในงานยังเน้นย้ำเทรนด์ n-type ด้วยเช่นกัน ซึ่งในโอกาสนี้ ทรินา โซลาร์ ได้อวดโฉมเทคโนโลยีขั้นสูง n-type i-TOPCon สู่สายตาทั่วโลก นอกจากนั้นยังเตรียมอัปเกรดโมดูลรุ่น Vertex N เพื่อให้โมดูลที่ผลิตในปริมาณมากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 700W ในปีหน้า

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!