By : C. Methas – Managing Editor
ค่ายดอดจ์แห่งอเมริกาเหนือเคยประสบความสำเร็จจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในยุคแรกและเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมาก่อนหน้าน ค่ายรถรายนี้ก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้อง John Dodge และ Horace Dodge เมื่อปี 1900 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของอุตสาหกรรมรถยนต์โดยมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่ดีทรอยท์
ในปี 1914 โรงงานหลักของดอดจ์ที่ดีทรอยท์ผลิตรถยนต์ได้ 249 คันต่อปี หลังจากนั้นได้ขยายการผลิตได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 45,000 คันต่อปีโดยเป็นค่ายผลิตรถยนต์อันดับ 3 ที่ใช้ระบบการผลิตแบบสายพานการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมยานยนต์
ดอดจ์เป็นค่ายแรกที่นำระบบสายพานการผลิตตัวถังทั้งหมดมาใช้เป็นค่ายแรกและได้สร้างนวัตกรรมยานยนต์ไว้หลายส่วน นอกจากนี้ยังได้ตั้งราคารถยนต์ที่ไม่แพงเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งซึ่งเป็นผลดีกับผู้บริโภค แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองได้เสียชีวิตลงด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 1920 หลังจากนั้นอีก 8 ปีต่อมาทางค่ายดอดจ์ได้ถูกซื้อกิจการไปโดยวอลเตอร์ พี. ไครสเลอร์
รถยนต์แบบทัวริ่งของดอดจ์ รุ่น Model Brother 30-35 ปี 1915 เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน Model 30-35 ของดอดจ์รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ แบบ L-head แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 3.5 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์คู่ วงแหวนลูกสูบจำนวน 3 วงแหวน ความกว้างกระบอกสูบ 99 มิลลิเมตร ช่วงชัก 114 มิลลิเมตร เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากเหล็กหล่อ สามารถขับแรงม้าสูงสุด 35 แรงม้าที่ 2000 รอบต่อนาที Model 30-35
วางรูปแบบเครื่องยนต์ วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะแบบปรับเลื่อน มีน้ำหนักรถเปล่า 2,210 ปอนด์
รถยนต์แบบทัวริ่งเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่ผลิตแบบเน้นคุณภาพสูง ไฟหน้ารูปทรงกลมแยกซ้าย-ขวา ฝากระโปรงเปิดออกแบบปรับพับด้านเดียว กระทะล้อผลิตจากไม้ ลวดลายหลายก้าน ซุ้มล้อออกแบบลาดเอียงต่อเนื่องบันไดข้างและซุ้มล้อหลัง ตัวรถรูปทรงกล่องหลังคาแบบผ้าใบปรับพับเก็บได้แบบเปิดประทุนโดยรถรุ่นนี้ได้ผลิตตัวถังด้วยเหล็กทั้งหมดเป็นรุ่นแรกของดอดจ์
ด้านข้างตัวรถมีบันไดขนาดใหญ่ให้ความสะดวกในการเข้า-ออกห้องโดยสาร แผงกระจกหน้าแนวตั้ง มีแผงบังแดด ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยหนังแท้
1915 Dodge Brother Model 30-35 ซีดานขนาดกะทัดรัดตั้งราคาไว้ที่ 790 ดอลล่ารสหรัฐฯ ผลิตออกมาทั้งหมดรวม 45,000 คันโดยผลิตออกมาระหว่างปี 1914-1921
By : C. Methas - Managing Editor
ค่ายดอดจ์แห่งอเมริกาเหนือเคยประสบความสำเร็จจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในยุคแรกและเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมาก่อนหน้าน ค่ายรถรายนี้ก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้อง John Dodge และ Horace Dodge เมื่อปี 1900 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของอุตสาหกรรมรถยนต์โดยมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่ดีทรอยท์
ในปี 1914 โรงงานหลักของดอดจ์ที่ดีทรอยท์ผลิตรถยนต์ได้ 249 คันต่อปี หลังจากนั้นได้ขยายการผลิตได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 45,000 คันต่อปีโดยเป็นค่ายผลิตรถยนต์อันดับ 3 ที่ใช้ระบบการผลิตแบบสายพานการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมยานยนต์
ดอดจ์เป็นค่ายแรกที่นำระบบสายพานการผลิตตัวถังทั้งหมดมาใช้เป็นค่ายแรกและได้สร้างนวัตกรรมยานยนต์ไว้หลายส่วน นอกจากนี้ยังได้ตั้งราคารถยนต์ที่ไม่แพงเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งซึ่งเป็นผลดีกับผู้บริโภค แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองได้เสียชีวิตลงด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 1920 หลังจากนั้นอีก 8 ปีต่อมาทางค่ายดอดจ์ได้ถูกซื้อกิจการไปโดยวอลเตอร์ พี. ไครสเลอร์
รถยนต์แบบทัวริ่งของดอดจ์ รุ่น Model Brother 30-35 ปี 1915 เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน Model 30-35 ของดอดจ์รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ แบบ L-head แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 3.5 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์คู่ วงแหวนลูกสูบจำนวน 3 วงแหวน ความกว้างกระบอกสูบ 99 มิลลิเมตร ช่วงชัก 114 มิลลิเมตร เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากเหล็กหล่อ สามารถขับแรงม้าสูงสุด 35 แรงม้าที่ 2000 รอบต่อนาที Model 30-35
วางรูปแบบเครื่องยนต์ วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะแบบปรับเลื่อน มีน้ำหนักรถเปล่า 2,210 ปอนด์
รถยนต์แบบทัวริ่งเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่ผลิตแบบเน้นคุณภาพสูง ไฟหน้ารูปทรงกลมแยกซ้าย-ขวา ฝากระโปรงเปิดออกแบบปรับพับด้านเดียว กระทะล้อผลิตจากไม้ ลวดลายหลายก้าน ซุ้มล้อออกแบบลาดเอียงต่อเนื่องบันไดข้างและซุ้มล้อหลัง ตัวรถรูปทรงกล่องหลังคาแบบผ้าใบปรับพับเก็บได้แบบเปิดประทุนโดยรถรุ่นนี้ได้ผลิตตัวถังด้วยเหล็กทั้งหมดเป็นรุ่นแรกของดอดจ์
ด้านข้างตัวรถมีบันไดขนาดใหญ่ให้ความสะดวกในการเข้า-ออกห้องโดยสาร แผงกระจกหน้าแนวตั้ง มีแผงบังแดด ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยหนังแท้
1915 Dodge Brother Model 30-35 ซีดานขนาดกะทัดรัดตั้งราคาไว้ที่ 790 ดอลล่ารสหรัฐฯ ผลิตออกมาทั้งหมดรวม 45,000 คันโดยผลิตออกมาระหว่างปี 1914-1921
